สวัสดีครับ วันนี้กลับมาแชร์ประสบการณ์อีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานกับ long term review กระเป๋ากล้องสายชิล ONA Bowery ย้อนความไปเล็กน้อยเมื่อ 5 ปีก่อนผมเคยรีวิวไว้แล้วหนึ่งกับกระเป๋าใบนี้ รอบบี้ผมกลับมาอีกครั้งกับกระเป๋าใบเดิม หลังจากใช้งานมา 5 ปี ความคิดเห็นต่อกระเป๋านี้ยังเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนไปเรามารับชมกันครับ




กระเป๋าใบนี้ผ่านการใช้งานมาเยอะพอควรครับ เรียกว่าเป็นกระเป๋า every day use เลยก็ว่าได้ วันไหนไม่ได้ถ่ายรูป ไปออฟฟิสก็แกะเอาตัวกั้นออกแล้วใส่ ipad ไปทำงาน ดูจากภาพจะเห็นครับว่า wax ที่เคลือบผ้าหลุดออกไปเยอะ จริงๆผมคอยเติมนะครับ ให้ผ้ามันกันละอองน้ำแต่เวลาผ่านไปความขี้เกียจมันมาครับ พักหลังเลยไม่ได้เติม

ผ้าแคนวาสของกระเป๋าผ่านมาห้าปียังคงอยู่ในสภาพที่ยังใช้งานได้ครับ จะมีรอยขาดตรงกระเป๋าด้านหลังนิดเดียว เนื่องจากมันถูกับกางเกงผมเป็นประจำ นอกนั้นทุกอย่างยังคงสภาพดีอยู่ น่าจะยังใช้ได้อีกหลายปี แถมดูเก๋าดี ตรงผมให้ผ่านครับ

ข้อเสียของกระเป๋าทรงนี้คือฝากระเป๋ามันขนาดพอดีตัว ทำให้ฝุ่นหรือละอองฝนเข้าได้ครับ จากที่เคยออกไปถ่ายรูป ลมแรงๆพักทรายเข้ากระเป๋าได้ครับ อีกเรื่องคือผ้าไม่ได้กันน้ำมากมาย ละอองฝนพอกันได้ เจอฝนแรงๆสู้ไม่ไหวแน่นอนครับ



สิ่งที่ยังไม่ค่อยเปลี่ยนสภาพเรียกว่าคล้ายกับตอนซื้อมาคือสภาพของหนังและสายสะพายครับ โดยเฉพาะสายสะพายนี่สภาพเหมือนตอนซื้อมาวันแรก ไม่มีย้วย



ลองมาดูการใส่ของครับ ปัจจุบันก็ยังคงยืนยันคำเดิมครับว่าตัวกั้นที่ให้มาอันเดียวมันน้อยไป ต้องไปหาของกระเป๋าอื่นมาใส่เพิ่ม ดีที่ผมมีอยู่แล้วก็สบายไปครับ ตัวกระเป๋าเองจุของได้ประมาณนึง ถ้าเป็น mirrorless หรือ rangefinder ก็พอใส่บอดี้+เลนส์ติดกล้อง และเลนส์อีกสัก 2-3 ตัวครับ





ภาพสุดท้ายครับ ของที่ผมใส่ประจำ ดูๆไปเหมือนจะน้อยกว่าสมัยซื้อมาใหม่ๆ อาจจะเพราะกล้องมันหนักขึ้นครับ ขี้เกียจแบกเยอะ



สรุป: กระเป๋าตัวนี้หลังจากผ่านมาห้าปี ผมยังคงความเห็นเดิมครับว่าเป็นกระเป๋าที่เหมาะกับการพกของไม่เยอะมาก กล้อง+เลนส์เล็กๆ 2-3 ตัวกำลังได้ ข้อดีอีกข้อคือหน้าตาไม่ค่อยเหมือนกระเป๋ากล้อง คนไม่ค่อยสนใจ

ข้อเสียคือช่องใส่ของย่อยๆ ด้านข้างและด้านหน้าใส่ของได้น้อยครับ แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรมาก ใส่แบตกับพวงกุญแจก็เต็มแล้วครับ จะใส่เอกสารแผนพับอะไรนี่หาที่ใส่ลำบากครับ กับอีกเรื่องคือกันฝุ่นปละน้ำไม่ค่อยดี เจอฝนนี่จอดแน่ๆครับ ถ้าละอองฝนโอเคอยู่ครับ