เจอร์เก้น คลอปป์ ยอดโค้ชชาวเยอรมัน ใช้เวลาไม่ถึงสองปี เปลี่ยนแปลงลิเวอร์พูล อดีตแชมป์ยุโรปห้าสมัย ที่ตกต่ำมือเปล่าปราศจากถ้วยแชมป์ประดับตู้มาเนิ่นนาน ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการเถลิงบรรลังก์ Premier League Asia Trophy ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ในโอกาสนี้ จึงขอสรุปความยิ่งใหญ่ของการคว้าแชมป์ในครั้งนี้ของลิเวอร์พูล เพื่อให้แฟนลิเวอร์พูลได้ภาคภูมิใจ และแฟนทีมอื่นได้ร่วมชมเชยโดยทั่วกัน ดังนี้ครับ
- Premier League Asia Trophy เป็นรายการเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์เนิ่นนาน จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2003 (พ.ศ.2546) หรือ 14 ปีที่แล้ว หากนึกไม่ออกว่าเก่าแก่แค่ไหน ก็ลองคิดดูว่า สมัยนั้นประเทศไทยยังมีนายกรัฐมนตรีชื่อทักษิณ ชินวัตร ปกครองประเทศไทย ภายใต้คำขวัญ คิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อไทยทุกคน อยู่เลยครับ
- Premier League Asia Trophy เดิมชื่อว่า FA Premier League Asia Cup จัดการแข่งขันโดย Premier League ของอังกฤษ จึงสามารถเรียกได้ว่าเป็นถ้วยแชมป์ของพรีเมียร์ลีกอย่างเต็มภาคภูมิ และยิ่งใหญ่กว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกทั่วไปๆ เนื่องจากเป็นการแข่งขันฟุตบอลรายการเดียวในโลกใบนี้ ที่จัดโดยพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นอกแผ่นดินอังกฤษ
- ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น Premier League Asia Trophy ยังจัดการแข่งขันสองปีครั้ง ทำให้โอกาสได้แชมป์ ยากกว่าพรีเมียร์ลีกปกติที่เตะเป็นประจำทุกปี
- นอกจากนั้น ทีมที่จะได้รับเกียรติเข้าร่วมการแข่งขัน มีเพียงครั้งละ 4 ทีมเท่านั้น ทำให้ Premier League Asia Trophy มีความยิ่งใหญ่เหนือพรีเมียร์ลีกปกติ ที่มีจำนวนทีมได้รับโอกาสเข้าแข่งขันถึง 20 ทีม
- โดยในครั้งนี้ผู้จัดเลือกยอดทีมเข้าร่วมแข่งขันชิงความเป็นหนึ่งของพรีเมียร์ลีก ประกอบด้วย ลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรป 5 สมัย และอดีตแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษเมื่อปี 1989-1990 (ปีที่กำแพงเบอร์ลิน สัญลักษณ์ของสงครามเย็น ถูกทลาย) เลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก ปี 2015-2016 เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน อดีตแชมป์ลีกสูงสุดปี 1919 และคริสตัล พาเลซ ทีมเก่าของลีซอ
- จากการแข่งขันทั้งหมดแปดครั้งที่ผ่านมา มีเพียง 7 ทีมเท่านั้น ที่มีโอกาสชูถ้วยแชมป์ทรงเกียรติใบนี้ ลิเวอร์พูลคือหนึ่งในนั้น ร่วมทำเนียบแชมป์เคียงคู่กับยอดทีมอย่างโบลตัน วันเดอร์เรอร์ และปอร์ทสมัธ
- การคว้าแชมป์ครั้งนี้ เกิดขึ้นในแผ่นดินฮ่องกง ใกล้ๆเซินเจิ้น ซึ่งถือเป็นวาระที่ยิ่งใหญ่ยิ่ง ด้วยว่าฮ่องกงเคยเป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษ และปีนี้ครบรอบ 20 ปี ที่อังกฤษคืนฮ่องกงให้จีนพอดี ลิเวอร์พูลจึงเป็นตัวแทนของอังกฤษ ประกาศศักดาของอังกฤษ คว้าแชมป์ตบหน้าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่เพิ่งเดินทางมาร่วมพิธีฉลอง 20 ปีก่อนหน้านี้ไปหมาดๆ
- แชมป์คราวนี้ ทำให้ลิเวอร์พูลกลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จแซงหน้าทีมชาติไทยไปแล้ว เนื่องจากทีมชาติไทยเคยได้เพียงรองแชมป์ เมื่อคราวได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันประจำปี 2005 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน โดยโบลตัน วันเดอร์เรอร์ คว้าแชมป์ไปครอง เฉือนเอาชนะทีมชาติไทยไปหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของเอล ฮัดจิ ดิยุฟ อดีตตำนานสุดยอดกองหน้าของลิเวอร์พูล อย่างไรก็ดี ในฐานะคนไทยก็น่าภาคภูมิใจว่า ทีมชาติไทยของเรา ที่นำทีมโดยดัสกร ทองเหลา เคยเฉียดเข้าใกล้ถ้วยแชมป์ยิ่งใหญ่ที่ลิเวอร์พูลได้ครอบครองใบนี้ คล้ายๆกับที่ทีมทรู ออลสตาร์ ของไทย เคยเฉียดใกล้ถ้วยแชมป์ True Super Trophy แต่ถูกลิเวอร์พูลปาดหน้าคว้าแชมป์ไปครองอย่างน่าเจ็บช้ำ
สุดท้ายนี้ ขอปรบมือให้กับเจอร์เก้น คลอปป์ นักเตะลิเวอร์พูล ทีมงานทุกท่าน และที่ลืมไม่ได้คือ แฟนบอลลิเวอร์พูลที่อดทนรอถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก บางคนรอมาตั้งแต่ยังไม่เกิด จนในที่สุดก็สมดังฝันแล้ว และขออำนวยอวยพรให้ลิเวอร์พูลครอบครองความยิ่งใหญ่เป็นเจ้าเอเชียและมหาอำนาจฟุตบอลปรีซีซั่นต่อไปอีกนานแสนนานครับ
อาจมีคนไม่เข้าใจว่าถ้วย Premier League Asia Trophy ยิ่งใหญ่แค่ไหน จึงสรุปมาให้อ่านเพื่อฉลองความยิ่งใหญ่ของลิเวอร์พูลครับ
- Premier League Asia Trophy เป็นรายการเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์เนิ่นนาน จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2003 (พ.ศ.2546) หรือ 14 ปีที่แล้ว หากนึกไม่ออกว่าเก่าแก่แค่ไหน ก็ลองคิดดูว่า สมัยนั้นประเทศไทยยังมีนายกรัฐมนตรีชื่อทักษิณ ชินวัตร ปกครองประเทศไทย ภายใต้คำขวัญ คิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อไทยทุกคน อยู่เลยครับ
- Premier League Asia Trophy เดิมชื่อว่า FA Premier League Asia Cup จัดการแข่งขันโดย Premier League ของอังกฤษ จึงสามารถเรียกได้ว่าเป็นถ้วยแชมป์ของพรีเมียร์ลีกอย่างเต็มภาคภูมิ และยิ่งใหญ่กว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกทั่วไปๆ เนื่องจากเป็นการแข่งขันฟุตบอลรายการเดียวในโลกใบนี้ ที่จัดโดยพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นอกแผ่นดินอังกฤษ
- ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น Premier League Asia Trophy ยังจัดการแข่งขันสองปีครั้ง ทำให้โอกาสได้แชมป์ ยากกว่าพรีเมียร์ลีกปกติที่เตะเป็นประจำทุกปี
- นอกจากนั้น ทีมที่จะได้รับเกียรติเข้าร่วมการแข่งขัน มีเพียงครั้งละ 4 ทีมเท่านั้น ทำให้ Premier League Asia Trophy มีความยิ่งใหญ่เหนือพรีเมียร์ลีกปกติ ที่มีจำนวนทีมได้รับโอกาสเข้าแข่งขันถึง 20 ทีม
- โดยในครั้งนี้ผู้จัดเลือกยอดทีมเข้าร่วมแข่งขันชิงความเป็นหนึ่งของพรีเมียร์ลีก ประกอบด้วย ลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรป 5 สมัย และอดีตแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษเมื่อปี 1989-1990 (ปีที่กำแพงเบอร์ลิน สัญลักษณ์ของสงครามเย็น ถูกทลาย) เลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก ปี 2015-2016 เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน อดีตแชมป์ลีกสูงสุดปี 1919 และคริสตัล พาเลซ ทีมเก่าของลีซอ
- จากการแข่งขันทั้งหมดแปดครั้งที่ผ่านมา มีเพียง 7 ทีมเท่านั้น ที่มีโอกาสชูถ้วยแชมป์ทรงเกียรติใบนี้ ลิเวอร์พูลคือหนึ่งในนั้น ร่วมทำเนียบแชมป์เคียงคู่กับยอดทีมอย่างโบลตัน วันเดอร์เรอร์ และปอร์ทสมัธ
- การคว้าแชมป์ครั้งนี้ เกิดขึ้นในแผ่นดินฮ่องกง ใกล้ๆเซินเจิ้น ซึ่งถือเป็นวาระที่ยิ่งใหญ่ยิ่ง ด้วยว่าฮ่องกงเคยเป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษ และปีนี้ครบรอบ 20 ปี ที่อังกฤษคืนฮ่องกงให้จีนพอดี ลิเวอร์พูลจึงเป็นตัวแทนของอังกฤษ ประกาศศักดาของอังกฤษ คว้าแชมป์ตบหน้าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่เพิ่งเดินทางมาร่วมพิธีฉลอง 20 ปีก่อนหน้านี้ไปหมาดๆ
- แชมป์คราวนี้ ทำให้ลิเวอร์พูลกลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จแซงหน้าทีมชาติไทยไปแล้ว เนื่องจากทีมชาติไทยเคยได้เพียงรองแชมป์ เมื่อคราวได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันประจำปี 2005 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน โดยโบลตัน วันเดอร์เรอร์ คว้าแชมป์ไปครอง เฉือนเอาชนะทีมชาติไทยไปหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของเอล ฮัดจิ ดิยุฟ อดีตตำนานสุดยอดกองหน้าของลิเวอร์พูล อย่างไรก็ดี ในฐานะคนไทยก็น่าภาคภูมิใจว่า ทีมชาติไทยของเรา ที่นำทีมโดยดัสกร ทองเหลา เคยเฉียดเข้าใกล้ถ้วยแชมป์ยิ่งใหญ่ที่ลิเวอร์พูลได้ครอบครองใบนี้ คล้ายๆกับที่ทีมทรู ออลสตาร์ ของไทย เคยเฉียดใกล้ถ้วยแชมป์ True Super Trophy แต่ถูกลิเวอร์พูลปาดหน้าคว้าแชมป์ไปครองอย่างน่าเจ็บช้ำ
สุดท้ายนี้ ขอปรบมือให้กับเจอร์เก้น คลอปป์ นักเตะลิเวอร์พูล ทีมงานทุกท่าน และที่ลืมไม่ได้คือ แฟนบอลลิเวอร์พูลที่อดทนรอถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก บางคนรอมาตั้งแต่ยังไม่เกิด จนในที่สุดก็สมดังฝันแล้ว และขออำนวยอวยพรให้ลิเวอร์พูลครอบครองความยิ่งใหญ่เป็นเจ้าเอเชียและมหาอำนาจฟุตบอลปรีซีซั่นต่อไปอีกนานแสนนานครับ