ตั้งกระทู้นี้มีเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับใครหลายคนที่เห็นว่าคนที่มีการศึกษาดี พูดจาไพเราะ ภาพลักษณ์ดีจะเป็นคนดีเสมอไปนะคะ
เป็นเรื่องราวของน้องสาวเราค่ะ น้องเราทำงานที่รพ.เอกชนมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งค่ะ ไปเพราะคำชักชวนของรุ่นพี่ที่ทำงานที่นั่นมาก่อน และเป็นจุดเริ่มต้นของการรู้จักพยาบาลหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ในที่ทำงานที่เข้ามาพูดคุยทักทาย แสดงความห่วงใยและดูแลน้องเราเป็นอย่างดีตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้จักกัน จนเวลาผ่านล่วงเลยไปเกือบ2ปี คือเหมือนคบกันนะคะแต่ทางฝ่ายผู้ชายบอกไว้ว่าในศาสนาของเขา การคบกันแฟนคือบาป น้องเราเลยไม่มีสถานะที่ชัดเจนในการคบกันค่ะ (คนละศาสนากันค่ะ) น้องเราเลยคบกันแบ น้องเราได้มีโอกาสให้ไปอบรม 5 เดือนที่กรุงเทพ แรกเริ่มน้องเราลังเลเพราะไม่อยากติดสัญญาเป็นเวลานานและค่าใช้ทุนสูง แต่ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีและเพื่อความก้าวหน้าของการงาน น้องเราจึงปรึกษาฝ่ายชายและพบว่าฝ่ายชายสนับสนุนให้ไปโดยให้คำแนะนำว่านอกจากความก้าวหน้าทางการงานแล้ว ยังจะได้เป็นสิ่งที่ผูกมัดน้องเราให้อยู่กับเขาไปได้นานๆ ทางที่บ้านเราจะได้ให้น้องเราอยู่ต่อได้อีก น้องเราเลยตัดสินใจมาอบรม ทุกครั้งที่พยาบาลหนุ่มเข้ากรุงเทพ ก็จะนัดพบกันและติดต่อกันตลอด
จนเข้าสู่เดือนที่3ของการอบรม ซึ่งตรงกับช่วงถือศีลอดของศาสนาเขา วันสุดท้ายที่น้องเราพบพยาบาลหนุ่มคนนั้น เขากล่าวว่าช่วงถือศีลอาจจะไม่สามารถติดต่อกันได้มากเหมือนแต่ก่อน เพราะช่วงกลางคืนต้องไปศึกษาหลักธรรมของศาสนา น้องเราจึงไม่เอะใจกับการหายไปของเขาในช่วงนั้น แต่เมื่อครบเวลาถือศีล น้องเราจึงทักไปหาเพราะน้องเราท้อง น้องเราเครียดมากและไม่รู้จะปรึกษาใครจะพยายามติดต่อหาพยาบาลหนุ่มคนนั้นผ่านทางข้อความ แต่ก็ไม่เคยได้รับการติดต่อกลับมาจนน้องเราตัดสินใจโทรหาในคืนนึง เขารับสายและกล่าวว่ายังไม่สามารถคุยด้วยได้เพราะต้องไปหาญาติที่ต่างจังหวัด จากนั้นก็ตัดสายทิ้งและไม่รับสายอีกเลย น้องเราสับสนว่าเค้าเกิดและโตที่นั่น เคยบอกน้องเราว่าที่ย้ายไปอยู่ที่อื่นไม่ได้เพราะครอบครัวและญาติๆทั้งหมดอาศัยที่นั่น ต้องดูแลคนในครอบครัว และที่ผ่านมาไม่เคยติดต่อหรือไปหาญาติคนนั้นเลยซักครั้ง
น้องเราเลยตัดสินใจหาข้อมูลจากคนที่รู้จักและพบว่าจริงๆแล้วเค้าไปหาผู้หญิงอีกคนที่อยู่ต่างจังหวัด และผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนของเค้าที่คบกันมานานหลายปี น้องเราจึงสืบหาfacebook ของผู้หญิงคนนั้นแล้วติดต่อไปเพื่อจะค้นหาความจริงและขอโทษผู้หญิงคนนั้นที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับแฟนหนุ่มของตัวเอง เมื่อพยาบาลหนุ่มทราบเรื่อง จึงส่งข้อความกลับมาหาน้องเราว่าอย่าติดต่อหาผู้หญิงคนนั้นอีก ส่วนเรื่องที่ท้อง ก็ขอร้องน้องเราให้ทำแท้ง และอย่าบอกใครว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ให้รู้กันเพียง3คน น้องเราตัดสินใจที่จะเก็บเด็กไว้และตั้งใจจะเลี้ยงลูกคนเดียวโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับพยาบาลหนุ่มอีก
ควรทำอย่างไรกับคนแบบนี้ดีคะ #อุทาหรณ์สอนใจ
เป็นเรื่องราวของน้องสาวเราค่ะ น้องเราทำงานที่รพ.เอกชนมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งค่ะ ไปเพราะคำชักชวนของรุ่นพี่ที่ทำงานที่นั่นมาก่อน และเป็นจุดเริ่มต้นของการรู้จักพยาบาลหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ในที่ทำงานที่เข้ามาพูดคุยทักทาย แสดงความห่วงใยและดูแลน้องเราเป็นอย่างดีตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้จักกัน จนเวลาผ่านล่วงเลยไปเกือบ2ปี คือเหมือนคบกันนะคะแต่ทางฝ่ายผู้ชายบอกไว้ว่าในศาสนาของเขา การคบกันแฟนคือบาป น้องเราเลยไม่มีสถานะที่ชัดเจนในการคบกันค่ะ (คนละศาสนากันค่ะ) น้องเราเลยคบกันแบ น้องเราได้มีโอกาสให้ไปอบรม 5 เดือนที่กรุงเทพ แรกเริ่มน้องเราลังเลเพราะไม่อยากติดสัญญาเป็นเวลานานและค่าใช้ทุนสูง แต่ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีและเพื่อความก้าวหน้าของการงาน น้องเราจึงปรึกษาฝ่ายชายและพบว่าฝ่ายชายสนับสนุนให้ไปโดยให้คำแนะนำว่านอกจากความก้าวหน้าทางการงานแล้ว ยังจะได้เป็นสิ่งที่ผูกมัดน้องเราให้อยู่กับเขาไปได้นานๆ ทางที่บ้านเราจะได้ให้น้องเราอยู่ต่อได้อีก น้องเราเลยตัดสินใจมาอบรม ทุกครั้งที่พยาบาลหนุ่มเข้ากรุงเทพ ก็จะนัดพบกันและติดต่อกันตลอด
จนเข้าสู่เดือนที่3ของการอบรม ซึ่งตรงกับช่วงถือศีลอดของศาสนาเขา วันสุดท้ายที่น้องเราพบพยาบาลหนุ่มคนนั้น เขากล่าวว่าช่วงถือศีลอาจจะไม่สามารถติดต่อกันได้มากเหมือนแต่ก่อน เพราะช่วงกลางคืนต้องไปศึกษาหลักธรรมของศาสนา น้องเราจึงไม่เอะใจกับการหายไปของเขาในช่วงนั้น แต่เมื่อครบเวลาถือศีล น้องเราจึงทักไปหาเพราะน้องเราท้อง น้องเราเครียดมากและไม่รู้จะปรึกษาใครจะพยายามติดต่อหาพยาบาลหนุ่มคนนั้นผ่านทางข้อความ แต่ก็ไม่เคยได้รับการติดต่อกลับมาจนน้องเราตัดสินใจโทรหาในคืนนึง เขารับสายและกล่าวว่ายังไม่สามารถคุยด้วยได้เพราะต้องไปหาญาติที่ต่างจังหวัด จากนั้นก็ตัดสายทิ้งและไม่รับสายอีกเลย น้องเราสับสนว่าเค้าเกิดและโตที่นั่น เคยบอกน้องเราว่าที่ย้ายไปอยู่ที่อื่นไม่ได้เพราะครอบครัวและญาติๆทั้งหมดอาศัยที่นั่น ต้องดูแลคนในครอบครัว และที่ผ่านมาไม่เคยติดต่อหรือไปหาญาติคนนั้นเลยซักครั้ง
น้องเราเลยตัดสินใจหาข้อมูลจากคนที่รู้จักและพบว่าจริงๆแล้วเค้าไปหาผู้หญิงอีกคนที่อยู่ต่างจังหวัด และผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนของเค้าที่คบกันมานานหลายปี น้องเราจึงสืบหาfacebook ของผู้หญิงคนนั้นแล้วติดต่อไปเพื่อจะค้นหาความจริงและขอโทษผู้หญิงคนนั้นที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับแฟนหนุ่มของตัวเอง เมื่อพยาบาลหนุ่มทราบเรื่อง จึงส่งข้อความกลับมาหาน้องเราว่าอย่าติดต่อหาผู้หญิงคนนั้นอีก ส่วนเรื่องที่ท้อง ก็ขอร้องน้องเราให้ทำแท้ง และอย่าบอกใครว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ให้รู้กันเพียง3คน น้องเราตัดสินใจที่จะเก็บเด็กไว้และตั้งใจจะเลี้ยงลูกคนเดียวโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับพยาบาลหนุ่มอีก