[CR] ไปมาแล้วอินเดีย ตอนที่ 3 : Jodhpur



ไปมาแล้วอินเดีย ตอนที่ 1 : Agra  https://ppantip.com/topic/36642716
ไปมาแล้วอินเดีย ตอนที่ 2 : Jaipur https://ppantip.com/topic/36645303
ไปมาแล้วอินเดีย ตอนที่ 3 : Jodhpur https://ppantip.com/topic/36649072
ไปมาแล้วอินเดีย ตอนที่ 4 : Jaisalmer https://ppantip.com/topic/36655330
ไปมาแล้วอินเดีย ตอนที่ 5 : Delhi https://ppantip.com/topic/36848628


ถึงแล้วเมืองสีฟ้า

จะบอกว่าเมื่อคืนก็มีความเหงาวังเวงในจิตใจสุด และนี่ก็เป็นการลงที่กลัวที่สุดเหมือนกัน เพราะว่ามันเช้า กลัวไม่ตื่น กลัวเลย นอนก็ไม่มีความสุขเท่าไหร่ ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ตีสี่ พอตอนตีสี่นิดๆ รถไฟก็ถึงสถานี การตื่นนอนตอนที่เรายังง่วง มันเป็นอะไรที่ทรมานมาก ร่างมันยังแบบ เห้ย ต้องนอนสิวะ 5555 เหมือนเวลาเรานอนบนเตียง แล้วขอแถมอีกสองนาที อารมณ์นั้น งอแงมาก

นี่ต้องพยายามทำตัวสดใสร่าเริงสุด กระปรี้กระเปร่าสุดเหมือนซักเอ็มร้อยไปสองขวด ด้วยความที่มาถึงสถานีแบบโคตรเช้า ก็เลยไม่มีกุลี โอย ชิปหายแล้ว กระเป๋าใหญ่และหนักอย่างกับตู้เย็น 6 คิว แล้วนี่ก็ง่วงและเหนื่อยเกินที่จะแบกข้ามชานชาลาด้วย เดินโงกเงกโงนเงนอยู่สักสองนาทีได้ ในที่สุด ก็เจอกุลี โอ้โห อยากจะร้องไห้ ดีใจมาก แต่โดนฟันหนักมาก เพราะว่า ทั้งสถานีมีอยู่คนเดียว ก็ไม่มีทางเลือกไง ก็ต้องจ่ายให้เขาไป ก็ไม่มีปัญญานี่หว่า เอาเหอะๆ

เออ วันดีๆ มันก็เป็นแบบนี้แหละ เราเรียกตุ๊กๆ บอกที่ๆ จะไป  นี่ชิงบอกไปก่อนว่ามีแบงค์สองพันนะ มีทอนไหม เออ นางบอกว่า ไม่มีไปแลกก่อนเลย เราก็เลยเอากระเป๋าไว้ที่รถแล้วเดินไปแลก

อีห่าาาาาา คราวที่แล้ว แหกกฏแดรกของจากคนแปลกหน้า คราวนี้ แหกกฏ อย่าฝากกระเป๋าไว้กับคนอื่น นี่เดินไปก็ไม่รู้จะซื้ออะไร ก็เลยซื้อ Parle G 555555555 เป็นบิสกิตที่เอาไว้กินกับ Chai (ค้นพบว่า อร่อยมากกกกก)



เราก็รีบกลัวโดนขโมยกระเป๋า คนขายก็นวยนาฏเหมือนรำไทยอยู่ โอ้ย สูน เร็วโว้ยยยย รีบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ในที่สุดก็ได้ตังทอน เราก็เข้าใจนะ ว่าแบงค์เรามันใหญ่มากๆ แต่เราก็ไม่มีทางเลือก ก็กลัว ส่วนคนขายก็อารมณ์ดีมากด้วย ตอนทอนเสร็จยังถามเราเป็นคนที่ไหน จะไปไหน โชคดีนะ ไม่บ่นสักคำที่แลกแบงค์สองพัน

เรื่องการทอนเงินขาด เราอยู่ 10 วันก็ไม่โดนนะ ถือเป็นความโชคดี แล้วก็ไม่เคยได้ทอนเป็นลูกอมด้วย แม้จะอยากได้มากๆ ก็ตาม
หลังจากมีเงินปุ๊ปเราก็วิ่ง 4x100 มาที่รถตุ๊กๆ ของเรายังอยู่โว้ย แหม่เรานี่มันมองคนในในแง่ร้าย หลังจากเจรจาที่พักที่เราจะไปรู้เรื่องก็ออกเดินทาง

ตอนนี้ฟ้ากำลังจะเริ่มสว่าง พระอาทิตย์กำลังจะโผล่ขอบฟ้า เราก็เปิด gps ไว้ ขับไปได้สักพัก ตุ๊กๆ ก็จอดแล้วบอกว่า ต้องลงตรงนี้ แล้วเดินขึ้นไปเอง เพราะถนนรถตุ๊กๆ ขึ้นไม่ได้ อ่าว แล้วกระเป๋ากูเท่าตู้เย็นหกคิวไง โอ้ย เซ็งมาก

ตุ๊กๆ ชี้ป้ายให้เราเห็นว่าโรงแรมอยู่ทางด้านโน้นทีเราก็คิดในใจว่า เห้ย ก็ไม่ได้ไกลมากนะ โอเคๆๆ ตามนั้น ลากเองก็ได้ ก็จ่ายตัง จบ ลากกระเป๋า เห้ยที่นี่ใันวันที่ 4 ของเรา ใจมันอ่ะสู้ได้อยู่นะ แต่ร่างกายนี่อ่ะก็เหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด

อาการปากแห้งที่เกิดขึ้นแบบโอเวอร์แอคนี่นั่นมันก็ยังอยู่นะ แต่เราเริ่มจะช่างแม่มมันแล้ว ปากก็แตกระแหงอยู่

จากป้ายที่ตุ๊กๆ ชี้ให้เราดูเราเดินตามมา ก็มีป้ายอีก อ่าว คุณหลอกดาว นึกว่าจะถึงแล้ว เดินผ่านมา มีป้ายอีก โว้ยยยยย ไกลแท้ แต่เดี๋ยวก่อน ทางเดินที่เราเดินมา อย่าเรียกว่าทาง มันคือเขา และชันมาก อีกนิดก็จะสูงตรงเท่าบันไดหลังแปรที่ภูกระดึงแล้ว ชีวิตเราเดินขึ้นก็จะแย่ นี่ยังแบกตู้เย็นหกคิวอีก เหนื่อยมาก เลี้ยวตามป้ายมา 3 เลี้ยว ก็ถึง เฮ้อ ทำไมแม่มต้องเหนื่อยขนาดนี้วะ นี่ลงรถไฟก้าวขาผิดลงเมืองนี้แน่ๆ
ชื่อสินค้า:   อินเดีย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่