เพื่อนชายที่แสนดี
โดย...ล. วิลิศมาหรา
ลิเลียนรู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดแปลบไปทั่วสรรพางค์ โดยเฉพาะที่ขา ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง สิ่งแรกที่เห็นก็คือซากเหล็กหักพังยับของเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ ที่ท่อนหัวกับท่อนหางฉีกขาดออกจากกัน ชิ้นส่วนเศษเหล็กกระจัดกระจายอยู่รอบตัว กวาดสายตามองอย่างตื่นตระหนกก็พบว่าตัวเองคงจะอยู่ใต้ซากของส่วนหัวเฮลิคอปเตอร์ และกำลังบาดเจ็บสาหัส...
เครื่องบินลำนี้เธอเช่าเหมาลำมาเพื่อเดินทางไปงานวิวาห์ของตัวเองกับแฟนหนุ่ม ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในอีกฟากฝั่งหนึ่งของเมือง แต่บินมาได้แค่ครึ่งทางนักบินก็เจอเข้ากับอุปสรรคใหญ่ นั่นคือทัศนวิสัยที่แย่ลงกะทันหัน จนในที่สุดเครื่องบินก็สูญเสียการทรงตัว และตกลงในป่าทึบแห่งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นจุดใดของเมืองนั้นเธอเองก็ไม่สามารถรู้ได้ รู้แต่ตอนนี้รอบข้างมีแต่เศษซากของชิ้นส่วนเครื่องบินกระจายเกลื่อน
โชคยังดีที่มันไม่เกิดระเบิดไฟลุกขึ้นด้วย ไม่เช่นนั้นเธอที่ขาทั้งสองข้างติดอยู่ในชิ้นส่วนชิ้นใหญ่ของซากเครื่องคงจะโดนย่างสดไปแล้ว เพราะขยับตัวออกไปจากที่ตรงนี้ไม่ได้เลย ขาซึ่งถูกซากเหล็กทับอยู่คงจะเข้าไปขัดกับเศษเหล็ก และคงโดนมันบีบรัดเอาไว้ด้วย ตัวเองจึงขยับเคลื่อนไหวขาไม่ได้
แต่ขณะนี้ความเจ็บปวดมากมายตรงขากลับบรรเทาลงไปแล้ว เพราะว่าขาทั้งคู่ของเธอเกิดอาการชาขึ้นมาแทนที่จนไม่มีความรู้สึกตรงนั้นอีกแล้ว ส่วนท่อนบนของร่างกายยังพอขยับได้อยู่ เธอจึงลองเอามือลูบคลำตามหน้าตาเนื้อตัวดู ซึ่งก็พบบาดแผลใหญ่เล็กเต็มตัวไปหมด มีเลือดไหลเปรอะเปื้อนมือจนใจเสีย แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าถึงยังไงก็ยังมีลมหายใจอยู่ เธอยังไม่ตาย...
พระเจ้าช่วยลูกด้วยเถิด ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์เลวร้ายนี้ขึ้นในวันชื่นคืนสุขที่ทนเฝ้ารอมาหลายปี ที่ตัวเองตัดสินใจลงทุนเช่าเฮลิคอปเตอร์คันนี้มา ก็เพราะหวังว่าจะสร้างเซอร์ไพร้ส์ให้กับว่าที่เจ้าบ่าว เธออยากให้เขาประหลาดใจและนึกทึ่ง ที่ได้เห็นเจ้าสาวเดินทางมายังบริเวณงานด้วยเฮลิคอปเตอร์ แทนที่จะเดินเข้ามาในงานแบบปกติธรรมดาทั่วไป
แน่นอน เฮซุสต้องประหลาดใจพร้อมกับตื่นเต้นยินดีที่ผู้หญิงของเขากล้าหาญ และลงมาหาเขาทางอากาศอย่างที่ไม่เคยมีใครในเมืองนี้ทำมาก่อน เธอวางแผนว่าจะลงมาในชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่อง ในสถานที่จัดงานซึ่งเป็นสวนสวยใหญ่โตกว้างขวางแห่งหนึ่ง มันได้ถูกจับจองเอาไว้ผ่านทางราสวัน เพื่อนชายคนสนิทของเธอ
ราสวัน...ทันทีนั้นก็นึกถึงผู้ชายคนที่นั่งมาในเฮลิคอปเตอร์กับเธอ ใช่สิ ราสวัน เพื่อนชายคนสนิทของเธอ ซึ่งเมื่อวันก่อนเขายังพาเธอไปตรวจดูความเรียบร้อยของสถานที่จัดงานวิวาห์ เพื่อให้ดูว่าออแกไนซ์จัดรูปแบบงานได้ถูกใจคนเป็นเจ้าสาวหรือเปล่า
ทำไมถึงเป็นราสวันไม่ใช่เฮซุสที่ไปกับเธอ...ก็เพราะว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเป็นนักธุรกิจชื่อดังในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ และการเงินการธนาคารที่มีงานยุ่งรัดตัวอยู่แทบจะตลอดเวลาน่ะสิ เขาคบเป็นแฟนกับเธอโดยที่ฝ่ายหญิงต้องใช้ความอดทนอย่างยิ่งยวด ในอันที่จะประคับประคองความรักให้ราบรื่นมาจนกระทั่งถึงวันวิวาห์จนได้
กว่าที่เธอกับคนรักจะมีวันนี้ได้ก็เพราะฝีมือของราสวันล้วนๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นลูกน้องในบริษัทของเฮซุสแล้ว ราสวันยังเป็นเพื่อนรักของเธอกับเขาอีกด้วย เพื่อนหนุ่มเป็นเสมือนตัวแทนของเฮซุสในทุกเรื่องที่มันไปเกี่ยวข้องกับความรักระหว่างเธอกับเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาผิดนัดทานข้าวกับเธอ ซึ่งจะมาจากสาเหตุอะไรก็ตาม แต่มันก็ได้ทำให้เธอต้องรอเขาเก้ออยู่ตามลำพังในร้านอาหาร ลิเลียนก็จะพบว่า ตัวเองมีราสวันมานั่งทานข้าวเป็นเพื่อนแก้เก้อไปเสียทุกครั้ง หรือในยามที่เธอกับเฮซุสทะเลาะกัน ก็เป็นราสวันอีกนั่นแหละที่คอยมาช่วยไกล่เกลี่ย แม้แต่ตอนที่เฮซุสทำให้ต้องเสียน้ำตา เธอก็ได้อ้อมอกอุ่นๆ ของราสวันคอยเป็นที่ซบซับน้ำตาให้
และก็เป็นราสวันอีกนั่นแหละที่นั่งคู่กันมากับเธอด้วยในเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ เขาคอยปลุกปลอบเธอที่เสียขวัญอย่างหนักในตอนที่เครื่องบินกำลังจะตก นักบินผจญเข้ากับสภาพอากาศที่เลวร้าย มีหมอกลงหนาทึบกะทันหัน ซึ่งมันทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี ตัวเฮลิคอปเตอร์เกิดสั่นไหวขึ้นหลายครั้ง
ในขณะนั้นมือของราสวันกระชับมือเธอแน่น เขาบีบมือปลอบเธอมาตลอดทาง เสียงพึมพำปลอบใจว่า เรื่องเลวร้ายอะไรก็ตามจะไม่เกิดขึ้นกับเธอในวันอันแสนสุขนี้เป็นอันขาด เขาไม่โทษเธอสักนิดที่อุตริทำในสิ่งที่เป็นอันตราย
แต่ในที่สุดแล้ว หลังการสั่นไหวอย่างรุนแรงครั้งสุดท้าย เฮลิคอปเตอร์ก็สูญเสียการทรงตัว มันเริ่มปักหัวดิ่งลง
โครม! เธอคิดว่าได้ยินเสียงนี้ ก่อนที่สติจะดับวูบไป
"ราสวัน...ราสวัน ช่วยลิด้วย"
ตะโกนออกไปสุดเสียง รู้สึกดีใจที่ตัวเองนอกจากยังหายใจอยู่ เธอยังพูดได้ ทว่าเธอกลับได้ยินเสียงตะโกนของตัวเองหายเงียบเข้าไปในบรรยากาศของป่าทึบ เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากใคร ลิเลียนก็เหลียวมองไปรอบตัว นอกจากเศษซากชิ้นส่วนของเครื่องบินแล้ว เธอก็เห็นแต่ต้นไม้กับพงหญ้าที่หักราบเป็นวงกว้าง ห่างออกไปคือป่าที่มีต้นไม้ขึ้นหนาทึบ เครื่องบินคงตกลงกระแทกต้นไม้ก่อนแล้วถึงร่วงลงมายังพื้นอีกที โชคดีที่มันตกลงบนพื้นที่มีพงหญ้าและดินโคลนอ่อนนุ่ม เธอจึงรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด อีกอย่าง ตอนที่เครื่องบินกำลังจะตก จำได้ว่าราสวันกอดร่างเธอเอาไว้แน่น เขาซุกตัวเธอเข้าไว้ในอ้อมกอดของเขาเอง ซึ่งนี่ก็คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอรอดตาย แต่ว่าตอนนี้เขากับนักบินอีกสองคนนั้นหายไปไหน
"ลิ...ลิ ฉันอยู่นี่..."
เสียงเรียกชื่อแหบแห้งเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง ใจชื้นขึ้นมากมายเมื่อจำได้ว่าเป็นเสียงของราสวัน ค่อยๆ เอี้ยวตัวไปมอง และแล้วก็เห็นร่างบาดเจ็บของเพื่อนรักที่ทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือดเกรอะกรังแดงเถือกไปทั้งตัว สังเกตเห็นว่าเขาคงอาการสาหัสเช่นกัน และกำลังพยายามคืบคลานเข้ามาหาเธอช้าๆ
"เป็นไงบ้าง เธอเจ็บตรงไหนไหม ลิเลียน อดทนไว้นะฉันมาช่วยเธอแล้ว"
น้ำตาซึมทันทีที่ได้ยินเขาถาม โธ่เอ๋ย ขนาดตัวเองบาดเจ็บบอบช้ำไปทั้งร่างแท้ๆ ก็ยังเป็นห่วงเธอ นี่ถ้าหากว่าเธอไม่ทะเยอทะยาน...
ราสวัน...ทำไมเธอถึงมารักคนอย่างฉันนะ เธอน่าจะได้เจอคนดีๆ ที่รักเธอ ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่เคยใยดีในความรักอันมีค่าของเธออย่างลิเลย
...เพราะความรู้สึกลึกๆ ที่สะสมมานาน และมันได้พลุ่งขึ้นมากะทันหันในยามทุกข์ยากแบบนี้ของเธอ เสียงหนึ่งในใจจึงคร่ำครวญขึ้นมาอย่างข่มเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป
(ต่อพรุ่งนี้ค่ะ คอมลิมันเกเร)
เพื่อนชายที่แสนดี
โดย...ล. วิลิศมาหรา
ลิเลียนรู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดแปลบไปทั่วสรรพางค์ โดยเฉพาะที่ขา ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง สิ่งแรกที่เห็นก็คือซากเหล็กหักพังยับของเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ ที่ท่อนหัวกับท่อนหางฉีกขาดออกจากกัน ชิ้นส่วนเศษเหล็กกระจัดกระจายอยู่รอบตัว กวาดสายตามองอย่างตื่นตระหนกก็พบว่าตัวเองคงจะอยู่ใต้ซากของส่วนหัวเฮลิคอปเตอร์ และกำลังบาดเจ็บสาหัส...
เครื่องบินลำนี้เธอเช่าเหมาลำมาเพื่อเดินทางไปงานวิวาห์ของตัวเองกับแฟนหนุ่ม ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในอีกฟากฝั่งหนึ่งของเมือง แต่บินมาได้แค่ครึ่งทางนักบินก็เจอเข้ากับอุปสรรคใหญ่ นั่นคือทัศนวิสัยที่แย่ลงกะทันหัน จนในที่สุดเครื่องบินก็สูญเสียการทรงตัว และตกลงในป่าทึบแห่งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นจุดใดของเมืองนั้นเธอเองก็ไม่สามารถรู้ได้ รู้แต่ตอนนี้รอบข้างมีแต่เศษซากของชิ้นส่วนเครื่องบินกระจายเกลื่อน
โชคยังดีที่มันไม่เกิดระเบิดไฟลุกขึ้นด้วย ไม่เช่นนั้นเธอที่ขาทั้งสองข้างติดอยู่ในชิ้นส่วนชิ้นใหญ่ของซากเครื่องคงจะโดนย่างสดไปแล้ว เพราะขยับตัวออกไปจากที่ตรงนี้ไม่ได้เลย ขาซึ่งถูกซากเหล็กทับอยู่คงจะเข้าไปขัดกับเศษเหล็ก และคงโดนมันบีบรัดเอาไว้ด้วย ตัวเองจึงขยับเคลื่อนไหวขาไม่ได้
แต่ขณะนี้ความเจ็บปวดมากมายตรงขากลับบรรเทาลงไปแล้ว เพราะว่าขาทั้งคู่ของเธอเกิดอาการชาขึ้นมาแทนที่จนไม่มีความรู้สึกตรงนั้นอีกแล้ว ส่วนท่อนบนของร่างกายยังพอขยับได้อยู่ เธอจึงลองเอามือลูบคลำตามหน้าตาเนื้อตัวดู ซึ่งก็พบบาดแผลใหญ่เล็กเต็มตัวไปหมด มีเลือดไหลเปรอะเปื้อนมือจนใจเสีย แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าถึงยังไงก็ยังมีลมหายใจอยู่ เธอยังไม่ตาย...
พระเจ้าช่วยลูกด้วยเถิด ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์เลวร้ายนี้ขึ้นในวันชื่นคืนสุขที่ทนเฝ้ารอมาหลายปี ที่ตัวเองตัดสินใจลงทุนเช่าเฮลิคอปเตอร์คันนี้มา ก็เพราะหวังว่าจะสร้างเซอร์ไพร้ส์ให้กับว่าที่เจ้าบ่าว เธออยากให้เขาประหลาดใจและนึกทึ่ง ที่ได้เห็นเจ้าสาวเดินทางมายังบริเวณงานด้วยเฮลิคอปเตอร์ แทนที่จะเดินเข้ามาในงานแบบปกติธรรมดาทั่วไป
แน่นอน เฮซุสต้องประหลาดใจพร้อมกับตื่นเต้นยินดีที่ผู้หญิงของเขากล้าหาญ และลงมาหาเขาทางอากาศอย่างที่ไม่เคยมีใครในเมืองนี้ทำมาก่อน เธอวางแผนว่าจะลงมาในชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่อง ในสถานที่จัดงานซึ่งเป็นสวนสวยใหญ่โตกว้างขวางแห่งหนึ่ง มันได้ถูกจับจองเอาไว้ผ่านทางราสวัน เพื่อนชายคนสนิทของเธอ
ราสวัน...ทันทีนั้นก็นึกถึงผู้ชายคนที่นั่งมาในเฮลิคอปเตอร์กับเธอ ใช่สิ ราสวัน เพื่อนชายคนสนิทของเธอ ซึ่งเมื่อวันก่อนเขายังพาเธอไปตรวจดูความเรียบร้อยของสถานที่จัดงานวิวาห์ เพื่อให้ดูว่าออแกไนซ์จัดรูปแบบงานได้ถูกใจคนเป็นเจ้าสาวหรือเปล่า
ทำไมถึงเป็นราสวันไม่ใช่เฮซุสที่ไปกับเธอ...ก็เพราะว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเป็นนักธุรกิจชื่อดังในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ และการเงินการธนาคารที่มีงานยุ่งรัดตัวอยู่แทบจะตลอดเวลาน่ะสิ เขาคบเป็นแฟนกับเธอโดยที่ฝ่ายหญิงต้องใช้ความอดทนอย่างยิ่งยวด ในอันที่จะประคับประคองความรักให้ราบรื่นมาจนกระทั่งถึงวันวิวาห์จนได้
กว่าที่เธอกับคนรักจะมีวันนี้ได้ก็เพราะฝีมือของราสวันล้วนๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นลูกน้องในบริษัทของเฮซุสแล้ว ราสวันยังเป็นเพื่อนรักของเธอกับเขาอีกด้วย เพื่อนหนุ่มเป็นเสมือนตัวแทนของเฮซุสในทุกเรื่องที่มันไปเกี่ยวข้องกับความรักระหว่างเธอกับเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาผิดนัดทานข้าวกับเธอ ซึ่งจะมาจากสาเหตุอะไรก็ตาม แต่มันก็ได้ทำให้เธอต้องรอเขาเก้ออยู่ตามลำพังในร้านอาหาร ลิเลียนก็จะพบว่า ตัวเองมีราสวันมานั่งทานข้าวเป็นเพื่อนแก้เก้อไปเสียทุกครั้ง หรือในยามที่เธอกับเฮซุสทะเลาะกัน ก็เป็นราสวันอีกนั่นแหละที่คอยมาช่วยไกล่เกลี่ย แม้แต่ตอนที่เฮซุสทำให้ต้องเสียน้ำตา เธอก็ได้อ้อมอกอุ่นๆ ของราสวันคอยเป็นที่ซบซับน้ำตาให้
และก็เป็นราสวันอีกนั่นแหละที่นั่งคู่กันมากับเธอด้วยในเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ เขาคอยปลุกปลอบเธอที่เสียขวัญอย่างหนักในตอนที่เครื่องบินกำลังจะตก นักบินผจญเข้ากับสภาพอากาศที่เลวร้าย มีหมอกลงหนาทึบกะทันหัน ซึ่งมันทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี ตัวเฮลิคอปเตอร์เกิดสั่นไหวขึ้นหลายครั้ง
ในขณะนั้นมือของราสวันกระชับมือเธอแน่น เขาบีบมือปลอบเธอมาตลอดทาง เสียงพึมพำปลอบใจว่า เรื่องเลวร้ายอะไรก็ตามจะไม่เกิดขึ้นกับเธอในวันอันแสนสุขนี้เป็นอันขาด เขาไม่โทษเธอสักนิดที่อุตริทำในสิ่งที่เป็นอันตราย
แต่ในที่สุดแล้ว หลังการสั่นไหวอย่างรุนแรงครั้งสุดท้าย เฮลิคอปเตอร์ก็สูญเสียการทรงตัว มันเริ่มปักหัวดิ่งลง
โครม! เธอคิดว่าได้ยินเสียงนี้ ก่อนที่สติจะดับวูบไป
"ราสวัน...ราสวัน ช่วยลิด้วย"
ตะโกนออกไปสุดเสียง รู้สึกดีใจที่ตัวเองนอกจากยังหายใจอยู่ เธอยังพูดได้ ทว่าเธอกลับได้ยินเสียงตะโกนของตัวเองหายเงียบเข้าไปในบรรยากาศของป่าทึบ เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากใคร ลิเลียนก็เหลียวมองไปรอบตัว นอกจากเศษซากชิ้นส่วนของเครื่องบินแล้ว เธอก็เห็นแต่ต้นไม้กับพงหญ้าที่หักราบเป็นวงกว้าง ห่างออกไปคือป่าที่มีต้นไม้ขึ้นหนาทึบ เครื่องบินคงตกลงกระแทกต้นไม้ก่อนแล้วถึงร่วงลงมายังพื้นอีกที โชคดีที่มันตกลงบนพื้นที่มีพงหญ้าและดินโคลนอ่อนนุ่ม เธอจึงรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด อีกอย่าง ตอนที่เครื่องบินกำลังจะตก จำได้ว่าราสวันกอดร่างเธอเอาไว้แน่น เขาซุกตัวเธอเข้าไว้ในอ้อมกอดของเขาเอง ซึ่งนี่ก็คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอรอดตาย แต่ว่าตอนนี้เขากับนักบินอีกสองคนนั้นหายไปไหน
"ลิ...ลิ ฉันอยู่นี่..."
เสียงเรียกชื่อแหบแห้งเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง ใจชื้นขึ้นมากมายเมื่อจำได้ว่าเป็นเสียงของราสวัน ค่อยๆ เอี้ยวตัวไปมอง และแล้วก็เห็นร่างบาดเจ็บของเพื่อนรักที่ทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือดเกรอะกรังแดงเถือกไปทั้งตัว สังเกตเห็นว่าเขาคงอาการสาหัสเช่นกัน และกำลังพยายามคืบคลานเข้ามาหาเธอช้าๆ
"เป็นไงบ้าง เธอเจ็บตรงไหนไหม ลิเลียน อดทนไว้นะฉันมาช่วยเธอแล้ว"
น้ำตาซึมทันทีที่ได้ยินเขาถาม โธ่เอ๋ย ขนาดตัวเองบาดเจ็บบอบช้ำไปทั้งร่างแท้ๆ ก็ยังเป็นห่วงเธอ นี่ถ้าหากว่าเธอไม่ทะเยอทะยาน...
ราสวัน...ทำไมเธอถึงมารักคนอย่างฉันนะ เธอน่าจะได้เจอคนดีๆ ที่รักเธอ ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่เคยใยดีในความรักอันมีค่าของเธออย่างลิเลย
...เพราะความรู้สึกลึกๆ ที่สะสมมานาน และมันได้พลุ่งขึ้นมากะทันหันในยามทุกข์ยากแบบนี้ของเธอ เสียงหนึ่งในใจจึงคร่ำครวญขึ้นมาอย่างข่มเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป
(ต่อพรุ่งนี้ค่ะ คอมลิมันเกเร)