#หนีงานไปพักร้อน @กระบี่ ( เกาะพีพี, เกาะลันตา และอ่าวนาง )
5 คืนพักฟื้นหัวใจกับทะเลลลลลลล'ล วันที่ 9-14 กรกฎาคม 2560
สรุปการเดินทาง และค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ครับ
เดินทางกับสายการบิน การบินไทย ✈️
พอถึงสนามบินกระบี่ ก็ต่อรถด้วย Shuttle bus ค่าตั๋วคนละ 90 ครับ เค้าจะไปส่งลงที่ตัวเมืองกระบี่ แล้วต้องนั่งรอรถมารับไปที่ท่าเรืออีกทีนึง ระหว่างรอ...ก็ได้เดินเข้าไปที่ตัวเมืองเพื่อหาอะไรกินและเดินดูรอบๆตรงถนนคนเดินครับ
สักพักก็มีรถมารับไปที่ท่าเรือครับ ค่าตั๋วเรือจะอยู่ที่ 400 บาท / คนนะครับ.
ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมงก็ถึงเกาะพีพีครับ
2 คืนแรกเลือกพักที่ Phi phi cliff beach hotel
ชอบโรงแรมนี้เพราะสระว่ายน้ำสวยครับ แต่ไม่ได้ไปว่ายเลย เพราะหมดแรง
แอบเศร้า เพราะไปในช่วงเข้าพรรษา ปกติเค้าจะมีไฟโชว์ แต่เข้าพรรษาเค้าไม่มีให้ดูเลยครับ
กิจกรรมตอนกลางวันที่นี่ ผมเลือกใช้บริการ Day trip จากโรงแรม เค้าจะมีเรือหางยาวให้เหมา ราคาอยู่ที่ 1,700 บาท 3 ชั่วโมง
พี่เค้าพาไป 3 ที่ครับ จะมีหาดลิง, ดำน้ำ และหาดมายาเบย์ หาดที่เค้าว่ากันว่า หนังฮอลลีวูดมาทำการแสดงที่นี่
หาด มายาเบย์ สวยครับ แต่น้ำไม่น่าเล่นน้ำเลย หินเยอะมาก เท้าระบมไปหมด
มีค่าใช้จ่ายในการดข้าหาด มายาเบย์ ด้วยนะครับ คนไทยจะอยู่ที่ 40 บาท ต่างชาติ 400 บาทครับ และต้องปืนเขาเพื่อข้ามไปฝั่งหาดด้วยครับ
ส่วนชีวิตกลางคืนในพีพี อย่างที่บอก ไม่ค่อยเฮฮาเท่าไหร่ เพราะไปในช่วงเข้าพรรษา ก็จะมีแต่บาร์ทั้วๆไป ระยะทางเดินไปในตัวเมืองที่พีพี ก็ไกลขาลากเลยครับ เพราะผมพักอยู่คนละฝั่ง ไม่มีแท็กซี่ให้บริการ เดินอย่างเดียวครับ
ทางเดินค่อนข้างสับสน เพราะมันสามารถทะลุไปถนนต่อถนนได้ งง มากครับ หลงทางไป 2-3 รอบกว่าจะกลับที่พักได้
และได้มีโอกาสไปที่ View point อันนี้ก็ต้องเดินครับ ( เดินอีกแล้วหรอ!!) 😞 ระยะทางบอกได้เลยว่า แสนเหน็ดเหนื่อย ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร เดินขึ้นเขามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย และยิ่งทางเดินขรุขระนี่..... ปวดกล้ามขายังไม่หายเลยครับ
พอถึง...มืดครับ!!!! 😢🤦♂️ ห้ะ...มืด อุตส่าห์ตั้งใจมา
ก็แหงแหละ ไม่คืดว่าจะใล้เวลานานขนาดนี้.
ใช้เวลาเดินขึ้นเขาจากโรงแรมที่อยู่คนละฝั่ง เป็น เวลา 2 ชั่วโมงได้ครับ ถึงจะถึงยอดเขา
มองไม่ค่อยเห็นอ่าว มหาสมุทรเลย แต่ดูรอบๆแล้ว ถ้ามาทันตอนสว่าง คนจะตระการตาน่าดูครับ สวยมากครับ ขนาดเงามืดๆ ยังดูสวย มหาสมุทรดูกว้างขวาง
--------------------------------------------------
ส่วนคืนที่ 3 ก็เลือกที่จะเดินทางข้ามเกาะไปที่ เกาะลันตาครับ ขึ้นเรือที่ท่าเรือ ตั๋วอยู่ที่ราคา 300 บาท / คน ซื้อที่ท่าเรือนะครับ ถ้าซื้อจากโรงแรมจะอยู่ที่ 350 บาทเป็นส่วนมาก
พอถึงท่าเรือที่เกาะลันตา ก็นั่งแท็กซี่มาที่โรงแรม ( ค่าแท็กซี่ผมได้จ่ายกับคนดูแลเรือ 200 ครับ) เค้าก็ได้มาส่งที่โรงแรม
โรงแรมจะเป็นแนว แบบว่า ติดถนนกับหมู่บ้าน ผลเลือกพักที่ Long beach chalet ที่ Check in " Reception " จะอยู่ติดกับฝั่งถนนครับ ส่วนห้องพักต้องเดินลงมาที่ชายหาดนิดหน่อย.
บรรยากาศและห้องพักจะประมาณในรูปนะครับ
--------------------------------------------------
ส่วนคืนที่ 4-5 อันที่จริงผมกะจะไปที่เกาะจำ และได้จองโรงแรมไว้แล้ว แต่ดันไม่มีเรือไปซะงั้น " เศร้าเลย 😢 "
เพราะมันอยู่ในช่วง Low season ครับ จึงไมมีเรือไป นอกจากจะเหมาเรืออย่างเดียว ราคาก็สูงยิ่งกว่าตคกใบหยกไปอีก!!! 4,000 บาทครับ. 😱
เลยเลือกที่จะไปที่อื่นดีกว่า เสียดายค่าเหมาเรือ และกลัวไปแล้วจะเงียบเหงา
เลยนั่งรถตู้จากโรงแรม 500 / คน ถึงตัวเมืองอ่าวนาง ระหว่างทางก็หาโรงแรมมาเรื่อยๆ
และแล้วก็ตัดสินใจเลือกไปพักที่ --->
Centara grand beach villa & resort krabi.
ต้องนั่งแท็กซี่ไปที่ท่าเรือนพรัตน์ จะมีเรือของโรงแรมรอบริการรับส่งลูกค้าที่พักที่โรงแรมนี้ครับ ใช้เวลาเดินทาง 15 นาทีถึงโรงแรมครับ
ถึงแล้ว..... สวยมากครับ เป็นโรงแรมแนว หาดส่วนตัว คนนอกเข้าไม่ได้
บรรยากาศดีมาก พนักงานต้อนรับอย่างดี ทุกคนน่ารักครับ ภาษาอังกฤษนี่เยี่ยมทุกคนเลย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะส่วนตัว 100% เพราะลิงที่นี่เยอะครับ ต้องระมัดระวังเวลาเข้าออกห้องนิดนึง ต้องล็อคประตูตลอด เพราะลิงเปิดประตูเองได้ครับ 😅
และแล้ว นางก็หลุดเข้ามาในห้อง 1 ตัว มาขโมยเอากล้วยไปกินต่อหน้าเฉยเลย 🤣😁
เวลากลางคืนก็ได้ออกไปนั่งบาร์ในเมืองอ่าวนางครับ ต้องเดินข้ามเขาไป ทางเดินจะมีไฟให้ตลอดทาง
จนถึงบาร์ที่เพื่อนนัดไว้ ชื่อบาร์ เลกเก้บาร์ครับ ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติที่มาบาร์นี้ และก็มีไฟโชว์ด้วยแหละ แต่ผมลืมถ่ายรูปมา 🙏🤦♂️
ส่วนวันสุดท้าย ก่อนจะกลับ กรุงเทพ ได้ออกไปเดินหน้าหาด บรรยากาศดีสุดๆครับ ความคิดเห็นส่วนตัวนะ
ก่อน Check out เราจะต้องจองเรือกลับฝั่งก่อน 1 วันที่จะ Check out ครับ.
สุดท้ายแล้ว คู่หูคู่ใจที่เดินทางด้วยกัน ก็คืนคนนี้แหละครับ
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ ที่ให้แชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวและความรู้เล็กๆน้อยๆกับทุกคนครับ 🙏🙏🙏🙏🙏
จม..... ไปกับทะเล ทริปนี้ @กระบี่
5 คืนพักฟื้นหัวใจกับทะเลลลลลลล'ล วันที่ 9-14 กรกฎาคม 2560
สรุปการเดินทาง และค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ครับ
เดินทางกับสายการบิน การบินไทย ✈️
พอถึงสนามบินกระบี่ ก็ต่อรถด้วย Shuttle bus ค่าตั๋วคนละ 90 ครับ เค้าจะไปส่งลงที่ตัวเมืองกระบี่ แล้วต้องนั่งรอรถมารับไปที่ท่าเรืออีกทีนึง ระหว่างรอ...ก็ได้เดินเข้าไปที่ตัวเมืองเพื่อหาอะไรกินและเดินดูรอบๆตรงถนนคนเดินครับ
สักพักก็มีรถมารับไปที่ท่าเรือครับ ค่าตั๋วเรือจะอยู่ที่ 400 บาท / คนนะครับ.
ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมงก็ถึงเกาะพีพีครับ
2 คืนแรกเลือกพักที่ Phi phi cliff beach hotel
ชอบโรงแรมนี้เพราะสระว่ายน้ำสวยครับ แต่ไม่ได้ไปว่ายเลย เพราะหมดแรง
แอบเศร้า เพราะไปในช่วงเข้าพรรษา ปกติเค้าจะมีไฟโชว์ แต่เข้าพรรษาเค้าไม่มีให้ดูเลยครับ
กิจกรรมตอนกลางวันที่นี่ ผมเลือกใช้บริการ Day trip จากโรงแรม เค้าจะมีเรือหางยาวให้เหมา ราคาอยู่ที่ 1,700 บาท 3 ชั่วโมง
พี่เค้าพาไป 3 ที่ครับ จะมีหาดลิง, ดำน้ำ และหาดมายาเบย์ หาดที่เค้าว่ากันว่า หนังฮอลลีวูดมาทำการแสดงที่นี่
หาด มายาเบย์ สวยครับ แต่น้ำไม่น่าเล่นน้ำเลย หินเยอะมาก เท้าระบมไปหมด
มีค่าใช้จ่ายในการดข้าหาด มายาเบย์ ด้วยนะครับ คนไทยจะอยู่ที่ 40 บาท ต่างชาติ 400 บาทครับ และต้องปืนเขาเพื่อข้ามไปฝั่งหาดด้วยครับ
ส่วนชีวิตกลางคืนในพีพี อย่างที่บอก ไม่ค่อยเฮฮาเท่าไหร่ เพราะไปในช่วงเข้าพรรษา ก็จะมีแต่บาร์ทั้วๆไป ระยะทางเดินไปในตัวเมืองที่พีพี ก็ไกลขาลากเลยครับ เพราะผมพักอยู่คนละฝั่ง ไม่มีแท็กซี่ให้บริการ เดินอย่างเดียวครับ
ทางเดินค่อนข้างสับสน เพราะมันสามารถทะลุไปถนนต่อถนนได้ งง มากครับ หลงทางไป 2-3 รอบกว่าจะกลับที่พักได้
และได้มีโอกาสไปที่ View point อันนี้ก็ต้องเดินครับ ( เดินอีกแล้วหรอ!!) 😞 ระยะทางบอกได้เลยว่า แสนเหน็ดเหนื่อย ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร เดินขึ้นเขามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย และยิ่งทางเดินขรุขระนี่..... ปวดกล้ามขายังไม่หายเลยครับ
พอถึง...มืดครับ!!!! 😢🤦♂️ ห้ะ...มืด อุตส่าห์ตั้งใจมา
ก็แหงแหละ ไม่คืดว่าจะใล้เวลานานขนาดนี้.
ใช้เวลาเดินขึ้นเขาจากโรงแรมที่อยู่คนละฝั่ง เป็น เวลา 2 ชั่วโมงได้ครับ ถึงจะถึงยอดเขา
มองไม่ค่อยเห็นอ่าว มหาสมุทรเลย แต่ดูรอบๆแล้ว ถ้ามาทันตอนสว่าง คนจะตระการตาน่าดูครับ สวยมากครับ ขนาดเงามืดๆ ยังดูสวย มหาสมุทรดูกว้างขวาง
--------------------------------------------------
ส่วนคืนที่ 3 ก็เลือกที่จะเดินทางข้ามเกาะไปที่ เกาะลันตาครับ ขึ้นเรือที่ท่าเรือ ตั๋วอยู่ที่ราคา 300 บาท / คน ซื้อที่ท่าเรือนะครับ ถ้าซื้อจากโรงแรมจะอยู่ที่ 350 บาทเป็นส่วนมาก
พอถึงท่าเรือที่เกาะลันตา ก็นั่งแท็กซี่มาที่โรงแรม ( ค่าแท็กซี่ผมได้จ่ายกับคนดูแลเรือ 200 ครับ) เค้าก็ได้มาส่งที่โรงแรม
โรงแรมจะเป็นแนว แบบว่า ติดถนนกับหมู่บ้าน ผลเลือกพักที่ Long beach chalet ที่ Check in " Reception " จะอยู่ติดกับฝั่งถนนครับ ส่วนห้องพักต้องเดินลงมาที่ชายหาดนิดหน่อย.
บรรยากาศและห้องพักจะประมาณในรูปนะครับ
--------------------------------------------------
ส่วนคืนที่ 4-5 อันที่จริงผมกะจะไปที่เกาะจำ และได้จองโรงแรมไว้แล้ว แต่ดันไม่มีเรือไปซะงั้น " เศร้าเลย 😢 "
เพราะมันอยู่ในช่วง Low season ครับ จึงไมมีเรือไป นอกจากจะเหมาเรืออย่างเดียว ราคาก็สูงยิ่งกว่าตคกใบหยกไปอีก!!! 4,000 บาทครับ. 😱
เลยเลือกที่จะไปที่อื่นดีกว่า เสียดายค่าเหมาเรือ และกลัวไปแล้วจะเงียบเหงา
เลยนั่งรถตู้จากโรงแรม 500 / คน ถึงตัวเมืองอ่าวนาง ระหว่างทางก็หาโรงแรมมาเรื่อยๆ
และแล้วก็ตัดสินใจเลือกไปพักที่ --->
Centara grand beach villa & resort krabi.
ต้องนั่งแท็กซี่ไปที่ท่าเรือนพรัตน์ จะมีเรือของโรงแรมรอบริการรับส่งลูกค้าที่พักที่โรงแรมนี้ครับ ใช้เวลาเดินทาง 15 นาทีถึงโรงแรมครับ
ถึงแล้ว..... สวยมากครับ เป็นโรงแรมแนว หาดส่วนตัว คนนอกเข้าไม่ได้
บรรยากาศดีมาก พนักงานต้อนรับอย่างดี ทุกคนน่ารักครับ ภาษาอังกฤษนี่เยี่ยมทุกคนเลย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะส่วนตัว 100% เพราะลิงที่นี่เยอะครับ ต้องระมัดระวังเวลาเข้าออกห้องนิดนึง ต้องล็อคประตูตลอด เพราะลิงเปิดประตูเองได้ครับ 😅
และแล้ว นางก็หลุดเข้ามาในห้อง 1 ตัว มาขโมยเอากล้วยไปกินต่อหน้าเฉยเลย 🤣😁
เวลากลางคืนก็ได้ออกไปนั่งบาร์ในเมืองอ่าวนางครับ ต้องเดินข้ามเขาไป ทางเดินจะมีไฟให้ตลอดทาง
จนถึงบาร์ที่เพื่อนนัดไว้ ชื่อบาร์ เลกเก้บาร์ครับ ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติที่มาบาร์นี้ และก็มีไฟโชว์ด้วยแหละ แต่ผมลืมถ่ายรูปมา 🙏🤦♂️
ส่วนวันสุดท้าย ก่อนจะกลับ กรุงเทพ ได้ออกไปเดินหน้าหาด บรรยากาศดีสุดๆครับ ความคิดเห็นส่วนตัวนะ
ก่อน Check out เราจะต้องจองเรือกลับฝั่งก่อน 1 วันที่จะ Check out ครับ.
สุดท้ายแล้ว คู่หูคู่ใจที่เดินทางด้วยกัน ก็คืนคนนี้แหละครับ
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ ที่ให้แชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวและความรู้เล็กๆน้อยๆกับทุกคนครับ 🙏🙏🙏🙏🙏