สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ทำให้นึกถึงเลยว่า คนสมัยก่อนบอกว่าอยากให้ศาสนาออกมาเป็นเอกเทศไม่ยุ่งกับบ้านเมือง
ทีแรกพอมีมติให้ตั้งสำนักพุทธฯคนก็เฮโลกันใหญ่ (ส่วนมากก็คนจากกระทรวงศึกษา) เค้าตั้งมาเพื่อให้คนพวกนี้เป็นศิษย์วัดรับใช้ศาสนา ไม่ใช่มาจัดการหรือเป็นเจ้าของศาสนา
เรื่องของพระเถร เป็นหน้าที่ของสงฆ์จัดการกันเองน่ะถูกแล้ว มส.ควรจะต้องชัดเจน ว่ากันไป พระรูปไหนผิดถูก ก็เอาอธิกรณ์มาจัดการ ไม่ใช่ปล่อยปะละเลย
ส่วนเรื่องคว่ำบาต เห็นด้วยทุกประการ...
ทีแรกพอมีมติให้ตั้งสำนักพุทธฯคนก็เฮโลกันใหญ่ (ส่วนมากก็คนจากกระทรวงศึกษา) เค้าตั้งมาเพื่อให้คนพวกนี้เป็นศิษย์วัดรับใช้ศาสนา ไม่ใช่มาจัดการหรือเป็นเจ้าของศาสนา
เรื่องของพระเถร เป็นหน้าที่ของสงฆ์จัดการกันเองน่ะถูกแล้ว มส.ควรจะต้องชัดเจน ว่ากันไป พระรูปไหนผิดถูก ก็เอาอธิกรณ์มาจัดการ ไม่ใช่ปล่อยปะละเลย
ส่วนเรื่องคว่ำบาต เห็นด้วยทุกประการ...
ความคิดเห็นที่ 3
ธรรมกาย ขย้นตั้งกระทู้ กันจริง ท่านเจ้าคุณ ก็สนับสนุน ธรรมกายด้วยนี่
ต้องทำบัญชีวัดแล้วล่ะครับ เปิดให้ดูเลยที่วัด ญาติโยมจะได้บริจาคได้
ตรงตามความต้องการที่วัดนั้นๆขาด จริงๆ
ส่วนเรื่องเงินทอน วัดรู้แล้วก็ไม่ควรรับจาก จนท. ที่กระทำการแบบ ส่อไปในทางทุจริตนะ
พศ. หรือ กรมการศาสนา หน่วยงานรัฐ สมควรปฏิรูป เงินสนับสนุนวัดใหม่
ควรให้วัดที่ขาดแคลนจริงๆ โดยดู จาก บ/ช รายรับรายจ่ายและทรัพย์สิน
ไม่ใช่นึกจะให้ วัดไหน ก็มี จนท. โทรไปที่วัด แต่ให้ทอนเงินมา เพื่อ ???
ที่อ้างว่าเงินทอน จะนำไปให้วัดอื่น เด็กๆ ยังรู้เลยว่า โกหก
ต้องทำบัญชีวัดแล้วล่ะครับ เปิดให้ดูเลยที่วัด ญาติโยมจะได้บริจาคได้
ตรงตามความต้องการที่วัดนั้นๆขาด จริงๆ
ส่วนเรื่องเงินทอน วัดรู้แล้วก็ไม่ควรรับจาก จนท. ที่กระทำการแบบ ส่อไปในทางทุจริตนะ
พศ. หรือ กรมการศาสนา หน่วยงานรัฐ สมควรปฏิรูป เงินสนับสนุนวัดใหม่
ควรให้วัดที่ขาดแคลนจริงๆ โดยดู จาก บ/ช รายรับรายจ่ายและทรัพย์สิน
ไม่ใช่นึกจะให้ วัดไหน ก็มี จนท. โทรไปที่วัด แต่ให้ทอนเงินมา เพื่อ ???
ที่อ้างว่าเงินทอน จะนำไปให้วัดอื่น เด็กๆ ยังรู้เลยว่า โกหก
แสดงความคิดเห็น
เจ้าคุณพิพิธ กระเทาะปมพระคว่ำบาตร ผอ.มือปราบแห่งชาติ
ผอ. พศ.ไม่มีสิทธิ์มาตัดสินพระ
คือคำกล่าวที่ทำให้ชาวพุทธต้องย้อนกลับมาไตร่ตรองถึงบทบาทหน้าที่ในตำแหน่ง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ว่ากำลังปฏิบัติหน้าที่ด้วยความย้อนแย้งต่อประโยชน์ของพระศาสนาและการคณะสงฆ์หรือไม่?
อีกทั้งการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กรณีการสอบสวนประเด็นทุจริต "เงินทอนวัด" มีความเหมาะสมดีงามตามบทบาทหน้าที่เพียงใด ติดตามบทสัมภาษณ์ความคิดเห็น และความรู้สึกของ "เจ้าคุณพิพิธ" พระเทพปฏิภาณวาที ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสุทัศนเทพวราราม กทม. โดยท่านกล่าวว่า
งบประมาณอุดหนุนวัดมี 3 แบบ
1. วัดทำรายการนำเสนอขอเงินอุดหนุน ไปยังสำนักพุทธฯ ประจำจังหวัด จากนั้นเรื่องจะถูกส่งต่อไปยัง สำนักพุทธฯ เมื่อพิจารณาแล้วจะอุดหนุหรือไม่ก็ได้
2. สำนักพุทธฯ จะจัด เงินอุดหนุนให้เอง ตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
3. งบฉุกเฉิน กรณีเกิดภัยพิบัติ เป็นเงินก้อนที่ พระสงฆ์ไม่ได้ร้องขอ แต่ ผอ.สำนักพุทธประจำจังหวัดส่งรายงานเข้าไปยังส่วนกลาง
เงินทอนไม่ใช่ความผิดของพระเพราะอะไร ?
สำนักพุทธตั้งงบเองเป็นการคุยกันระหว่าง สำนักพุทธฯ จังหวัด กับ สำนักพุทธฯ แห่งชาติ โดยอาจจะไปตกลงกับวัดนั้นๆ ว่างบอุดหนุนก้อนนี้ไม่ตรงนะ ขอให้ตีกลับมาที่สำนักพุทธฯ
ใครทำผิดให้แยก
พิจารณาเป็น 2 ระบบ
คือภาครัฐต้องเช็คว่า สุดท้ายแล้วเงินก้อนนี้กระจายไปที่ใครบ้าง หากปลายทางคือเจ้าอาวาสคนเดิม จึงจะถือว่า “พระผิด” แต่ถ้าไม่ใช่ก็ถือว่า “ข้าราชการผิด”
งบเหลื่อมล้ำวัดใหญ่ได้งบเยอะ วัดเล็กอัตคัดขัดสน?
โดยปกติ กฎเกณฑ์ในการจัดสรรเงินอุดหนุนวัด มีอยู่ว่าพระอารามหลวง หรือวัดที่มีโบราณวัตถุที่ต้องทำนุบำรุง จะได้รับเงินอุดหนุนจากสำนักพุทธฯ บ้างนิดหน่อย
ยกตัวอย่างเช่น ปีนี้วัดนี้ควรได้รับเงินอุดหนุนสัก 5 ล้านบาท ก็มีการเซ็นเช็คถวายมา 5 ล้าน
เรื่องกลโกง ร.ร.พระปริยัติธรรม
เป็นการประเคนคำกล่าวหา มองพระแบบหาเรื่อง?
เพราะพระไม่มีสิทธิ์ ทำงบประมาณในส่วนนี้ได้เลย สำนักพุทธฯ จังหวัด เป็นฝ่ายเข้าไปตรวจสอบจำนวนนักเรียนว่ามีอยู่เท่าไหร่ โดยแยกเป็น นักธรรม บาลี ปริยัติสามัญ ถ้าพระเณรหนึ่งรูปท่านเรียนทั้ง 3 อย่าง ก็จะคิดเป็น 1 รูป 3 รายหัว ในขณะที่จำนวนครูสอนแบ่งตามชั่วโมงการสอน
แต่ถามว่า "โรงเรียนฆราวาส" เคยคืนหรือไม่ ในเมื่อมันเป็นงบที่จ่ายขาดไปแล้ว?
สืบเนื่องจากแถลงการณ์
พระสังฆาธิการไม่รับเงินอุดหนุนฯ ต่อต้านพฤติกรรมปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ ?
ปรากฏว่าข้อความส่วนหนึ่งในบทแถลงการณ์ ซึ่งพาดพิงถึงท่าน ผอ. ว่า
“ให้ข่าวเสมือนพระสังฆาธิการได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทุจริตเงินอุดหนุนฯ ”
โดยฐานะหน้าที่ของ ผอ.พศ. คือการสร้างประโยชน์ ประสาน ประชาสัมพันธ์ เป็นกันชนไม่ให้คนเข้ามาโจมตีพระสงฆ์
ย้ำว่า ผอ.สำนักพุทธ ไม่มีสิทธิ์มาตัดสินพระ แต่ ณ ปัจจุบันดูเหมือนมาเป็นมือปราบเสียเอง?
ที่ผ่านมาพระสังฆาธิการทำงานร่วมกับสำนักพุทธฯ แบบพระให้เมตตาธรรม มีมือเปล่าไปจัดกิจกรรมงานสำคัญต่างๆ
กรณีที่ ผอ. อยากสอบสวนข้าราชการตัวเองว่า ฉ้อฉลโกงกิน ก็ควรทำเป็นการภายใน ไม่ใช่แถลงข่าวผ่านสื่อโดย เปิดเผยข้อมูลให้คนมาโจมตีคณะสงฆ์ อย่างสาดเสียเทเสีย มันเป็นการ กัดกร่อนศรัทธาชาวพุทธ
ถามว่า...โดยกติกา มารยาท มันเป็นหน้าที่ของ ผอ. หรือไม่ แล้วใครควรจะออกมารับผิดชอบ?
ถ้าวัดไม่โกง โปร่งใส
แต่ทำไมไม่โชว์บัญชีวัด
หากอยู่ดีๆ มีคนมาขอดูเงินในบัญชีครอบครัวคุณ คุณจะให้เขาดูไหม?
ถ้าสงสัยว่ามีการทุจริตก็ไปทำเรื่องสอบสวนมา กรณีเงินเป็นของหลวงสามารถแจ้งหน่วยงานรัฐ ซึ่งอาจจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมา
เรื่องรายรับรายจ่ายเป็นสิทธิของวัด การนำเงินออกมาใช้จ่ายก็มีคณะกรรมการ มีไวยาวัจกรดูแลตรวจสอบกันเป็นการภายใน ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะมาโจษอาบัติปราชิกพระด้วยข้อหาเรื่องเงิน
ส่วนบุคคลที่รังเกียจวัด
ยิ่งไม่ไม่สิทธิโวย เพราะไม่ได้ทำบุญกับวัดอยู่แล้ว!
วาทกรรมพระอมเงินวัด ยักยอกเงินทำบุญ?
มีที่ไหนในโลกนี้ที่ไม่มีการโกง แม้แต่ข้าราชการก็มีคนโกง “เจ้าอาวาสรูปไหนโกง อยู่ไม่ได้สักองค์ เลขานุการวัดโกง ไวยาวัจกรอมเงิน อยู่ไม่ได้หรอก”
ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์สามารถทำได้
แต่ถ้าวันหนึ่ง คุณตกเป็นจำเลยสังคม แล้วจะรู้ว่าเจ็บปวดที่สุด สิ่งที่อาตมาพูดคือเสียงสะท้อนของคณะสงฆ์ต่อรัฐบาล ห่วงว่าจะเป็นไฟสุมขอน.!
ที่มา http://talk--secret.blogspot.com/2017/07/blog-post_15.html