สวัสดครับ วันนี้ผมจะมารีวิวกระเป๋ากล้องกันบ้าง สืบเนื่องมาจากผมย้ายมาใช้กล้อง mirrorless เมื่อปีก่อนเพราะปัญหาสุขภาพแบกกล้อง FF dslr ไม่ไหมอีกต่อไป ก็เลยหันมาแบกของเล็กๆบ้าง แต่กระเป๋าเก่าสำหรับ dslr ที่มีอยู่มันก็ใหญ่เกินไป เลยออยากได้อะไรที่มันเล็กๆหน่อยและดูชิลๆไม่ออกแนวกระเป๋ากล้องจ๋ามากเกินไป หนึ่งในตัวเลือกของผมก็คือ ONA ที่ออกแนวเซอร์ๆ วินเทจนิดๆ แต่ปัญหาของผมคือราคามันมหาโหดสำหรับผมเสียเหลือเกิน ราคาในญี่ปุ่นเฉลี่ยก็ราวๆสองหมื่นเยนหน่อยๆกันทั้งนั้น เลยทำให้ความฝันของผมเป็นอันพับไป
แต่แล้วฝันของผมก็เป็นจริงด้วยการไปเดินงานกล้อง CP+ 2017 ที่โยโกฮาม่า (ห่างจากบ้านผมแค่ครึ่งชม.โดยรถไฟ) ระหว่างเดินดูนั่นนี่ไปเรื่อย ในงานมีการลดราคาของต่างๆ หนึ่งในนั้นคือกระเป๋า ONA The Bowery ที่ผมเล็งมานาน ด้วยข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้เพราะพี่แกลดราคาซะเหลือแค่ หกพันกว่าเยน ทำเอากระเป๋าตังผมสั่นระรัวเรียกร้องให้ผมหยิบออกมาจ่ายโดยไว
กระเป๋ากล้องใบนี้หลักๆคนออกแบบออกแบบมาให้มีขนาดค่อนข้างเล็ก สำหรับพกกล้อง mirrorless หรือ dslr 1 ตัวติดเลนส์คิท พร้อมเลนส์เสริมอีก 1 ตัว และข้าวของกระจุกกระจิกอีกนิดหน่อย จะว่าไปมันก็จุในระดับหนึ่งครับ ตามภาพข้างล่าง ทั้งกล้อง 1 ตัว เลนส์เสริมอีก 1 รวมทั้งของใช้ในช่วงอากาศหนาว (ต้นเดือนพค. กลางคืนนี่อุณหภุฒิเลขตัวเดียว) ถุงมือกันหนาว ของใช้กระจุกระจิกพวกยาอม ยาดม ฯลฯ
กระเป๋าที่มันมีกล้องออกมา
วัสดุเป็นผ้าใบเคลือบขี้ผึ้งเพื่อให้กันน้ำได้ระดับหนึ่ง รอบๆหุ้มด้วยหนัง เท่าที่ผมสะพายไปถ่ายรูปในวันที่ดวงซวยเจอฝนโดยไม่ได้ตั้งใจ ถ้าฝนปรอยๆก็กันน้ำในระดับหนึ่งครับ เปิดออกมากระเป๋าภายในยังแห้งดี แต่ผมไม่แนะนำให้สะพายในวันฝนตกหนักครับ อาจจะมีน้ำเข้าได้ถ้าเจอฝนแบบเน้นๆ และการเคลือบขี้ผึ้งนี่เองทำให้เวลาใช้งานมันทำให้ตัวกระเป๋าเกิดรอยต่างๆได้ง่าย ถ้าคนชอบแบบเซอร์ๆมีริ้วรอยก็โอเคครับ ถ้าชอบแบบเนี๊ยบๆไม่มีรอยมีเฟดมีริ้ว อาจจะมีแอบเซ็ง
ตัวล๊อคของกระเป๋าเป็นโลหะ ใช้วิธีการกดเพื่อปลดล๊อค ข้อดีคือมันเสียงไม่ดังเหมือนการใช้เวลโครหรือตีนตุ๊กแก ใช้งานได้คล่องตัวดีครับ โดยเฉพาะสาวกถ่ายภาพแนวสตรีทน่าจะถูกใจ เพราะเปิดได้ว่องไวพอๆกับซิป และไม่มีเสียงรบกวนมากนัก
วิธีการปลดล๊อคก็เพียงแค่กดปุ่มลงไปครับ ง่ายและสะดวกมากๆทีเดียว
หูของกระเป๋าสะพายเป็นโลหะ หมดกังวลเรื่องพลาสติกหักกรอบ ตัวสายสะพายเป็นวัสดุคล้ายเข็มขัดนิรภัย มีห่วงปรับความยาวของสายได้ ผมว่าคาดสบายดีครับ ไม่บาดไหล่เวลาสะพาย
ต่อมาเรื่องช่องใส่ของกันบ้าง ภายในตัวช่องหลักบุมาค่อนข้างดี มีความหนาพอให้มั่นใจว่าถ้ากระเป๋าไปกระแทกอะไรเข้า กล้องมันไม่น่าจะพังง่ายๆ ในกระเป๋าให้ตัวกั้นภายในมา 1 อัน สามารถปรับเลื่อนได้ตามใจชอบด้วยตีนตุ๊กแก ซึ่งมันแปะกับทุกบริเวณภายในกระเป๋าได้ เลยทำให้กำหนดขนาดของช่องได้อย่างอิสระ แต่ก็นั่นล่ะครับ ดันให้ตัวกั้นมาแค่อันเดียว อาจจะขัดใจหลายคนที่อยากให้มีการกั้นช่องเพิ่มได้อีกสักหน่อย ผมก็เช่นกัน สุดท้ายก็ไปเอาตัวกั้นจากกระเป๋ากล้องใบอื่นมากั้นเพิ่มเป็น 3 ช่องแทน
ผนังภายในบุมาค่อนข้างหน้า ตัวกั้นภายในกระเป๋าปรับได้อิสระตามชอบครับ
สำหรับบางวันผมไม่ได้พกกล้อง ก็แค่ถอดเอาตัวกั้นออก ก็สามารถแปลงให้กลายเป็นกระเป๋าใส่ของธรรมดาได้ครับ ในกรณีผม ผมใส่ Ipad Pro 9.7 พร้อมเคสและ apple pencil ได้สบายๆ ตามรูปด้านล่างครับ
ด้านหลังมีช่องขนาดใหญ่สำหรับใส่กระดาษเช่น สมุดบันทึก ของกระจุกกระจิกได้ ส่วนตัวผมเอาไว้ใส่เศษเหรียญแฮะ
จุดที่ผมขัดใจของกระเป๋าใบนี้คือช่องด้านข้างที่มันเล็กเหลือเกิน ตอนแรกผมพยายามเอามือถือใส่เข้าไป จนแล้วจนรอดก็ใส่ไม่ได้ครับ มันติด (มือถือผม Iphone 6 plus)
ผมลองพยายามครั้งสุดท้ายด้วยการลองใช้เป็นช่องใส่กุญแจบ้าน ผมว่าเป็นช่องที่ปลอดภัยมากครับขโมยล้วงไม่ได้แน่นอน เพราะผมเองยังแทบแย่กว่าจะเอากุญแจออกมาได้ ฮ่วยยย
สุดท้ายช่องขนาดเล็กสองช่องด้านในเป็นที่ที่เหมาะที่สุดกับการใส่มือถือตามรูปเลยครับ อีกช่องที่เหลือจะเอาไว้ใส่เมมโมรีการ์ด หรือพาสสปอร์ตก็ยังไหว ถ้าไม่ใหญ่มากจนเกินไปครับ
สรุป
กระเป๋ากล้องตัวนี้เป็นกระเป๋ากล้องขนาดเล็กที่เหมาะกับการขนของไม่เยอะ กล้องตัว เลนส์ตัว ของกระจุกระจิกนิดหน่อย ช่องใส่ของมีเท่าที่จำเป็น ไม่ได้เยอะแบบกระเป๋ากล้องหลายๆยี่ห้อ หน้าตารูปร่างดูเท่ ไม่เหมือนกระเป๋ากล้องสักเท่าไหร่ ดูผ่านๆก็นึกว่ากระเป๋าใส่ของทั่วไป เหมาะสำหรับการพกชิลๆเดินเที่ยวในเมืองหรือการเที่ยวที่ไม่ได้ผจญภัยมากนัก เอาเข้าไปลุยป่าลุยเขานี่ไม่เหมาะแน่นอน จากการที่ผมหิ้วไปถ่ายภาพที่ต่างๆมาสี่เดือน ผมคิดว่ากระเป๋าสะพายได้สบายมาก สายสะพายช่วยได้มาก ไม่บาดไหล่ ขนาดบรรจุกำลังพอดีๆสำหรับการเดินชิลในวันหยุดสบายๆ
จุดเด่นที่ผมชอบคือมันไม่เหมือนกระเป๋ากล้องสักเท่าไหร่ และการเปิดปิดกระเป๋าที่ทำได้สะดวกและเงียบ ทำให้การหยิบกล้องทำได้รวดเร็วสะดวกพอๆกับกระเป๋าแบบซิป
จุดที่ผมว่ายังขาดไปคือน่าจะให้ตัวกั้นช่องเพิ่มมาอีกสักอันหนึ่งและช่องด้านข้างที่ขยายออกมาหน่อยเพื่อให้มันใช้งานได้หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม
สำหรับเรื่องราคานั้น ถึงวัสดุจะดีแต่อาจจะทำให้ตัดสินใจลำบากอยู่ดีเพราะตัวเลือกอื่นๆก็มีหลายตัวที่ราคาเบากว่านี้ ถ้างบถึงหรือได้ดีลดีๆ ก็น่าลองรับไว้พิจารณาดูครับ
สุดท้าย ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมนะครับ ขอบคุณครับ
[CR] กระเป๋ากล้อง ONA | The Bowery กับการใช้งานมา 4 เดือน
สวัสดครับ วันนี้ผมจะมารีวิวกระเป๋ากล้องกันบ้าง สืบเนื่องมาจากผมย้ายมาใช้กล้อง mirrorless เมื่อปีก่อนเพราะปัญหาสุขภาพแบกกล้อง FF dslr ไม่ไหมอีกต่อไป ก็เลยหันมาแบกของเล็กๆบ้าง แต่กระเป๋าเก่าสำหรับ dslr ที่มีอยู่มันก็ใหญ่เกินไป เลยออยากได้อะไรที่มันเล็กๆหน่อยและดูชิลๆไม่ออกแนวกระเป๋ากล้องจ๋ามากเกินไป หนึ่งในตัวเลือกของผมก็คือ ONA ที่ออกแนวเซอร์ๆ วินเทจนิดๆ แต่ปัญหาของผมคือราคามันมหาโหดสำหรับผมเสียเหลือเกิน ราคาในญี่ปุ่นเฉลี่ยก็ราวๆสองหมื่นเยนหน่อยๆกันทั้งนั้น เลยทำให้ความฝันของผมเป็นอันพับไป
แต่แล้วฝันของผมก็เป็นจริงด้วยการไปเดินงานกล้อง CP+ 2017 ที่โยโกฮาม่า (ห่างจากบ้านผมแค่ครึ่งชม.โดยรถไฟ) ระหว่างเดินดูนั่นนี่ไปเรื่อย ในงานมีการลดราคาของต่างๆ หนึ่งในนั้นคือกระเป๋า ONA The Bowery ที่ผมเล็งมานาน ด้วยข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้เพราะพี่แกลดราคาซะเหลือแค่ หกพันกว่าเยน ทำเอากระเป๋าตังผมสั่นระรัวเรียกร้องให้ผมหยิบออกมาจ่ายโดยไว
กระเป๋ากล้องใบนี้หลักๆคนออกแบบออกแบบมาให้มีขนาดค่อนข้างเล็ก สำหรับพกกล้อง mirrorless หรือ dslr 1 ตัวติดเลนส์คิท พร้อมเลนส์เสริมอีก 1 ตัว และข้าวของกระจุกกระจิกอีกนิดหน่อย จะว่าไปมันก็จุในระดับหนึ่งครับ ตามภาพข้างล่าง ทั้งกล้อง 1 ตัว เลนส์เสริมอีก 1 รวมทั้งของใช้ในช่วงอากาศหนาว (ต้นเดือนพค. กลางคืนนี่อุณหภุฒิเลขตัวเดียว) ถุงมือกันหนาว ของใช้กระจุกระจิกพวกยาอม ยาดม ฯลฯ
กระเป๋าที่มันมีกล้องออกมา
วัสดุเป็นผ้าใบเคลือบขี้ผึ้งเพื่อให้กันน้ำได้ระดับหนึ่ง รอบๆหุ้มด้วยหนัง เท่าที่ผมสะพายไปถ่ายรูปในวันที่ดวงซวยเจอฝนโดยไม่ได้ตั้งใจ ถ้าฝนปรอยๆก็กันน้ำในระดับหนึ่งครับ เปิดออกมากระเป๋าภายในยังแห้งดี แต่ผมไม่แนะนำให้สะพายในวันฝนตกหนักครับ อาจจะมีน้ำเข้าได้ถ้าเจอฝนแบบเน้นๆ และการเคลือบขี้ผึ้งนี่เองทำให้เวลาใช้งานมันทำให้ตัวกระเป๋าเกิดรอยต่างๆได้ง่าย ถ้าคนชอบแบบเซอร์ๆมีริ้วรอยก็โอเคครับ ถ้าชอบแบบเนี๊ยบๆไม่มีรอยมีเฟดมีริ้ว อาจจะมีแอบเซ็ง
ตัวล๊อคของกระเป๋าเป็นโลหะ ใช้วิธีการกดเพื่อปลดล๊อค ข้อดีคือมันเสียงไม่ดังเหมือนการใช้เวลโครหรือตีนตุ๊กแก ใช้งานได้คล่องตัวดีครับ โดยเฉพาะสาวกถ่ายภาพแนวสตรีทน่าจะถูกใจ เพราะเปิดได้ว่องไวพอๆกับซิป และไม่มีเสียงรบกวนมากนัก
วิธีการปลดล๊อคก็เพียงแค่กดปุ่มลงไปครับ ง่ายและสะดวกมากๆทีเดียว
หูของกระเป๋าสะพายเป็นโลหะ หมดกังวลเรื่องพลาสติกหักกรอบ ตัวสายสะพายเป็นวัสดุคล้ายเข็มขัดนิรภัย มีห่วงปรับความยาวของสายได้ ผมว่าคาดสบายดีครับ ไม่บาดไหล่เวลาสะพาย
ต่อมาเรื่องช่องใส่ของกันบ้าง ภายในตัวช่องหลักบุมาค่อนข้างดี มีความหนาพอให้มั่นใจว่าถ้ากระเป๋าไปกระแทกอะไรเข้า กล้องมันไม่น่าจะพังง่ายๆ ในกระเป๋าให้ตัวกั้นภายในมา 1 อัน สามารถปรับเลื่อนได้ตามใจชอบด้วยตีนตุ๊กแก ซึ่งมันแปะกับทุกบริเวณภายในกระเป๋าได้ เลยทำให้กำหนดขนาดของช่องได้อย่างอิสระ แต่ก็นั่นล่ะครับ ดันให้ตัวกั้นมาแค่อันเดียว อาจจะขัดใจหลายคนที่อยากให้มีการกั้นช่องเพิ่มได้อีกสักหน่อย ผมก็เช่นกัน สุดท้ายก็ไปเอาตัวกั้นจากกระเป๋ากล้องใบอื่นมากั้นเพิ่มเป็น 3 ช่องแทน
ผนังภายในบุมาค่อนข้างหน้า ตัวกั้นภายในกระเป๋าปรับได้อิสระตามชอบครับ
สำหรับบางวันผมไม่ได้พกกล้อง ก็แค่ถอดเอาตัวกั้นออก ก็สามารถแปลงให้กลายเป็นกระเป๋าใส่ของธรรมดาได้ครับ ในกรณีผม ผมใส่ Ipad Pro 9.7 พร้อมเคสและ apple pencil ได้สบายๆ ตามรูปด้านล่างครับ
ด้านหลังมีช่องขนาดใหญ่สำหรับใส่กระดาษเช่น สมุดบันทึก ของกระจุกกระจิกได้ ส่วนตัวผมเอาไว้ใส่เศษเหรียญแฮะ
จุดที่ผมขัดใจของกระเป๋าใบนี้คือช่องด้านข้างที่มันเล็กเหลือเกิน ตอนแรกผมพยายามเอามือถือใส่เข้าไป จนแล้วจนรอดก็ใส่ไม่ได้ครับ มันติด (มือถือผม Iphone 6 plus)
ผมลองพยายามครั้งสุดท้ายด้วยการลองใช้เป็นช่องใส่กุญแจบ้าน ผมว่าเป็นช่องที่ปลอดภัยมากครับขโมยล้วงไม่ได้แน่นอน เพราะผมเองยังแทบแย่กว่าจะเอากุญแจออกมาได้ ฮ่วยยย
สุดท้ายช่องขนาดเล็กสองช่องด้านในเป็นที่ที่เหมาะที่สุดกับการใส่มือถือตามรูปเลยครับ อีกช่องที่เหลือจะเอาไว้ใส่เมมโมรีการ์ด หรือพาสสปอร์ตก็ยังไหว ถ้าไม่ใหญ่มากจนเกินไปครับ
สรุป
กระเป๋ากล้องตัวนี้เป็นกระเป๋ากล้องขนาดเล็กที่เหมาะกับการขนของไม่เยอะ กล้องตัว เลนส์ตัว ของกระจุกระจิกนิดหน่อย ช่องใส่ของมีเท่าที่จำเป็น ไม่ได้เยอะแบบกระเป๋ากล้องหลายๆยี่ห้อ หน้าตารูปร่างดูเท่ ไม่เหมือนกระเป๋ากล้องสักเท่าไหร่ ดูผ่านๆก็นึกว่ากระเป๋าใส่ของทั่วไป เหมาะสำหรับการพกชิลๆเดินเที่ยวในเมืองหรือการเที่ยวที่ไม่ได้ผจญภัยมากนัก เอาเข้าไปลุยป่าลุยเขานี่ไม่เหมาะแน่นอน จากการที่ผมหิ้วไปถ่ายภาพที่ต่างๆมาสี่เดือน ผมคิดว่ากระเป๋าสะพายได้สบายมาก สายสะพายช่วยได้มาก ไม่บาดไหล่ ขนาดบรรจุกำลังพอดีๆสำหรับการเดินชิลในวันหยุดสบายๆ
จุดเด่นที่ผมชอบคือมันไม่เหมือนกระเป๋ากล้องสักเท่าไหร่ และการเปิดปิดกระเป๋าที่ทำได้สะดวกและเงียบ ทำให้การหยิบกล้องทำได้รวดเร็วสะดวกพอๆกับกระเป๋าแบบซิป
จุดที่ผมว่ายังขาดไปคือน่าจะให้ตัวกั้นช่องเพิ่มมาอีกสักอันหนึ่งและช่องด้านข้างที่ขยายออกมาหน่อยเพื่อให้มันใช้งานได้หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม
สำหรับเรื่องราคานั้น ถึงวัสดุจะดีแต่อาจจะทำให้ตัดสินใจลำบากอยู่ดีเพราะตัวเลือกอื่นๆก็มีหลายตัวที่ราคาเบากว่านี้ ถ้างบถึงหรือได้ดีลดีๆ ก็น่าลองรับไว้พิจารณาดูครับ
สุดท้าย ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมนะครับ ขอบคุณครับ