สมัยผมเคยทำงานในร้านอาหารไทยยี่สิบสี่กว่าปีมาแล้ว อยู่แผนกทำสตาร์ทเตอร์ เป็นร้านอาหารไทยเล็กๆ ในครัวมีแค่สี่คน กุ๊กและผู้ช่วย ผมและคนล้างจาน คืนหนึ่งมีแขกระดับวีไอพีที่ถือศักดิดาเป็น “ท่านลอร์ด” กับภรรยาเข้าร้าน เจ้าของร้านและพนักงานเสริฟ พนักงานในครัวรวมทั้งผมด้วยตื่นเต้นมาก ท่านลอร์ดและภรรยาสั่งสตาร์ทเตอร์เป็น ทอดมันปลา สะเต๊ะเนือ/ไก่ ท่านเจ้าของร้านเข้ามาคุมการทำสตาร์ทเตอร์ด้วยตัวเอง บอกให้ผมพิถีพิถันพิเศษ สั่งแม่ครัวล้างผักที่แกะสลักเป็นเครื่องประดับขอบจานให้ดูสดชื่น (ปรกติร้านอาหารจะวนใช้เครื่องประดับที่ทำจากผักนี้เป็นอาทิตย์) อันไหนที่ดูเก่าดูหมองก็ให้รีบแกะใหม่หรือไม่ก็ขูดส่วนที่คล้ำออก เรียกได้ว่าตื่นเต้นกันทุกคนเลยล่ะ ผมเองก็พยายามแง้มมองเล็ดลอดจากห้องครัวเพื่อดูหน้าตาท่าน “ลอร์ด”และภรรยา
ตอนนั้นเผอิญว่าผมกำลังทอดป่อเปี๊ยะในกระทะน้ำมันร้อน(deep fry)ซึ่งมีเพียงเตาเดียวให้ลูกค้าคนอื่นอยู่ เจ้าของร้านคงอยากจะบริการท่านลอร์ดให้เต็มที่สตรีม บอกให้ผมเอาป่อเปี๊ยะขึ้นจากกะทะก่อนแล้วเอาทอดมันปลาลงไปเลย และให้เอาสะเต๊ะเนื้อและไก่เข้าเตาปิ้ง (สะเต๊ะทำสุกไว้แล้ว ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เสริฟได้) ทอดมันปลาก็เหมือนกันคือนึ่งไว้สุกแล้ว ลงกะทะไม่กี่นาทีก็เสริฟได้ ไม่กี่นาที....ทอดมันปลาร้อนๆ กับสะเต๊ะกลิ่นหอมฉุยก็ถูกนำไปเสริฟให้ท่านลอร์ดอย่างขมีขมันและพิถีพิถันจากมือเจ้าของร้าน
เป็นเรื่องสิครับ..! ฝรั่งลูกค้าโต๊ะข้างๆ ที่สั่งป่อเปี๊ยะก่อนหน้านี้โวยทันทีว่าเขาสั่งไปก่อนทำไมยังไม่ได้เลย คนมาทีหลังทำไมได้อาหารเร็วขนาดนั้น?? แม้จะอธิบายเท่าไหร่เขาก็ไม่ยอม ผมอยู่ในครัวแท้ๆ ถูกลากออกไปมีเอี่ยวด้วย สุดท้าย ท่านหลอด เอ้ยท่านลอร์ดก็ต้องเข้ามายุติเองว่า ทางที่ถูกเจ้าของร้านควรเสริฟคนที่สั่งก่อน เขาบอกให้เอาสะเต๊ะ กับทอดมันปลาเก็บเขาในครัวก่อน เขาจะไม่กิน...จนกว่าลูกค้าคนที่สั่งก่อนจะได้รับการเสริฟ เจ้าของร้านอาหารเงิบเลย เพราะอยากเอาใจวีไอพีจนออกหน้าออกตา ผมเองก็เริ่มเรียนรู้และซึ้งต่อการเคารพสิทธิ์มนุษย์ด้วยกันตรงนั้น
———————————————————
ขออนุญาตแถมอีกเรื่องหนึ่งนะครับเกี่ยวกับกับร้านอาหารในอังกฤษและ “ทักษิณ”
ผมติดตามห้องราชมานานแบบไม่ออกความเห็นเลย ผมแสดงความเห็นครั้งแรกหลังการปฏิวัติปี49ใหม่ๆ ตอนนั้นทักษิณปรากฏอย่างเปิดเผยว่าลี้ภัยอยู่อังกฤษ สื่อในเมืองไทยประโคมข่าวครึกโครม หนังสือ Taksin where are you? ของหมวดเจี๊ยบก็ได้รับคำตอบว่าตอนนี้ทักษิณอยู่ไหน ห้องราชฯ แห่งนี้ก็ครื้นเครงจากฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณและจากฝ่ายที่ไม่สนับสนุน
มีสมาชิกท่านหนึ่งเอาข่าวของ “แม่ลูกจันทร์” แห่งไทยรัฐมาลง แม่ลูกจันทร์เขียนในทำนองว่าคนไทยที่อังกฤษรังเกียจคุณทักษิณถึงขนาดว่าตอนคุณทักษิณเดินเข้าร้านอาหาร ลูกค้าคนไทยในร้านอาหารเคาะถ้วยเคาะชามเสียงดังโห่ไล่คุณทักษิณ ผมเลยแสดงความเห็นโต้แย้งไปว่าคุณแม่ลูกจันทร์เขียน “เวอร์” และมีอคติเกินไป พูดอย่างนี้แสดงว่ารู้ไม่จริง ร้านอาหารที่อังกฤษมีหรือจะยอมให้มีการเคาะถ้วยเคาะชามขับไล่ลูกค้าเขา ต่อให้ลูกค้าเขาเป็นยาจกหรือมหาเศรษฐีก็เถอะเขาต้อนรับ ข่าวที่คนไทยเคาะถ้วยเคาะชามขับไล่คุณทักษิณออกจากร้านอาหารที่ประเทศอังกฤษที่คุณ “แม่ลูกจันทร์” แห่งไทยรัฐเขียนไว้นั่นจึงไม่น่าจะเป็นความจริง สำหรับผมไม่เป็นความจริงได้เลย เพราะเชื่อว่าร้านอาหารในอังกฤษคงไม่ยอมมีการ “เสียมารยาท” เช่นนั้นเกิดขึ้นแน่ๆ
…”อยากกินลาบ” จากอัยการถึงร้านอาหารไทยในอังกฤษ.../วัชรานนท์
ตอนนั้นเผอิญว่าผมกำลังทอดป่อเปี๊ยะในกระทะน้ำมันร้อน(deep fry)ซึ่งมีเพียงเตาเดียวให้ลูกค้าคนอื่นอยู่ เจ้าของร้านคงอยากจะบริการท่านลอร์ดให้เต็มที่สตรีม บอกให้ผมเอาป่อเปี๊ยะขึ้นจากกะทะก่อนแล้วเอาทอดมันปลาลงไปเลย และให้เอาสะเต๊ะเนื้อและไก่เข้าเตาปิ้ง (สะเต๊ะทำสุกไว้แล้ว ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เสริฟได้) ทอดมันปลาก็เหมือนกันคือนึ่งไว้สุกแล้ว ลงกะทะไม่กี่นาทีก็เสริฟได้ ไม่กี่นาที....ทอดมันปลาร้อนๆ กับสะเต๊ะกลิ่นหอมฉุยก็ถูกนำไปเสริฟให้ท่านลอร์ดอย่างขมีขมันและพิถีพิถันจากมือเจ้าของร้าน
เป็นเรื่องสิครับ..! ฝรั่งลูกค้าโต๊ะข้างๆ ที่สั่งป่อเปี๊ยะก่อนหน้านี้โวยทันทีว่าเขาสั่งไปก่อนทำไมยังไม่ได้เลย คนมาทีหลังทำไมได้อาหารเร็วขนาดนั้น?? แม้จะอธิบายเท่าไหร่เขาก็ไม่ยอม ผมอยู่ในครัวแท้ๆ ถูกลากออกไปมีเอี่ยวด้วย สุดท้าย ท่านหลอด เอ้ยท่านลอร์ดก็ต้องเข้ามายุติเองว่า ทางที่ถูกเจ้าของร้านควรเสริฟคนที่สั่งก่อน เขาบอกให้เอาสะเต๊ะ กับทอดมันปลาเก็บเขาในครัวก่อน เขาจะไม่กิน...จนกว่าลูกค้าคนที่สั่งก่อนจะได้รับการเสริฟ เจ้าของร้านอาหารเงิบเลย เพราะอยากเอาใจวีไอพีจนออกหน้าออกตา ผมเองก็เริ่มเรียนรู้และซึ้งต่อการเคารพสิทธิ์มนุษย์ด้วยกันตรงนั้น
———————————————————
ขออนุญาตแถมอีกเรื่องหนึ่งนะครับเกี่ยวกับกับร้านอาหารในอังกฤษและ “ทักษิณ”
ผมติดตามห้องราชมานานแบบไม่ออกความเห็นเลย ผมแสดงความเห็นครั้งแรกหลังการปฏิวัติปี49ใหม่ๆ ตอนนั้นทักษิณปรากฏอย่างเปิดเผยว่าลี้ภัยอยู่อังกฤษ สื่อในเมืองไทยประโคมข่าวครึกโครม หนังสือ Taksin where are you? ของหมวดเจี๊ยบก็ได้รับคำตอบว่าตอนนี้ทักษิณอยู่ไหน ห้องราชฯ แห่งนี้ก็ครื้นเครงจากฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณและจากฝ่ายที่ไม่สนับสนุน
มีสมาชิกท่านหนึ่งเอาข่าวของ “แม่ลูกจันทร์” แห่งไทยรัฐมาลง แม่ลูกจันทร์เขียนในทำนองว่าคนไทยที่อังกฤษรังเกียจคุณทักษิณถึงขนาดว่าตอนคุณทักษิณเดินเข้าร้านอาหาร ลูกค้าคนไทยในร้านอาหารเคาะถ้วยเคาะชามเสียงดังโห่ไล่คุณทักษิณ ผมเลยแสดงความเห็นโต้แย้งไปว่าคุณแม่ลูกจันทร์เขียน “เวอร์” และมีอคติเกินไป พูดอย่างนี้แสดงว่ารู้ไม่จริง ร้านอาหารที่อังกฤษมีหรือจะยอมให้มีการเคาะถ้วยเคาะชามขับไล่ลูกค้าเขา ต่อให้ลูกค้าเขาเป็นยาจกหรือมหาเศรษฐีก็เถอะเขาต้อนรับ ข่าวที่คนไทยเคาะถ้วยเคาะชามขับไล่คุณทักษิณออกจากร้านอาหารที่ประเทศอังกฤษที่คุณ “แม่ลูกจันทร์” แห่งไทยรัฐเขียนไว้นั่นจึงไม่น่าจะเป็นความจริง สำหรับผมไม่เป็นความจริงได้เลย เพราะเชื่อว่าร้านอาหารในอังกฤษคงไม่ยอมมีการ “เสียมารยาท” เช่นนั้นเกิดขึ้นแน่ๆ