อย่ามาเป็นProgramerกินเงินเดือน หากไม่ได้หลงรักการเขียนโปรแกรม(เตือนใจน้องๆ)

โปรแกรมเมอร์ สายอาชีพที่ขาดแคลนอย่างหนัก จน บริษัทต้อง รับด้วยเรทเงินเดือนที่สูงกว่าพนักงานoperation ปกติ
ใครหลายคนอาจคิดว่า อาชีพนี้เป็นอาชีพ ที่อนาคตรุ่งโลด ชัชวาล แน่นอน วู้วหู้ว
.
.
.
มันไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอกครับ

หากคุณเลือกจะเป็นโปรแกรมเมอร์ แล้วไม่ได้รักการเขียนโปรแกรมขนาด "55เขียนโคดสนุกจังเลยวู้วหู้ว" อย่าเลือกมาเป็นครับ
ผมพูดถึงคนที่เลือกได้นะครับ พวกเรียนเก่งเลือกคณะอะไรก็ได้กำลังคิดถึงอนาคตตัวเองว่าเป็นอะไรดีที่สุด

บางคนคิดว่าเออเราชอบคอม แล้วงาน สายนี้กำลังบูม ต้องมีอนาคตที่ดีแน่ๆเลยคิดแค่นี้แล้วเข้า วิทยาการคอมหรือวิศวะคอมถ้าคิดแค่นี้คุณคิดผิด

1.อาชีพนี้ ไม่มีใบวิชาชีพ สิ่งที่คุณได้จากการเรียน คือความรู้ เท่านั้น ไม่เหมือนอาชีพอื่น เช่น วิศวะ หรือแพทย์ ที่มีใบวิชาชีพให้สอบ มีคณะหรือกลุ่มคนในประเทศมาช่วยกันคิดถึงผลประโยนช์ ของวิชาชีพตัวเอง ในยุคปัจจุบัน ผมบอกได้เลยครับ "ความรู้มันราคาถูก" ใครๆก็ใช้googleหาความรู้ได้
ความรู้อาจจะมีราคาแพงกว่ากำลังก็จริง แต่มันไม่ได้มีราคาแพงเลยในสังคมปัจุบันโดยเฉพาะความรู้ทางเทคนิคแบบนี้ แต่ที่ต่างกันคือการปกป้องทางกฎหมาย สมมุติมี คนจบแพทย์คนหนึ่ง มีคนรู้จักเป็นโปรแกรมเมอร์ ให้เขาสอนและตั้งใจ เรียนรู้จนทำงานโปรแกรมเมอร์ได้ เขาก็จะได้เป็นโปรแกรมเมอร์
กลับกัน ถ้าคนจบ IT มีคนรู้จักเป็นแพทย์ ให้เขาสอนวิชาความรู้ ในการเป็นแพทย์ จนทำได้ คนจบIT ก็ไม่สามารถเป็นแพทย์ได้ เพราะข้อกฎหมาย

2.ความรู้ที่คุณได้ตอนเรียนนั้นมีอายุขัย ไม่เหมือนอาชีพอื่นๆ ที่บางครั้ง รู้ทีเดียวใช้งานได้ตลอดชีวิต หากเทคโนโลยีเปลี่ยน ความรู้คุณก็กลายเป็นขยะได้ชั่ว ข้ามคืน ไม่ว่ามันจะเป็นความรู้ที่ ท้าทาย หรือ ยากแค่ไหนก็ตาม

3.บางคนอาจจะชอบการเขียนโปรแกรม จากการเขียนบอทragnarok หรืออะไรก็แล้วแต่ ถามตัวเอง คุณชอบ " เขียนโปรแกรม" หรือ คุณชอบ
"ตัวผลลัพธ์" เช่น จริงๆคุณไม่ได้ชอบ การเขียนโปรแกรม คุณชอบ ที่เมื่อโปรแกรมมันเสร็จแล้วคุณไม่ต้องทำอะไร ใช้ชีวิตสบายๆ โดยที่ เลเวลไวกว่าคนอื่น แบบนี้ไม่เหมาะกับการเป็นโปรแกรมเมอร์เงินเดือน เพราะสิ่งที่คุณจะทำคือการเขียนโปรแกรมช่วยคนอื่นให้สบายขึ้นแต่คุณcoding แบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน

4.บริษัท ก็ไม่ได้อยากจ้างโปรแกรมเมอร์ในราคาที่สูงหรอกครับ เพราะ โปรแกรมเมอร์นั้น ก็เหมือนกับคนงานก่อสร้างแค่เป็นคนงานที่หายากและขาดแคลน ต้องจ้างจำนวนมากๆ เพื่อให้งานสำเร็จ เพียงแต่ตอนนี้มันขาดแคลน เขาก็ต้องจำใจจ้างในราคาแพง ส่วนมากก็จะจ้างแบบ out source เอา เพราะจริงๆ ก็ไม่ได้อยากจ้างตลอด ถ้าเมื่อไร โปรแกรมเมอร์ ไม่ได้ขาดแคลนขนาดนี้ เรทเงินเดือนก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ หากคุณเข้ามาอาชีพนี้ด้วยความคิดที่ว่าได้เงินเยอะ คุณจะไม่ได้อะไรเลย

5.งาน out source ที่ว่าเงินดีๆ นั้นคือเทียบกะระดับ operation ด้วยกัน out source ไม่มีวันได้เป็น manager หรือผู้บริหาร ที่เรทเงินเดือนในไทย คืออีกระดับ และเมื่อแก่มาเขาก็แค่เขี่ยคุณทิ้ง

6.ไม่มีครอบครัวไหนสอนลูกว่า ตั้งใจเรียนสิลูกโตขึ้นจะได้เป็นโปรแกรมเมอร์ เพื่อชีวิตที่ดีของลูก
------------------------------------------------------------------------------------------------------ อันนี้ผมกลับมา เพิ่มข้อในกระทู้นะครับ(09/07/2561)
7.บางคนอาจจะคิดว่า ถ้าคุณเก่ง ตามเทคโนโลยีทัน ไงก็ไม่ตกงานหรอกอาชีพนี้
คุณคิดผิด ครับ self taught Programmer ที่เก่งกาจ พอคุณอายุมากขึ้น แล้วเทคโนโลยีเปลี่ยน ต่อให้คุณ ใช้เวลา ว่าง ที่จะได้อยู่กับครอบครัวของคุณ มา self taught อย่างหนักหน่วง จน เปลี่ยนไปDevelop เทคโนโลยีใหม่ได้ ตลาดก็ยินดีจะจ้าง เด็ก ประสบการ 2-3 ปี ในเทคโนโลยีนั้นๆมากกว่า เทียบในปัจจุบันง่ายๆ ไม่มีบริษัทไหน อยาก รับโปรแกรมเมอร์ COBOL ประสบการ 20 ปี แล้ว สอนตัวเองจนใช้ c# ได้ 2 ปี หรอกครับ เขาไปรับเด็กจบ ใหม่ที่ใช้c# มา 2 ปีดีกว่า แก่ แล้วขึ้นไม่ได้ ก็ ออกไป เป็นเกมส์ ของคนหนุ่มอย่างแท้จริงครับ อาชีพนี้
8.cert ไม่ได้มีความหมายอะไรมากในสายงาน software developmentครับ ซึ่งก็แล้วแต่บริษัทด้วย หาก เป็นสายsecurity หรือ network อันนี้ถึงจะมีผลมากครับ คนเลยไปสายนี้กันหมด
9.โปรแกรมเมอร์ตอนนี้ขาดมากครับ อันนี้ผมไม่เถียง แต่ถึงขาดแค่ไหน เงินก็ไม่ได้ก้าวกระโดดไปจากit สาย อื่นมาก และเวลารับ ก็จะรับแต่เด็ก 1-5 ปีเท่านั้น แก่ๆ มาถึงคนจะขาดเขาก็ไม่อยากรับ อันนี้เรื่องจริงเลยครับ เด็กitเขาก็เหมือนจะรู้ทัน เขาไปเป็นสายอื่นกันหมด เผลอๆไปเป็นit ของบางบริษัท เขียนโปรแกรมได้ไม่มาก อยู่ยาวๆ ได้เป็นคนสั่ง Outsoruce ซะอีก ไม่แปลกที่จะขาด ครับ
คล้ายๆกับ สาวสวยอายุ 22-30 นั่นแหละ ที่ไม่ว่าผู้ชายช่วงอายุไหน ก็จะชอบผู้หญิงช่วงอายุนี้ แก่กว่านี้ไม่เอาแล้ว
10.ปัญหาสุขภาพ ช่วงที่ผม ทำ ได้ เพียง 1-2 ปี ก็พบว่าสายตาสั้นลงอย่างมาก แล้วครับ เนื่องด้วยตัวอาชีพที่ คิดหน้าคอมตลอดเวลา
สายตาเป็น resource ที่ต้องเสียไปอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้ อันนี้ใครก็คงรู้กันอย่แล้ว

หากคุณชอบที่จะเขียนโปรแกรม หมายถึง ชอบเขียนมันจริงๆ ก็ทำไปเถอะครับไม่มีอะไรดีกว่าทำในสิ่งที่ชอบ
แต่หากคุณแค่อยากจะมองหาอาชีพที่มั่นคง สามารถดูแลครอบครัวของคุณ และ พ่อแม่ ได้ดีที่สุด เท่าที่คุณจะทำได้ คุณไม่ได้ชอบหรือเกลียดงานอะไรเป็นพิเศษ อาชีพนี้ไม่ใช่ตัวเลือกครับ

ส่วนคนที่อยู่ในอาชีพในเมืองนอก ยินดีด้วยครับ นั่นคือสิ่งเดียวที่โปรแกรมเมอร์ไทยได้เปรียบ เมื่อเทียบกับวิศวะหรือแพทย์ ไทย
คือการที่ความรู้ เป็นความรู้ที่เหมือนกันทั้งโลก ทำให้สามารถทำงานเรท เมืองนอกได้

คนสายอาชีพนี้ในทำที่ยังเขียนไม่ไปเป็นเมเนเจอร์ หรือ ยังไม่เปิดบริษัททำซอฟแวร์โดยไม่เขียนเองแล้ว มาคุยเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ครับ
ยิ่งแก่ ผมยิ่งยินดี จะฟังความเห็นจากคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่