เรื่องนี้มันเกิดขึ้น ที่โรงเรียนวัดแห่งนึง มีรุ่นพี่ดาวเด่นประจำโรงเรียนคนนึง เธอชื่อว่ารุ่งทิวา เป็นรุ่นพี่ที่สวยใครๆต่างก็รู้จักเธอ เวลามีกิจกรรมที่โรงเรียนรุ่นพี่รุ่งทิวาก็จะได้ออกมาแทบทุกครั้งตลอด จนทุกคนในโรงเรียนจำรุ่นพี่คนนี้ได้หมด พอตกวันรุ่งขึ้น ผมมาโรงเรียนสาย แล้วสังเกตุเห็นรถตำรวจมากันเต็ม เลยได้ไปสอบถามเพื่อน เพื่อนก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อเช้ารุ่นพี่ป6 ที่ชื่อรุ่งทิวา โดนรถชนหน้าโรงเรียนและร่างก็กระเด็นตกลงไปในน้ำโดนไม้เสียบ ซึ่งตอนแรกฟังยังตกใจเลยมันเรื่องจริงหรอ พอเวลา8โมงเข้าแถว อาจารย์และคณะครูจึงได้ประกาศเรื่องนี้ขึ้นมา และมีผู้สือข่าวจากช่อง3มาถ่ายทำข่าว พอหลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไป ตกวันรุ่งขึ้น มีรุ่นน้องคนนึงซึ่งไม่ได้มาเรียนเมื่อว่านและไม่รู้ข่าวเรื่องรุ่นพี่เสียชีวิต มาถึงโรงเรียนก็ถามเพื่อน ว่าทำไมเห็นรุ่นพี่รุ่งทิวา ยืนหน้าโรงเรียนตอนช่วงเที่ยงคืน ซึ่งน้องคนนั้นขับรถกลับบ้านมากับแม่จึงเห็นรุ่นพี่ พร้อมยิ้มให้ แล้วโบกมือ ซึ่งพอมาเล่าให้เพื่อนฟังจึงบอกกับน้อง บี(ชื่อสมมุด) ว่าเมื่อว่านรุ่นพี่เสียชีวิตแล้วนะ ที่เห็นนะอาจไม่ใช่ก็ได้ ซึ่งหลังจากที่บีรู้ข่าวก็หน้าซีด ไม่พูดไม่จากับเพื่อนๆ หลังจากนั้นบีก็เริ่มเปลี่ยนไป จากเด็กล่าเริ่งกลายเป็นเก็บตัวเงียบ บางครั้งก็นั้งหัวเราะคนเดียว จนเพื่อนๆไม่อยากคุย จนแม่ต้องพาน้องบีไปหาหมอ ซึ่งหมอตรวจก็ไม่พบอะไร จึงได้กลับมาเรียน อาการน้องเริ่มหนักขึ้นถึงขั้นเอาปากกาขีดบนโต๊ะและหัวเราะ เพื่อนๆในห้องเห็นท่าไม่ดีจึงแจ้งครู ครูจึงมาดูเหตุการณ์ซึ่งน้องบีก็ใช่ปากกาเขียนลงบนโต๊ะและยังหัวเราะอยู่ ครูจึงไปห้ามและโดนพลักออกมา และดูเหมือนน้องเริ่มมีสติ เลยหันไปขอโทษครู และขอลาหยุดไป ซึ่งผมฟังเรื่องนี้จากปากเด็กที่อยู่ห้องเดียวกับบี ซึ่งผมยอมรับว่าไม่เคยเห็นหน้าและไม่รู้จักคนนี้ด้วยซ่ำ พอตกวันรุ่งขึ้นทางโรงเรียนก็แจ้งข่าว ว่าเด็กหญิงบีเสียชีวิตแล้วเมื่อตอนดึกๆที่หน้าโรงเรียน โดนรถชน ซึ่งมันพึ่งผ่านมาแค่2สัปดาร์เองหลังรุ่งทิวาเสีย พอตอนชั่วโมงพละ อาจารย์จึงให้นักเรียนกลุ่มผู้ชายไปหยิบลูกบาสในห้อง ป4/2 ใส่กรงเหล็กไว้อยู่ พวกเพื่อนๆผมจึงไปหยิบกัน แต่ก็หลอนๆเรื่องเมื่อเช้าอยู่ที่เขาเล่าว่าน้องบีเสียอยู่ชั้น ป4 แต่ไม่รู้ห้องไหน ผมและเพื่อนจึงไปหยิบลูกบาสกัน
ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงเวลานักเรียนป4 ไม่อยู่ออกไปเรียนศิลปะเกือบหมด แต่ตอนเดินมาที่ชั้นป4ก็เห็นเด็กประมาร 4-5คนเล่นอยู่หน้าห้องเลยไปถามไม่เรียนละ บอกไม่สบายพี่ เลยถามห้อง ป4/2อยู่ไหน เด็กก็ชี้ พวกผมเข้าไปหยิบลูกบาส ในห้องมีเด็กผู้หญิงคนนึง ผิวคล่ำ กำลังอ่านนังสือ ผมเลยสะกิตให้ทุกคนดู ทุกคนก็เห็นน้องเขา เลยไม่แอะใจอะไร พอตอนตกกลางวัน พวกผมรีบกินข้าวก่ะจะไปเยี่ยมงานศพน้องบีเขา ซึ่งตั้งอยู่ในศาลาในวัดของโรงเรียนจึงพากันไปดู พอไปถึงงานศพเพื่อนๆผมทุกคนถึงกับไปไม่ถูก ซึ่งคนที่อยู่ในรูปเป็นคนเดียวกันที่เจอในห้องตอนหยิบบาสเลย พอพวกผมรู้ถึงกับทำไรไม่ถูก จึงได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาครู ครูเขาบอกเดียวตอนเย็นให้กลุ่มผมมาพบหลังเลิกเรียนนะ พอตกเย็นเลิกเรียน พวกผมจึงได้วิ่งไปหาอาจารย์ อาจารย์จึงพาไปโกดังเก็บของ ซึ่งสิ่งที่อาจารย์ให้ดูคือ โต๊ะนักเรียนของรุ่นพี่รุ่งทิวา และน้องบี ซึ่งบนโต๊ะจะเขียนคล้ายๆกันว่า กูอยากตาย กูอยากตาย เต็มโต๊ะไปหมด พวกผมแทบอยากออกจากโรงเรียนนี้เลย และเพื่อนผมคนนึงบอกเมื่อช่วงตอนไปเอาบาส พวกผมได้ออกกันไปหมดแล้วเหลือมันคนเดียว มันเลยไปสะกิตถามน้องเขาว่าทำไม ไม่ไปเรียนศิลปะละ ซึ่งน้องคนนั้นกลับไม่ได้พูดอะไรและยิ้ม เพื่อนผมเลยเดินออกมา ซึ่งคนในกลุ่มไม่รู้เลยว่ามันกล้าไปสะกิตถามน้องเขาได้ไง หลังจากวันนั้นเพื่อนผมคนนั้นก็ลาออกจากโรงเรียนเพราะกลัวคำสาปของรุ่นพี่ และโต๊ะของรุ่งทิวา และบี ก็ได้ให้เอาสีมาทาทับใหม่ นำกลับมาใช่ในการสอบ ซึ่งทุกวันนี้คนในห้องเรียนก็จะได้กลิ่นธูป และกลิ่นน้ำอบลอยมาเสมอในเวลาเรียน
ผีรุ่นผี โรงเรียนวัดแห่งนึง
ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงเวลานักเรียนป4 ไม่อยู่ออกไปเรียนศิลปะเกือบหมด แต่ตอนเดินมาที่ชั้นป4ก็เห็นเด็กประมาร 4-5คนเล่นอยู่หน้าห้องเลยไปถามไม่เรียนละ บอกไม่สบายพี่ เลยถามห้อง ป4/2อยู่ไหน เด็กก็ชี้ พวกผมเข้าไปหยิบลูกบาส ในห้องมีเด็กผู้หญิงคนนึง ผิวคล่ำ กำลังอ่านนังสือ ผมเลยสะกิตให้ทุกคนดู ทุกคนก็เห็นน้องเขา เลยไม่แอะใจอะไร พอตอนตกกลางวัน พวกผมรีบกินข้าวก่ะจะไปเยี่ยมงานศพน้องบีเขา ซึ่งตั้งอยู่ในศาลาในวัดของโรงเรียนจึงพากันไปดู พอไปถึงงานศพเพื่อนๆผมทุกคนถึงกับไปไม่ถูก ซึ่งคนที่อยู่ในรูปเป็นคนเดียวกันที่เจอในห้องตอนหยิบบาสเลย พอพวกผมรู้ถึงกับทำไรไม่ถูก จึงได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาครู ครูเขาบอกเดียวตอนเย็นให้กลุ่มผมมาพบหลังเลิกเรียนนะ พอตกเย็นเลิกเรียน พวกผมจึงได้วิ่งไปหาอาจารย์ อาจารย์จึงพาไปโกดังเก็บของ ซึ่งสิ่งที่อาจารย์ให้ดูคือ โต๊ะนักเรียนของรุ่นพี่รุ่งทิวา และน้องบี ซึ่งบนโต๊ะจะเขียนคล้ายๆกันว่า กูอยากตาย กูอยากตาย เต็มโต๊ะไปหมด พวกผมแทบอยากออกจากโรงเรียนนี้เลย และเพื่อนผมคนนึงบอกเมื่อช่วงตอนไปเอาบาส พวกผมได้ออกกันไปหมดแล้วเหลือมันคนเดียว มันเลยไปสะกิตถามน้องเขาว่าทำไม ไม่ไปเรียนศิลปะละ ซึ่งน้องคนนั้นกลับไม่ได้พูดอะไรและยิ้ม เพื่อนผมเลยเดินออกมา ซึ่งคนในกลุ่มไม่รู้เลยว่ามันกล้าไปสะกิตถามน้องเขาได้ไง หลังจากวันนั้นเพื่อนผมคนนั้นก็ลาออกจากโรงเรียนเพราะกลัวคำสาปของรุ่นพี่ และโต๊ะของรุ่งทิวา และบี ก็ได้ให้เอาสีมาทาทับใหม่ นำกลับมาใช่ในการสอบ ซึ่งทุกวันนี้คนในห้องเรียนก็จะได้กลิ่นธูป และกลิ่นน้ำอบลอยมาเสมอในเวลาเรียน