**กราบสวัสดี ยามดึก กับวันศุกร์ และขอแสดงความยินดีกับชัยชนะ 3-0 ต่อทีมมาเลเซียของน้องๆ ครับ**
หลังจากลาออกมานั่งๆนอน อยู่บ้านมาสักพัก ผมก็เลยซุ่มเฝ้าฝึกทักษะ ของโค๊ชคีบอร์ด K-license อยู่เนืองๆ
วันนี้ เลยอยากะโชว์ของ(มั่วๆ) ผิดบ้งมั่วบ้าง ตามประสาโค๊ชคีบอร์ด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
วิเคราะห์ผู้เล่น และไลน์อัพ
ไทย(u23) ชุดนี้ มาด้วย ไลน์อัพ 4-2-3-1 หรือ 4-3-3
จากไลน์อัพ ดูแล้วเกมสฺ์รกริมเส้นของเราน่ากลัวแน่ จากการมีทั้ง ชัยวัฒฝั่งซ้าย และศศลักษณ์ฝั่งขวา คาดว่าแทคติกเกมส์รุกของเราคงเน้นออกริมเส้น แล้วตบเข้ากลางเหมือนเดิมแหงๆ โดยน่าจะเน้นออกซ้าย เพราะ ชัยญวัฒเล่นคู่กับสุริยา ในไทยลีคได้สะแด่วไปเลย ทั้งการเติมเกมส์และโอเวอแลป โค๊ชโย่งคงจะใช้จุดเด่นนี้มาโจมตี มาเลเซีย แหงๆ
ส่วนมาเลเซ๊ย มาในแผนเดิมกับนัดที่แล้ว คือ 3-5-2 แต่นัดนี้คงเน้นยืน 5-3-2 เพราะเพิ่งกุมความได้เปรียบ 3 แต้มมา นัดนนี้ คงเน้นเอารับแน่น และรอสวนออกข้าง ใช้ความสามารถของเบอร์ 10 เพื่อเรียกฟาว อีกทั้งจุดเด่นของชุดนี้ คือลูกตั้งเตะที่ประมาทไม่ได้ โค๊ชมาเล คงหวังใช้จุดเด่นตรงนี้เช่นกัน
***ก่อนเริ่มเข้าเนื้อหา ขอบอกก่อนว่า บอลเด็ก U23 จริงๆก็ถือว่าไม่เด็กละนะ การวางแผนแทคติก ค่อนข้างมีผลต่อรูปเกมส์ การจะใช้ความสามารถเฉพาะตัว บดเอาชนะนั้น ก็เป็นไปได้ยากเหมือนกัน ถ้าเจอทีมที่มีแทคติกดีและเด็กทำตามแทคติกได้ดี***
Kick Off
รูปเกมส์ก็เป็นไปตามคาด คือไทยพยายามครองเกมส์บุก ส่วนมาเล พยายามโต้เร็ว โดยการสาดลูกโด่ง ออกไปทางริมเส้น
ซึ่งเด็กมาเล ต้องการออกบอลยาว และทำตรงนี้ได้ไม่ค่อยดี ทำให้ไทยดักเก็บได้หมด เพราะจากรูปจะเห็นว่า กองหน้ามาเล ยืนห่างกันมาก เพื่อเพิ่มโอกาสทางเลือกในการออกริมเส้นในการวางบอล แต่บอลกลับไปไม่ถึง อีกอย่าง โค๊ชโย่งคงกำชับ ศฤงคาร มาเรื่องระวังการ สอดหลุดแนวกองหลังเราของ สองกองหน้ามาเล จะเห็นได้ว่าทุกครั้งที่มีการเปิดกมส์ยาว ศฤงคาร จะวิ่งไปยืนห้อยท้าย ในทิศทางของบอลจะไป ถ้าบอลถูกดีเลย์ หรือโดนตัดได้ จึงค่อยวิ่งกลับเข้าไลน์
อีกอย่างทีมมาเลย์ ยืนห่างกันเพื่อเพิ่มทางเลือกในการออกบอลริมเส้น ทำให้เกิดช่องว่างตรงกลาง ซึ่งพอบอลมาเล มาถึงโซนนี้ ไทยก็ดักกินหมด เพราะไม่สามารถเชื่อมบอลได้
จะเห็นว่าแผนมาเล นั้นทำให้ไทยตัดบอลได่บ่อย อีกทั้งโค๊ชโย่ง ใช้แทคติกในการบีบพื้นที่เร็ว ค่อนขางสูง ทำให้ทีมมาเล ออกบอลยาวไม่ถนัด บอลจึงขาดความแม่นยำ ไทยก็ตัดบอลได้ง่าย
จากรูปหลังจากตัดบอลได้ ทางเลือกในการจ่ายบอลของเจ้าอินซ์ เชาวัฒ นั้นค่อนข้างมาก อีกทั้งไลน์การยืนของกองหลังมาเลเซีย ค่อนข้างสูง ทำให้เกิดพื้นที่หลังไลน์ อีกทั้ง แนวรับ และกองกลางตัวกลาง ของมาเล นั้น หลุดออกจากตำแหน่งบ่อยมาก ภานุเดช จึงมีพื้นที่เยอะมากในแนวรุก
การยืนแนวรับของ มาเล ดูสะเปะสะปะ กว่าที่คิดมาก ไทยจึงมีโอกาสโจมตีพื้นที่ริมเส้นทางฝั่งซ้ายโดย ชัยวัฒ บ่อยครั้ง แม้จากรูปนี้ จะล้ำหน้า แต่ครึ่งแรก การล้ำหน้าของชัยวัฒน์ 5 ครั้งได้มั้ง ซึ่งเป็นการล้ำหน้า ไม่ใช่เพราะ แนวรับมาเล แต่เพราะ ชัยวัฒน์ ไม่เลี้ยงไลน์ตำแหน่งการยืน
อย่างที่บอก กลาง 3 ตัวของมาเล ทำงานได้ค่อนข้างหลุดฟอม ทั้งกองหลัง 5 คน ของมาเลยังยืนกันได้หลวม จากรูปจะเห็นว่า ภานุเดช มีทางเลือกในการทำเกมส์ มากมาย ทั้งเลือกจ่ายคลอสข้ามไปทางซ้าย หรือจ่ายทะลุแนวรับไป หรือฝากบอลไปที่ ศศลักษณ์ ทั้งยังสามารถ เลี้ยงตัดเข้าพิ้นที่ว่างสีฟ้า จากการยืนไลน์ของเมเล
มาดูจังหวะการได้ประตูของไทย
การเปิดบอลจากฝั่งขวา ในเกมส์จะเห็นว่า แนวรับของมาเล เข้าบีบช้ามาก ไทยมีเวลาเปิดบอลแบบเน้นๆ ซึ่งโค๊ชโย่งวางการออกบอลริมเส้น เพื่อโจมตีมาเล ไว้อยู่แล้ว
เมื่อมีเวลาเปิด บอลก็เลยมาถึง ศศลักษณ์ ซึ่งกองหลัง 3 คนข้างใน ประกบไม่ดีพอ อีกอย่าง ศศลักษณ์ ก็ออกตัวได้ไว จึงถึงบอลก่อน และซํดไปชนเสา เด้งมาหาเจนรบ ซ้ำเข้าไป
จะเห็นว่าการคลอสข้ามไลน์ไปยังจุดนัดพบ ไม่ใช่จุดเด่นเดิมของเด็กชุดนี้ แสดงว่าแนวทางการเล่นของชุดนี้ได้พัฒนาขึ้นเหมือนกัน
เมื่อมาเลเสียประตู เชปการเล่นของมาเล ก็เปลี่ยนมาเป็น 3-5-2 ชัดเจน โดนพยายามขึ้นบอลที่ เบอร์ 10 แต่ไทยก็ตัดบอลได้อยูเรื่อยๆ เรียกว่า มาเล ออกบอลสะเปะสะปะ เพราะแมคติก การบีบเพลสไวกลางสนาม ของโค๊ชโย่ง ทำให้ความแม่นยำในการออกบอลของมาเล เสียไป พื้นที่การเล่นของไทยก็เปิดกว้างไปอีก เพราะเสียเชปในการเล่น
เมื่อมาเลพยายามบุก และไทยตัดบอลได้ จึงมีพื้นที่ในการสวนมากมาย ทางเลือกในการเล่น แนวรุกของไทย ที่ส่วนมากเป็น ตัวหลักในไทยลีค จึงแสดงความเอาท์คลาสออกมา ในครึ่งหลัง
*** ใจจริง อยากเขียน รายละเอียดปลีกย่อย มากกว่านี้ ทั้งเรื่องการรักษาเชป และโมเมนตัม การปลี่ยนตัว แต่ก็ง่วงเหลือเกินจึงขอลาค่ำคืนนี้ไปก่อนนะครับ
K- license ทำงาน..... วิเคราะห์แทคติก(U23) ไทย นัดเจอ มาเลเซีย