ทำงานบริษัทญี่ปุ่น ประสพการณ์ที่ไม่มีวันลืม

กระทู้สนทนา
ขอแนะนำตัวก่อนนามแฝงผมคือ raksafety ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าทำงานในตำแหน่งอะไร ก็เป็นมนุษย์เงินเดือนมาทั้งชีวิตทำงานมาหลายสิบปีส่วนใหญ่จะทำงานกับบริษัทต่างชาติและเจ้านายก็มักจะเป็นชาวอเมริกันบ้าง ยุโรปบ้าง มีสิงคโปร์ด้วยครั้งนึง แต่ไม่เคยทำงานกับคนไทยและญี่ปุ่น คือที่จริงผมเปลี่ยนงานบ่อยมากจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ แต่มีครั้งนึงมีโอกาสได้เข้าทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นที่เมืองไทย เป็นยักษ์ใหญ่เรียกว่าเป็นเบอร์หนึ่งก็ว่าได้ ฟังดูก็น่าจะดีแต่มันกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม มันอาจเป็นเพราะผมเคยชินกับการทำงานกับฝรั่ง วัฒนธรรมฝรั่ง และไม่เคยชินกับคนญี่ปุ่น วัฒนธรรมญี่ปุ่น อย่างใดอย่างหนึ่งผมไม่ทราบ แต่สิ่งที่ผมได้รับคือประสพการณ์ที่ไม่มีวันลืมและไม่คิดจะกลับไปหามันอีกตั้งแต่วันแรกที่ก้าวย่างเข้าไปคือ
1.  ระเบียบปฎิบัติประจำวันอย่างเคร่งครัดและ......
ตั่งแต่เริ่มขับรถมาทำงานวันแรกทางฝ่ายบุคคลซึ่งส่วนใหญ่จะเพิ่งจบใหม่ คือที่จริงแล้วพนักงานที่นี่ส่วนใหญ่เด็ก ๆ เธอโทรบอกเส้นทางมาบริษัท, จุดให้รอ เวลาที่มาถึงแบบเป๊ะ ๆ เลย ฟังดูก็น่าจะดีเขาเป็นห่วงเราดี แต่มันกำลังทำให้คนแก่อย่างผมประสาทจะกินที่ต้องคอยรับฟังคำแนะนำตลอดเส้นทางขณะขับรถ ทั้งที่ผมมาสัมภาษณ์ที่ถึง 2 ครั้ง รู้เส้นทางดี พอเข้าไปถึงก็ให้ไปนั่งรอห้องเพื่อรับการอบรมชี้แจง ช่วงที่รอผมก็เลยควักโทรศัพท์มาเซลฟี่เป็นที่ระลึกไปภาพนึงด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะมารู้ทีหลังว่าภายในบริษัทห้ามถ่ายรูปใด ๆ แม้แต่ตัวเอง บทลงโทษคือได้รับใบเตือน และถ้าครั้งที่สองจะถูกเชิญออกโดยไม่ได้รับค่าชดเชยใด ๆ ก็คงจะเป็นเหตุผลเรื่องความลับของบริษัท แต่ขอโทษนอกรั้วบริษัทคุณจะถ่ายมุมไหนก็ได้ ถึงแม้เอกสารทุกอย่างจะเป็นความลับห้ามปริ้นท์จากเครื่องโน๊ตบุค แต่คุณสามารถนำโน๊ตบุ๊กที่เก็บเอกสารทั้งหมดกลับบ้านได้ ตลกดีมั้ยครับ นั่งรอเพลิน ๆ ได้ยินเสียงคุ้น ๆ เหมือนสมัยเรียนตอนเด็ก ๆ ใช่ครับมันคือเสียงออดเแบบให้เข้าห้องเรียน เลิกเรียนแบบนั้นเลย ผมนี่ยิ้มออกมาเลย บางทีกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งก็ดีเหมือนกัน
ผมอาจคุ้นเคยกับบริษัทฝรั่งที่ไม่เน้นการเข้างานเลิกงานแต่งานคุณต้องเสร็จทันเวลาที่กำหนด แต่ที่นี่ไม่ใช่ถึงแม้นออดเข้างานจะดังตอน 8 โมงเช้า แต่คุณต้องมาก่อนนั้น เพราะถึงแม้คุณจะมาถึง 7.30 น. คุณจะเห็นคนญี่ปุ่นมากันก่อนหน้านั้นแล้ว แม้ว่าจะยังไม่เปิดไฟและแอร์ซึ่งเป็นมาตรการประหยัดของบริษัทญี่ปุ่นทั่ว ๆ ไป ไม่ใช่แค่ออดเข้างานและเลิกงาน ออดรับประทานอาหารกลางวันก็มีเหมือนกันคุณจะนั่งแช่ที่ทำงานต่อก็ได้แต่เขาจะปิดไฟและแอร์ที่ปกติก็เปิดแบบประหยัดร้อนจนต้องใช้พัดลมตัวเล็ก ๆ ช่วยอยู่แล้ว การกินอาหารต้องต่อคิวเพื่อที่จะไปกินอาหารไทยสไตล์ญี่ปุ่นที่จืดสนิทเพราะญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่กินเผ็ด กินเสร็จต้องบริการตัวเอง ไม่เหมือนกับบริษัทฝรั่งที่ผมเคยทำมาที่เขาจะนั่งกินร่วมกันพูดคุยกัน แต่ที่นี่ญี่ปุ่นจะนั่งกับคนญี่ปุ่น และคนไทยก็จะนั่งกับคนไทย แปลกดี เวลากินข้าวรีบกินแล้วรีบไปทำงานให้ทันก่อนออดเข้างานตอนบ่าย ดังนั้นจะไปกินนอกบริษัทเลิกคิดได้เพราะยังไงก็ไม่ทัน จงกินอาหารจำเจ จืดชืดต่อไปตราบใดที่ยังจำเป็นต้องทำงานที่นี่
2. สถานที่ทำงาน
อันนี้ต้องชมว่าที่ทำงานจะสะอาดมากที่สุด ถังขยะจะแยกประเภทชัดเจนก่อนที่มันจะไปรวมกันอีกทีในตอนหลัง ทุกอย่างวางเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมทั้งโต๊ะทำงานต้องไม่วางสิ่งใด ๆ เกะกะ ต้องไม่มีขยะ ผมเคยชินกับการมีห้องทำงานส่วนตัวสำหรับระดับผู้จัดการแต่ไม่ใช่บริษัทญี่ปุ่น ห้องทำงานจะมีเพียงห้องเดียวสำหรับผู้บริหารระดับสูงสุดเท่านั้นพวก CEO MD นอกนั้นนั่งคอกพาร์เทชั่น เห็นกันได้หมดหัวหน้านั่งหลังลูกน้องนั่งหน้าเรียงตามลำดับ ตรงกลางจะเป็นทางเดินแบบ catwalk เพราะฉะนั้นถ้าคุณมาช้าหรือกลับเร็วทุกสายตาจะมองมาที่คุณเหมือนคุณด้วยสายตาแปลก ๆ โดยไม่ต้องกล่าวอะไรสักคำ คุณจะรู้สึกผิดเหมือนกับว่าคุณเพิ่งก่ออาชญากรรมอันเลวร้ายมาหยก ๆ
3. ระบบบริหารจัดการ
บริษัทญี่ปุ่นก็ต้องบริหารแบบญี่ปุ่นเป็นธรรมดา ไม่ว่าจะอ้างว่าใช้ระบบอินเตอร์ หรือมาตรฐานโลกใด ๆ จริง ๆ แล้วมันก็คือระบบญี่ปุ่น ผู้บริหารระดับสูงยังคงเป็นคนญี่ปุ่น เป็นไปได้ยากมาก ๆ ที่จะเห็นคนต่างชาติเป็นผู้บริหาร ส่วนระดับผู้อำนวยการหรือผู้จัดการก็มักเป็นคนญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีคนไทยเก่ง ๆ บางคนมีโอกาสเติบโตได้ในระดับนั้นแต่ก็ยังต้องถูกควบคุมด้วยคนญี่ปุ่นที่เป็นที่ปรึกษา แม้ว่าจะไม่สามารถให้คำปรึกษาอะไรได้มากเพราะส่วนใหญ่จะอายุไม่มาก ประสพการณ์ไม่เยอะ แต่ทว่าเขาเป็นคนญี่ปุ่น
การทำงานมีการกำหนดไว้ล่วงหน้าไม่มีการยืดหยุ่นและเปลี่ยนแปลง ทุกวันคุณต้องประชุม แล้วก็ประชุม บางวันคุณอาจต้องประชุมถึง 5 รอบ ก็เพื่อเตรียมงานที่จะทำประมาณ 1 ชั่วโมง แต่คุณต้องประชุม 3 ชั่วโมงเพื่อการนั้น และนั่นแหละในที่ประชุมคุณมีสิทธิออกความเห็นอะไรก็ได้ แต่บทสรุปต้องเป็นไปตามคนญี่ปุ่นกำหนด
บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ชอบจ้างเด็กจบใหม่หรือคนหนุ่มสาวคนไทยเพื่อเรียนรู้ระบบ ไม่ต้องการระบบของที่อื่นมาเปลี่ยนแปลงองค์กร เจ้านายญี่ปุ่นจะชอบให้พนักงานเรียนรู้การนำเสนอหน้าห้อง หรือ presentation และมีการทดสอบเป็นระยะถ้าไม่ดีก็จะพิจารณาผลการทำงาน พนักงานก็จะ present ไป ญี่ปุ่นก็จะคอยจับผิดและป้อนคำถามให้ตอบ จะว่าไประบบนี้มันก็ดีถ้ามีผู้บริหารญี่ปุ่นแนะนำและคอยสอน แต่ที่เจอมาคือคนญี่ปุ่นเอง present ไม่ได้เรื่อง ไม่ใช่แย่แค่ภาษาอังกฤษที่ฟังไม่รู้เรื่อง แต่การนำเสนอก็ไม่ได้เรื่อง อีกชาตินึงที่มักจะเห็นในบริษัทญี่ปุ่นจ้างให้ทำงานและเป็นผู้บริหารคือพวกแขกอินเดีย ปากี บังคลาเทศ เพราะพวกนี้จะละเอียดในการทำงาน ต่อรองเก่งโดยเฉพาะด้านการเงิน และที่สำคัญพวกนี้เงินเดือนถูก
4. คนญี่ปุ่น
ก็อย่างที่บอกว่าไม่คุ้นกับคนญี่ปุ่นมาก่อน และมีทัศนคติที่ดีกับคนญี่ปุ่นมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นความมีระเบียบวินัย ความขยัน ฉลาด สะอาด และสุภาพ แต่สิ่งที่ได้พบมากับพบอีกมุมมองนึงของคนญี่ปุ่นบางคนแต่ก็ส่วนใหญ่ที่ทำงานด้วยในบริษัทนี้คือ ใช่คนญี่ปุ่นมีระเบียบวินัยแต่น่าจะเป็นระเบียบวินัยที่เขียนให้คนอื่นปฎิบัติมากกว่าเพราะหลาย ๆ อย่างคนญี่ปุ่นเองก็แหกกฎเสียเองในหลาย ๆ เรื่องด้วย , คนญี่ปุ่นขยัน แต่กลับเสียเวลาไปกับการวางแผน วางวิธีการมากเกินไปผิดกับฝรั่งที่เขาทำแบบประสพการณ์มีระบบในตัวเอง ไม่ต้องกำหนดแผนงานในทุก ๆ ครั้ง ทุก ๆ เรื่องแม้เป็นเรื่องเล็ก ๆ, คนส่วนใหญ่มักมองว่าคนญี่ปุ่นฉลาดเพราะเห็นจากนวัตกรรมหรือเทคโนโลยี่ที่ญี่ปุ่นผลิตขึ้นมา ที่จริงไม่ได้เก่งไปกว่าชาติอื่นเลย เพียงแต่เขามีการพัฒนาด้านนี้แบบจริงจัง ก็เหมือนกับที่เรามองว่าสาวญี่ปุ่นสวยเซ็กซี่ที่จริงเพราะเราเห็นจากสื่อที่เป็นภาพดาราต่างหาก ที่จริงคนญี่ปุ่นบางคนไม่ได้คิดว่าเขาเป็นคนเอเซียและมองว่าคนเอเซียต่ำกว่าเขา แต่คนญี่ปุ่น(บางคน) จะยกย่องคนอเมริกันและยุโรป แต่ไม่ใช่เอเซียแน่ๆ
จากที่ได้ร่วมงานมายอมรับว่าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่สุภาพไม่ก้าวร้าวถ้าเปรียบเทียบกับฝรั่ง แต่ถ้าจะให้เลือกผมเลือกฝรั่งเพราะตรงไปตรงมาดีคือไม่พอใจอะไรก็พูดเลย ต่างจากญี่ปุ่นที่พูดกับเราดีแต่กลับทำตรงกันข้าม เข้าใจยากดูเหมือนเขาดีกับเราแต่บางครั้งมันไม่ใช่เลย ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดอะไร พูดจาดีปากหวานแต่ทำตรงกันข้ามคนไทยเขาเรียกอะไรน่ะ? อีกอย่างคือคนญี่ปุ่นจะกลัวเสียหน้ามากเพราะฉะนั้นเวลาเขาพลาดอะไรก็ระวังหน่อยแล้วกัน แต่อย่างไรก็ตามเขาชอบให้เราแสดงความสามารถให้เห็นน่ะรวมทั้งความคิดเห็นดี ๆ ด้วย เขาจะชอบมากเพราะมันจะกลายเป็นของเขาหลังจากนั้น

จบครับจากประสพการณ์จริงและขอย้ำว่าเป็นแค่ความรู้สึกที่มีต่อคนญี่ปุ่นบางคนเท่านั้น

ด้วยความนับถือ
raksafety
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่