เย็นวันเสาร์ มีจิ้งจกตัวหนึ่งเกาะอยู่บนเพดานในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทันใดนั้น อยู่ๆมันก็หลับแล้วพลัดตกลงบนศีรษะลูกค้าหญิงคนหนึ่งที่กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ แล้วไต่ไปตามตัว เธอกรีดร้องด้วยความตกใจกระโดดลุกขึ้นจากเก้าอี้ ใช้มือทั้งสองข้างพยายามปัดจิ้งจกออกไป ท่าทางและเสียงร้องของเธอ ทำให้คนที่นั่งรับประทานอยู่ในร้านพากันตกอกตกใจตามไปด้วย ที่สุดเธอก็สามารถปัดเอาจิ้งจกออกไปจากตัวเธอได้...แต่เจ้ากรรม...จิ้งจกตัวนั้นไต่ไปเกาะที่แขนของผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ แล้วก็เป็นเช่นเดิม มีเสียงกรีดร้อง ตามด้วยการลุกขึ้นเต้น พยายามปัดจิ้งจกให้ออกไปจากตัวเธอ พนักงานเสริฟชายรีบเข้าไปช่วย พอดีกับที่จิ้งจกตัวนั้นกระโดดมาเกาะที่เสื้อของเขา เขามองดูพฤติกรรมของเจ้าจิ้งจกบนเสื้อของเขาสักครู่ จากนั้นก็คว้าจิ้งจกไว้ในมือของเขา แล้วนำมันไปปล่อยนอกร้านอาหาร
อะไรคือความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมของผู้หญิงทั้งสองกับพนักงานเสริฟ ทั้งๆที่แต่ละคนล้วนถูกจิ้งจกเกาะที่ตัวของตนเองเหมือนกัน ผู้หญิงทั้งสองไม่สามารถควบคุมอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงของตนเองได้ แต่ในขณะที่พนักงานเสริฟควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างราบเรียบ ปรากฎการณ์นี้ทำให้รู้ว่าไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจตกต่ำที่ทำให้คนในห้องราชดำเนินพากันโวยวายอารมณ์เสีย วิตกกังวล แต่เป็นเพราะการที่คนในห้องราชดำเนินไม่สามารถยอมรับกับรัฐบาลที่ตัวเองไม่สนับสนุนได้ ไม่ใช่ราคาพืชผลตกต่ำ หนี้เสียที่มีอยู่ ที่ทำให้พวกเขาบ่นอยู่ตลอดเวลาแต่เป็นเพราะเขาไม่สามารถยอมรับมันได้ ถ้าไม่ได้เกิดจากรัฐบาลที่สนับสนุน สาเหตุไม่ได้เกิดจากตัวปัญหา แต่เกิดจากปฏิกิริยาที่มีให้กับปัญหา จึงทำให้เกิดความวุ่นวาย หาความสงบไม่ได้ในชีวิตของพวกเขา
ข้อคิดที่ได้จากจิ้งจก คือ แทนที่คนเราจะมีปฏิกิริยาตอบโต้กับปัญหาในชีวิตประจำวันเหมือนกับผู้หญิงทั้งสองคน เราควรที่จะตอบรับมัน เหมือนกับพนักงานเสริฟ
ดังนั้น การที่เรามีความตระหนักรู้ในตนเองที่จะตอบรับกับทุกปัญหาทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา ก็จะทำให้เราดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข
หวังว่า..ข้อคิดจากจิ้งจก จะช่วยให้คนห้องราชดำเนินรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้
ด้วยความปรารถนาดีค่ะ
ปล. แรงบันดาลใจแนวคิดนี้ได้มาจาก"ทฤษฎีแมลงสาป" ของ Sundra Pichai ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท Google
~มาลาริน~** ข้อคิดจากจิ้งจก 🐾🐾🐾🐾🐾
อะไรคือความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมของผู้หญิงทั้งสองกับพนักงานเสริฟ ทั้งๆที่แต่ละคนล้วนถูกจิ้งจกเกาะที่ตัวของตนเองเหมือนกัน ผู้หญิงทั้งสองไม่สามารถควบคุมอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงของตนเองได้ แต่ในขณะที่พนักงานเสริฟควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างราบเรียบ ปรากฎการณ์นี้ทำให้รู้ว่าไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจตกต่ำที่ทำให้คนในห้องราชดำเนินพากันโวยวายอารมณ์เสีย วิตกกังวล แต่เป็นเพราะการที่คนในห้องราชดำเนินไม่สามารถยอมรับกับรัฐบาลที่ตัวเองไม่สนับสนุนได้ ไม่ใช่ราคาพืชผลตกต่ำ หนี้เสียที่มีอยู่ ที่ทำให้พวกเขาบ่นอยู่ตลอดเวลาแต่เป็นเพราะเขาไม่สามารถยอมรับมันได้ ถ้าไม่ได้เกิดจากรัฐบาลที่สนับสนุน สาเหตุไม่ได้เกิดจากตัวปัญหา แต่เกิดจากปฏิกิริยาที่มีให้กับปัญหา จึงทำให้เกิดความวุ่นวาย หาความสงบไม่ได้ในชีวิตของพวกเขา
ข้อคิดที่ได้จากจิ้งจก คือ แทนที่คนเราจะมีปฏิกิริยาตอบโต้กับปัญหาในชีวิตประจำวันเหมือนกับผู้หญิงทั้งสองคน เราควรที่จะตอบรับมัน เหมือนกับพนักงานเสริฟ
ดังนั้น การที่เรามีความตระหนักรู้ในตนเองที่จะตอบรับกับทุกปัญหาทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา ก็จะทำให้เราดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข
หวังว่า..ข้อคิดจากจิ้งจก จะช่วยให้คนห้องราชดำเนินรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้
ด้วยความปรารถนาดีค่ะ
ปล. แรงบันดาลใจแนวคิดนี้ได้มาจาก"ทฤษฎีแมลงสาป" ของ Sundra Pichai ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท Google