เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ไปไหว้พระที่วัดไชโยวรวิหารหรือคนท้องถิ่นเรียกว่าวัดเกษไชโย จังหวัดอ่างทอง เป็นวัดที่เก่าแก่และสวยงามร่มรื่นวัดนี้สร้างอยู่ริมแม่น้ำ วันที่ผมไปนั้นเป็นวันธรรมดาวัดนี้จะเงียบสงบมากผมกับภรรยาไปนั่งเล่นริมท่าน้ำมีลมเย็นๆพัดมาตลอดแม้จะเป็นยามบ่ายแล้วก็ตาม ยังคิดอยู่เลยว่านี่มั้งคนไทยในสมัยก่อนเขาจึงชอบสร้างบ้านอยู่ริมแม่น้ำลำคลองก็เพราะมีลมเย็นๆพัดผ่านอยู่ตลอดนี่เอง และวันนั้นเป็นวันที่โชคดีของผมคือได้เห็นเจ้านกกระเต็นปักหลัก หรือ Pied kingfisher หลายตัวบินอยู่แถวนั้นนกบางตัวเกาะปลายไม้ไผ่ที่เขาปักไว้นิ่งๆผมลองค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ๆนกก็ไม่ตื่นกลัวคงเคยชินเพราะชาวบ้านแถวนั้นที่เดินขึ้นลงท่าน้ำเป็นประจำ ผมเลยได้เห็นเจ้านกกระเต็นปักหลัก แบบใกล้ชิดโดยไม่ต้องใช้บังไพรเลย ดูผ่านๆเราท่านอาจจะเห็นแค่สีขาวกับดำบนตัวนกแต่หากสังเกตดูดีๆขนของนกกระเต็นปักหลักยามกระทบแสงแดดแล้วขนที่ว่าดำๆนั้นจะมีเหลือบเงาสีเขียวปนเทาจน เกือบดำ แต่บางส่วนก็ดำสนิทบริเวณปีกส่วนปลายมีขนสีน้ำตาลเข้มปนๆอยู่กับสีดำ รอบๆดวงตาสีขนเล็กๆสีขาวดำ ดวงตาน้ำตาล บนหัวมีขนยาวเป็นพู่เล็ก ๆยามที่ต้องลมจะปลิวกระจาย ดูงามสง่าและเท่ห์มากๆเป็นอีกภาพในชุดนกกระเต็นที่เอามาฝากกัน ช่วงนี้ฝนฟ้าตกๆหยุดๆเพื่อนๆท่านใดออกไปดูนกก็คงต้องพกร่มกับเสื้อกันฝนไปด้วยน่าจะดีเป็นแน่เพราะหากตัวเปียกอาจจะป่วยได้ เสียค่ารักษานี่คงไม่เท่าไรแต่ไอ้ป่วยด้วยการเป็นหวัดนี่ซินานมากกว่าจะหายยิ่งมีอาการไอผสมอีกด้วยแล้วบางท่านสองเดือนยังไม่หายไอก็ยังมีเลยครับ แล้วพบกันใหม่กับ วาดเล่น ขำขำกับนายเจี๊ยบฟูในชุดนกกระเต็นตัวต่อไปนะครับ