สวัสดีค่าา
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่านี่เป็นกระทู้รีวิวกระทู้แรกของเราเลย
ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไรหรือเขียนไม่ชัดเจนตรงไหน ขออภัยด้วยนะคะ
สำหรับใครที่ต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติม (เรื่องราคา การเดินทาง ฯลฯ ที่เราอาจจะตกหล่น) สามารถสอบถามได้เลยนะคะ
----------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มที่ร้านแรกเลย
"Hon Kee Porridge" - ร้านโจ๊กปลาดิบชื่อดังราคางามที่ตั้งอยู่ในย่าน China Town ที่ทุกคนจะต้องแวะมาเมื่อมากัวลาลัมเปอร์
เริ่มต้นมื้อเช้าของการท่องเที่ยวด้วยโจ๊กสีขาวนวล เนื้อโจ๊กข้นและเสิร์ฟถึงโต๊ะร้อนๆ ร้อนจนกระทั่งคำสุดท้ายเลยทีเดียว
สำหรับโจ๊กปลาดิบ ทางร้านจะแยกมาเป็นโจ๊กเปล่าหนึ่งชามและปลาดิบหนึ่งจานค่ะ ซึ่งจำนวนปลาดิบก็ถือว่าคุ้มค่าราคามากๆ อร่อยแปลกใหม่ไปอีกแบบด้วยค่ะ
ส่วนโจ๊กหมูสับ หมูสับของที่นี่จะปั้นมาเป็นก้อนกลมดิก เนื้อแน่น แต่นุ่มในที มีขนาดพอดีคำ ต่างจากโจ๊กบ้านเราที่หมูจะเด้งๆ ก้อนโตๆ ค่ะ
การเดินทาง: บนถนน Jalan Tun Tan Cheng Lock เดินเข้า Petaling Street หรือ China Town ผ่านร้านรวงของก๊อปจำนวนมากไป จนกระทั่งเจอสี่แยกเล็กๆ ซ้ายมือจะมีร้านผลไม้อยู่ เลี้ยวซ้ายได้เลย ร้านจะอยู่ขวามือ
ราคา: ประมาณ 5-8 RM (เฉพาะโจ๊กปลาดิบและโจ๊กหมูตามภาพ)
----------------------------------------------------------------------------------------
ร้านต่อมา
“Shin Kee Noodle Specialist” – ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าเด็ดที่อยู่ไม่ไกลจาก China Town ร้านนี้ตอนที่เราไปรอบแรก เป็นช่วงบ่ายวันธรรมดา คนจึงไม่ค่อยเยอะ แต่พอไปรอบที่สอง ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ คนเยอะจนต้องยืนรอหน้าร้านเลยค่ะ
ร้านนี้เจ้าของร้านน่ารักมาก (หนุ่มจีนผิวขาวตี๋เป็นพ่อครัวของร้านค่ะ) พูดไทยได้นิดหน่อย ใครที่ไม่ทานเครื่องใน พูดเป็นภาษาไทยกับเจ้าของร้านคนนี้ได้นะคะ บอกเค้าว่า “ไม่เอาเครื่องใน” เค้าเข้าใจค่ะ หรือใครอยากจะสื่อสารเป็นภาษาจีนกวางตุ้งหรือภาษาอังกฤษ ก็ไม่ขัดข้องค่ะ พี่แกพูดได้หลายภาษาทีเดียว
สำหรับก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้านี้ จะมีเส้นให้เลือก 3 แบบ เส้นหมี่เหลือง (กลมๆ ขนาดใหญ่กว่าบะหมี่บ้านเรา เหนียวและนุ่มกว่า) เส้นแบนสีขาว (คล้ายเส้นใหญ่) ส่วนอีกแบบจะคล้ายๆ เส้นเล็กค่ะ
น้ำซุปเนื้อที่นี่หอมมากค่ะ ถ้าใครสั่งเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำ เค้าจะตักเนื้อสับปรุงรสราดมา พอผสมกับน้ำซุปแล้วก็กลมกล่อมเข้ากันดีมากๆ แต่ถ้าใครสั่งก๋วยเตี๋ยวแห้งก็จะได้ทานน้ำซุปเนื้อใสๆ ส่วนเส้นจะถูกคลุกเคล้าไปกับเนื้อสับปรุงรส อร่อยไม่แพ้กันเลยค่ะ
ส่วนตัวฟินกับเนื้อสดมากๆ ด้วยค่ะ (ขนาดไม่ใช่คอก๋วยเตี๋ยวเนื้อ) ต้องยอมรับเลยว่าเนื้อเค้านุ่มมากจริงๆ แทบจะละลายในปากเลยแหละค่ะ
การเดินทาง: บนถนน Jalan Tun Tan Cheng Lock หันหน้าเข้าหาทางเข้า Petaling Street แล้วเดินเลียบถนนไปทางขวา ร้านอยู่ริมถนนเลยค่ะ ได้กลิ่นน้ำซุปเนื้อลอยออกมาแน่นอน
ราคา: ชามเล็ก 8 RM, ชามใหญ่ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ (ลืมมม) *ต้องจ่ายเงินทันทีที่ก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟนะคะ*
----------------------------------------------------------------------------------------
ใครอิ่มจากก๋วยเตี๋ยวเนื้อแสนอร่อยแล้ว อยากได้ของหวานมินิๆ ตบท้าย เราขอเสนอร้าน
"S’Ban Siew Pao" ซึ่งเป็นร้านที่เราเจอโดยบังเอิญค่ะ คือเราเดินไปโดยไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่ามีร้านขนมอยู่ตรงนั้น แต่กลิ่นที่หอมโดดเด่นแตะจมูก เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันกลับไปมองแล้วเดินเข้าไปซื้อทันทีเลยค่ะ
ร้านนี้มีทั้งซาลาเปาไซส์มินิที่หน้าตาเหมือนขนมเปี๊ยะ (Seremban Siew Pow) คือมันกรอบนอก นุ่มใน อุ่นร้อนละมุนลิ้นมาก มีไส้หมูและไก่ รสชาติไส้คล้ายๆ ไส้ซาลาเปาหมูแดงแต่หอมกว่า สีเข้มกว่า / ขนมหน้าตาเหมือนบัน ลูกกลมๆ ใหญ่ กดลงไปนี่คือนุ่มจนจมมิดเลยค่ะ ไส้นี่แน่นทะลักมาก / ส่วนขนมอีกอย่างเราไม่ได้ลองค่ะ หน้าตาคล้ายๆ กะหรี่ปั๊บ แต่ชิ้นใหญ่กว่า เรียกว่า Kaya Kok ใครทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อเสร็จแล้ว ก็แวะไปลองได้นะคะ
การเดินทาง: จากร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ Shin Kee ออกจากร้านมาเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงหัวมุมถนน เลี้ยวซ้ายอีกที ร้านอยู่ตรงมุมถนนพอดีเลยค่ะ เดินไปยังไม่ทันจะถึงดี ก็โดนกลิ่นหอมๆ ลอยมาดึงจมูกไปแล้วล่ะค่า
ราคา: 1-3 RM
----------------------------------------------------------------------------------------
ร้านถัดมาอีกร้าน เป็นร้านสำหรับมื้อเย็น-ค่ำนะคะ
“Wong Ah Wah / WAW. Restoran” – ร้านอาหารชื่อดังบนถนนสายอาหาร ร้านนี้คนเยอะมากค่ะ ต้องทำใจนิดนึง พนักงานจะบอกเราค่ะ ว่าคนเยอะมากแค่ไหน ต้องรอประมาณกี่นาที ซึ่งจริงๆ ตอนไปวันธรรมดาก็ไม่ได้นานมากนะคะ แต่พอเป็นเสาร์อาทิตย์ พนักงานบอกว่า “Many Customers, have to wait 30 minutes” (แต่เราก็รออยู่ดี 55555)
ร้านนี้ขายอาหารหลากหลายมากค่ะ ทั้งอาหารทะเล ผัก หมู ไก่ เนื้อ ฯลฯ แต่เมนูดังๆ ของเค้าก็จะมี ปลากระเบนย่างและปีกไก่ย่าง ซึ่งเป็นเมนูที่ทุกโต๊ะจะสั่งเหมือนกันหมดเลยค่ะ เป็นร้านอาหารสไตล์จีนๆ หน่อยค่ะ
การเดินทาง: ร้านตั้งอยู่ท้ายสุดของถนน Jalan Alor ย่าน Bukit Bintang ค่ะ (ถ้ามาจาก Monorail สถานี Bukit Bintang) ป้ายร้านสีขาว มีตัวหนังสือระบุชื่อร้านตัวใหญ่มากกก ร้านนี้กินพื้นที่ถึง 3-4 บล็อกด้วยกัน คนเยอะมาก ไม่ต้องกลัวหาไม่เจอเลยค่ะ
ราคา: อาหารทะเลขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ส่วนอาหารอย่างอื่นทั่วไป ขึ้นอยู่กับขนาดจานค่ะ มีให้เลือก S, M, L, XL – ราคาสำหรับไซส์เล็กสุด ก็จะอยู่ประมาณ 10-40 RM ค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------------
ร้านสุดท้ายเป็นของแถม สำหรับคอก๋วยเตี๋ยวอย่างเรา 555
“Hu Tong Food Court @Lot10” – ฟู้ดคอร์ทที่รวมร้านอาหารชื่อดังจำนวนมากให้มาอยู่ในที่ที่เดียว ในราคาที่คุ้มค่ากับปริมาณ จริงๆ ฟู้ดคอร์ทแห่งนี้มีร้านรวงที่น่าสนใจ ดูน่าอร่อยจำนวนมากเลยค่ะ ทั้งร้านข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูกรอบ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา อาหารไทย อาหารเกาหลี อาหารตะวันตก บักกุ๊ดเต๋ ติ่มซำ ฯลฯ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนชอบทานก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลามาก ก็เลยได้แต่ลองทานร้าน House of Fish Ball แค่ร้านเดียว ส่วนผู้ร่วมทริปอีกคนก็ดั๊นชอบกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก็เลยโดนร้าน Soong Kee Beef Noodle ไปค่ะ เป็นอันว่ามีแต่ก๋วยเตี๋ยว 555
House of Fish Ball – เป็นร้านลูกชิ้นปลาทำเองค่ะ มีทั้งลูกชิ้นกลม, ปลาเส้นหรือฮื่อก้วย และ ลูกชิ้นปลาเอาไปทอดทั้งแผ่น เค้าเรียก Fish Cake ค่ะ ซึ่งเนื้อสัมผัสของลูกชิ้นปลานี่สุดยอดมาก เด้งพอประมาณ นุ่ม ไม่คาว มีรสชาติกลมกล่อมอยู่ในตัว ที่สำคัญไม่ใช่ลูกชิ้นแป้งราคาถูกเลยค่ะ สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือเส้น เส้นก๋วยเตี๋ยวร้านนี้จะมีสามแบบด้วยกัน คือ เส้นสีขาว ยาว กลม คล้ายๆ เส้นอูด้งแต่เล็กกว่า นิ่มกว่า ไม่หนึบ / เส้นเหลือง หรือ บะหมี่ เส้นเค้าจะไม่แบนหรือกลมๆ เล็กๆ เหมือนบ้านเรา แต่จะเป็นเส้นกลม หนา มีความเหนียวและนุ่มอยู่ในที / เส้นแบบสุดท้าย คือ เส้นสีเขียว ไม่ใช่บะหมี่หยกนะคะ เค้าบอกเป็น Celery Noodle เราว่ามันคล้ายๆ บะหมี่ผักโมโรเฮยะใน MK แต่จะนุ่มกว่า เหนียวกว่าค่ะ
Soong Kee Beef Noodle – ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อดังอีกร้าน จุดเด่นของร้านนี้คือ เส้นหมี่เหลืองที่จะมีขนาดเล็ก กรอบ (เหมือนหมี่ผัดเลยค่ะ) แต่ก็เหนียวหนึบ ราดด้วยซอสเนื้อสับ เคียงคู่มากับน้ำซุปเนื้อ ลูกชิ้นและเนื้อสดค่ะ (ก๋วยเตี๋ยวแห้งที่นี่จะเป็นการแยกชามเส้นกับชามซุปค่ะ โดยเครื่องเคียง เนื้อสัตว์ต่างๆ จะอยู่ในชามซุป) ขอบอกเลยว่าเนื้อสดที่นี่นุ่มกว่า ละมุนลิ้นกว่า เมื่อเทียบกับร้าน Shin Kee ค่ะ
การเดินทาง: ห้าง Lot10 ตั้งอยู่ติดสถานี Monorail – Bukit Bingtang สามารถใช้ทางเชื่อมเดินเข้าตัวห้างได้เลยค่ะ เข้าไปในห้างแล้วก็ลงบันไดเลื่อนไปชั้นใต้ดิน ก็จะเจอ Hu Tong Foot Court ศูนย์อาหารขนาดใหญ่ที่รวบรวมของอร่อยเอาไว้ที่นี่ค่ะ
ราคา: House of Fish Ball ราคาชามละ 10.5 RM ถ้าเป็นเซ็ท (เลือกเกี๋ยวซ่าหรือเกาเหลาลูกชิ้นปลาเพิ่มเป็นจานเคียงก๋วยเตี๋ยวได้ 1 อย่าง) 15 RM ค่ะ
Soong Kee Beef Noodle ราคา 11 RM
จบลงแล้วกับการรีวิวอาหารและขนมเล็กๆ น้อยๆ ของประสบการณ์ครั้งแรกในกัวลาลัมเปอร์
เราขอฝากเพจจับฉ่ายน้อยๆ ไว้ด้วยนะคะ
FB Page: Wander Twogether เพจคู่ที่ไม่ทำร้ายคนโสดแน่นวน ถถถถ
เพจเราจะพูดถึงไลฟ์สไตล์ อาหาร การท่องเที่ยว สังคม ความรัก ชีวิต และเรื่องการออกกำลังกาย ใครที่สนใจหรือไม่สนใจก็แวะไปพูดคุยกันได้น้าาา
สำหรับวันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่า
ขอให้ทานให้อร่อยยยยยย ><
ขอบคุณและสวัสดีค่า
[CR] [#กัวลามางงๆ] กินไรดีที่ KL
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่านี่เป็นกระทู้รีวิวกระทู้แรกของเราเลย
ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไรหรือเขียนไม่ชัดเจนตรงไหน ขออภัยด้วยนะคะ
สำหรับใครที่ต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติม (เรื่องราคา การเดินทาง ฯลฯ ที่เราอาจจะตกหล่น) สามารถสอบถามได้เลยนะคะ
----------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มที่ร้านแรกเลย
"Hon Kee Porridge" - ร้านโจ๊กปลาดิบชื่อดังราคางามที่ตั้งอยู่ในย่าน China Town ที่ทุกคนจะต้องแวะมาเมื่อมากัวลาลัมเปอร์
เริ่มต้นมื้อเช้าของการท่องเที่ยวด้วยโจ๊กสีขาวนวล เนื้อโจ๊กข้นและเสิร์ฟถึงโต๊ะร้อนๆ ร้อนจนกระทั่งคำสุดท้ายเลยทีเดียว
สำหรับโจ๊กปลาดิบ ทางร้านจะแยกมาเป็นโจ๊กเปล่าหนึ่งชามและปลาดิบหนึ่งจานค่ะ ซึ่งจำนวนปลาดิบก็ถือว่าคุ้มค่าราคามากๆ อร่อยแปลกใหม่ไปอีกแบบด้วยค่ะ
ส่วนโจ๊กหมูสับ หมูสับของที่นี่จะปั้นมาเป็นก้อนกลมดิก เนื้อแน่น แต่นุ่มในที มีขนาดพอดีคำ ต่างจากโจ๊กบ้านเราที่หมูจะเด้งๆ ก้อนโตๆ ค่ะ
การเดินทาง: บนถนน Jalan Tun Tan Cheng Lock เดินเข้า Petaling Street หรือ China Town ผ่านร้านรวงของก๊อปจำนวนมากไป จนกระทั่งเจอสี่แยกเล็กๆ ซ้ายมือจะมีร้านผลไม้อยู่ เลี้ยวซ้ายได้เลย ร้านจะอยู่ขวามือ
ราคา: ประมาณ 5-8 RM (เฉพาะโจ๊กปลาดิบและโจ๊กหมูตามภาพ)
----------------------------------------------------------------------------------------
ร้านต่อมา
“Shin Kee Noodle Specialist” – ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าเด็ดที่อยู่ไม่ไกลจาก China Town ร้านนี้ตอนที่เราไปรอบแรก เป็นช่วงบ่ายวันธรรมดา คนจึงไม่ค่อยเยอะ แต่พอไปรอบที่สอง ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ คนเยอะจนต้องยืนรอหน้าร้านเลยค่ะ
ร้านนี้เจ้าของร้านน่ารักมาก (หนุ่มจีนผิวขาวตี๋เป็นพ่อครัวของร้านค่ะ) พูดไทยได้นิดหน่อย ใครที่ไม่ทานเครื่องใน พูดเป็นภาษาไทยกับเจ้าของร้านคนนี้ได้นะคะ บอกเค้าว่า “ไม่เอาเครื่องใน” เค้าเข้าใจค่ะ หรือใครอยากจะสื่อสารเป็นภาษาจีนกวางตุ้งหรือภาษาอังกฤษ ก็ไม่ขัดข้องค่ะ พี่แกพูดได้หลายภาษาทีเดียว
สำหรับก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้านี้ จะมีเส้นให้เลือก 3 แบบ เส้นหมี่เหลือง (กลมๆ ขนาดใหญ่กว่าบะหมี่บ้านเรา เหนียวและนุ่มกว่า) เส้นแบนสีขาว (คล้ายเส้นใหญ่) ส่วนอีกแบบจะคล้ายๆ เส้นเล็กค่ะ
น้ำซุปเนื้อที่นี่หอมมากค่ะ ถ้าใครสั่งเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำ เค้าจะตักเนื้อสับปรุงรสราดมา พอผสมกับน้ำซุปแล้วก็กลมกล่อมเข้ากันดีมากๆ แต่ถ้าใครสั่งก๋วยเตี๋ยวแห้งก็จะได้ทานน้ำซุปเนื้อใสๆ ส่วนเส้นจะถูกคลุกเคล้าไปกับเนื้อสับปรุงรส อร่อยไม่แพ้กันเลยค่ะ
ส่วนตัวฟินกับเนื้อสดมากๆ ด้วยค่ะ (ขนาดไม่ใช่คอก๋วยเตี๋ยวเนื้อ) ต้องยอมรับเลยว่าเนื้อเค้านุ่มมากจริงๆ แทบจะละลายในปากเลยแหละค่ะ
การเดินทาง: บนถนน Jalan Tun Tan Cheng Lock หันหน้าเข้าหาทางเข้า Petaling Street แล้วเดินเลียบถนนไปทางขวา ร้านอยู่ริมถนนเลยค่ะ ได้กลิ่นน้ำซุปเนื้อลอยออกมาแน่นอน
ราคา: ชามเล็ก 8 RM, ชามใหญ่ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ (ลืมมม) *ต้องจ่ายเงินทันทีที่ก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟนะคะ*
----------------------------------------------------------------------------------------
ใครอิ่มจากก๋วยเตี๋ยวเนื้อแสนอร่อยแล้ว อยากได้ของหวานมินิๆ ตบท้าย เราขอเสนอร้าน "S’Ban Siew Pao" ซึ่งเป็นร้านที่เราเจอโดยบังเอิญค่ะ คือเราเดินไปโดยไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่ามีร้านขนมอยู่ตรงนั้น แต่กลิ่นที่หอมโดดเด่นแตะจมูก เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันกลับไปมองแล้วเดินเข้าไปซื้อทันทีเลยค่ะ
ร้านนี้มีทั้งซาลาเปาไซส์มินิที่หน้าตาเหมือนขนมเปี๊ยะ (Seremban Siew Pow) คือมันกรอบนอก นุ่มใน อุ่นร้อนละมุนลิ้นมาก มีไส้หมูและไก่ รสชาติไส้คล้ายๆ ไส้ซาลาเปาหมูแดงแต่หอมกว่า สีเข้มกว่า / ขนมหน้าตาเหมือนบัน ลูกกลมๆ ใหญ่ กดลงไปนี่คือนุ่มจนจมมิดเลยค่ะ ไส้นี่แน่นทะลักมาก / ส่วนขนมอีกอย่างเราไม่ได้ลองค่ะ หน้าตาคล้ายๆ กะหรี่ปั๊บ แต่ชิ้นใหญ่กว่า เรียกว่า Kaya Kok ใครทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อเสร็จแล้ว ก็แวะไปลองได้นะคะ
การเดินทาง: จากร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ Shin Kee ออกจากร้านมาเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงหัวมุมถนน เลี้ยวซ้ายอีกที ร้านอยู่ตรงมุมถนนพอดีเลยค่ะ เดินไปยังไม่ทันจะถึงดี ก็โดนกลิ่นหอมๆ ลอยมาดึงจมูกไปแล้วล่ะค่า
ราคา: 1-3 RM
----------------------------------------------------------------------------------------
ร้านถัดมาอีกร้าน เป็นร้านสำหรับมื้อเย็น-ค่ำนะคะ
“Wong Ah Wah / WAW. Restoran” – ร้านอาหารชื่อดังบนถนนสายอาหาร ร้านนี้คนเยอะมากค่ะ ต้องทำใจนิดนึง พนักงานจะบอกเราค่ะ ว่าคนเยอะมากแค่ไหน ต้องรอประมาณกี่นาที ซึ่งจริงๆ ตอนไปวันธรรมดาก็ไม่ได้นานมากนะคะ แต่พอเป็นเสาร์อาทิตย์ พนักงานบอกว่า “Many Customers, have to wait 30 minutes” (แต่เราก็รออยู่ดี 55555)
ร้านนี้ขายอาหารหลากหลายมากค่ะ ทั้งอาหารทะเล ผัก หมู ไก่ เนื้อ ฯลฯ แต่เมนูดังๆ ของเค้าก็จะมี ปลากระเบนย่างและปีกไก่ย่าง ซึ่งเป็นเมนูที่ทุกโต๊ะจะสั่งเหมือนกันหมดเลยค่ะ เป็นร้านอาหารสไตล์จีนๆ หน่อยค่ะ
การเดินทาง: ร้านตั้งอยู่ท้ายสุดของถนน Jalan Alor ย่าน Bukit Bintang ค่ะ (ถ้ามาจาก Monorail สถานี Bukit Bintang) ป้ายร้านสีขาว มีตัวหนังสือระบุชื่อร้านตัวใหญ่มากกก ร้านนี้กินพื้นที่ถึง 3-4 บล็อกด้วยกัน คนเยอะมาก ไม่ต้องกลัวหาไม่เจอเลยค่ะ
ราคา: อาหารทะเลขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ส่วนอาหารอย่างอื่นทั่วไป ขึ้นอยู่กับขนาดจานค่ะ มีให้เลือก S, M, L, XL – ราคาสำหรับไซส์เล็กสุด ก็จะอยู่ประมาณ 10-40 RM ค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------------
ร้านสุดท้ายเป็นของแถม สำหรับคอก๋วยเตี๋ยวอย่างเรา 555
“Hu Tong Food Court @Lot10” – ฟู้ดคอร์ทที่รวมร้านอาหารชื่อดังจำนวนมากให้มาอยู่ในที่ที่เดียว ในราคาที่คุ้มค่ากับปริมาณ จริงๆ ฟู้ดคอร์ทแห่งนี้มีร้านรวงที่น่าสนใจ ดูน่าอร่อยจำนวนมากเลยค่ะ ทั้งร้านข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูกรอบ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา อาหารไทย อาหารเกาหลี อาหารตะวันตก บักกุ๊ดเต๋ ติ่มซำ ฯลฯ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนชอบทานก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลามาก ก็เลยได้แต่ลองทานร้าน House of Fish Ball แค่ร้านเดียว ส่วนผู้ร่วมทริปอีกคนก็ดั๊นชอบกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก็เลยโดนร้าน Soong Kee Beef Noodle ไปค่ะ เป็นอันว่ามีแต่ก๋วยเตี๋ยว 555
House of Fish Ball – เป็นร้านลูกชิ้นปลาทำเองค่ะ มีทั้งลูกชิ้นกลม, ปลาเส้นหรือฮื่อก้วย และ ลูกชิ้นปลาเอาไปทอดทั้งแผ่น เค้าเรียก Fish Cake ค่ะ ซึ่งเนื้อสัมผัสของลูกชิ้นปลานี่สุดยอดมาก เด้งพอประมาณ นุ่ม ไม่คาว มีรสชาติกลมกล่อมอยู่ในตัว ที่สำคัญไม่ใช่ลูกชิ้นแป้งราคาถูกเลยค่ะ สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือเส้น เส้นก๋วยเตี๋ยวร้านนี้จะมีสามแบบด้วยกัน คือ เส้นสีขาว ยาว กลม คล้ายๆ เส้นอูด้งแต่เล็กกว่า นิ่มกว่า ไม่หนึบ / เส้นเหลือง หรือ บะหมี่ เส้นเค้าจะไม่แบนหรือกลมๆ เล็กๆ เหมือนบ้านเรา แต่จะเป็นเส้นกลม หนา มีความเหนียวและนุ่มอยู่ในที / เส้นแบบสุดท้าย คือ เส้นสีเขียว ไม่ใช่บะหมี่หยกนะคะ เค้าบอกเป็น Celery Noodle เราว่ามันคล้ายๆ บะหมี่ผักโมโรเฮยะใน MK แต่จะนุ่มกว่า เหนียวกว่าค่ะ
Soong Kee Beef Noodle – ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อดังอีกร้าน จุดเด่นของร้านนี้คือ เส้นหมี่เหลืองที่จะมีขนาดเล็ก กรอบ (เหมือนหมี่ผัดเลยค่ะ) แต่ก็เหนียวหนึบ ราดด้วยซอสเนื้อสับ เคียงคู่มากับน้ำซุปเนื้อ ลูกชิ้นและเนื้อสดค่ะ (ก๋วยเตี๋ยวแห้งที่นี่จะเป็นการแยกชามเส้นกับชามซุปค่ะ โดยเครื่องเคียง เนื้อสัตว์ต่างๆ จะอยู่ในชามซุป) ขอบอกเลยว่าเนื้อสดที่นี่นุ่มกว่า ละมุนลิ้นกว่า เมื่อเทียบกับร้าน Shin Kee ค่ะ
การเดินทาง: ห้าง Lot10 ตั้งอยู่ติดสถานี Monorail – Bukit Bingtang สามารถใช้ทางเชื่อมเดินเข้าตัวห้างได้เลยค่ะ เข้าไปในห้างแล้วก็ลงบันไดเลื่อนไปชั้นใต้ดิน ก็จะเจอ Hu Tong Foot Court ศูนย์อาหารขนาดใหญ่ที่รวบรวมของอร่อยเอาไว้ที่นี่ค่ะ
ราคา: House of Fish Ball ราคาชามละ 10.5 RM ถ้าเป็นเซ็ท (เลือกเกี๋ยวซ่าหรือเกาเหลาลูกชิ้นปลาเพิ่มเป็นจานเคียงก๋วยเตี๋ยวได้ 1 อย่าง) 15 RM ค่ะ
Soong Kee Beef Noodle ราคา 11 RM
จบลงแล้วกับการรีวิวอาหารและขนมเล็กๆ น้อยๆ ของประสบการณ์ครั้งแรกในกัวลาลัมเปอร์
เราขอฝากเพจจับฉ่ายน้อยๆ ไว้ด้วยนะคะ FB Page: Wander Twogether เพจคู่ที่ไม่ทำร้ายคนโสดแน่นวน ถถถถ
เพจเราจะพูดถึงไลฟ์สไตล์ อาหาร การท่องเที่ยว สังคม ความรัก ชีวิต และเรื่องการออกกำลังกาย ใครที่สนใจหรือไม่สนใจก็แวะไปพูดคุยกันได้น้าาา
สำหรับวันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่า
ขอให้ทานให้อร่อยยยยยย ><
ขอบคุณและสวัสดีค่า