ปรัชญา Joker ใน " The Dark Knight "


(( joker เชื่อว่าโลกแห่งความจริงคือโลกที่โหดร้าย ทุกคนล้วนมีด้านมืดในจิตใจ เพียงแต่ว่า บริบทของสังคม จะเป็นตัวกำหนด ธาตุแท้ของมนุษย์ เมื่อมนุษย์ถึงคราวจนตรอก  joker เปรียบเสมือนตัวแทนของของความชั่วร้ายนั้น เพื่อที่จะพิสูจน์ว่า ไม่มีใครที่จะดีเลิศ ประเสริฐศรี หลอก แม้แต่กลับคนที่ดีแสนดีแค่ไหนก็สามารถเป็นคนชั่วร้ายได้เช่นกัน ))

ถึงแม้ว่าความจริงในสังคมมนุษย์จะเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ก็ยากที่จะทำให้เชื่อเช่นนั้นเพราะทุกคนต่างก็ใส่หน้ากากเข้าหากันตลอด
พูดและกระทำในสิ่งที่ตัวเองจะได้ประโยชน์ ลึกๆเลยแถบจะเพื่อตัวเองกันทั้งนั้น



Joker " โจ๊กเกอร์ "

โจ๊กเกอร์ ไม่เคยมีเหตุผลในการทำความชั่ว ไม่เคยลดหย่อนปรานีปราศรัยใดๆ ไม่แม้แต่จะคิดในการผลาญหนึ่งชีวิตหรือหลายๆชีวิต ด้วยความไร้เหตุผล เพียงเพราะความสนุกสนานของเขา แต่อะไรที่ทำให้เขาเป็นเช่นนี้

หนังไม่ได้ให้รายละเอียดในเรื่องอดีตของเขา (และน่าจะเป็นความตั้งใจที่ทำให้เรื่องนี้ยังคงเป็นปริศนาไปเรื่อยๆ) แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือ ตัวตนนี้ของเขาต้องเกิดมาจากความเลวร้ายของมนุษย์ (ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม) ซึ่งมันก็มากซะจนที่ว่าเขาสูญเสีย "ความเชื่อ" ในความดีงามในตัวคนทุกคนไป และเกิดความเชื่ออันแรงกล้าอีกอย่างขึ้นมาแทนที่ นั่นคือความเชื่อที่ว่า มนุษย์นั้นไม่ต่างอะไรกับสัตว์ ที่มีสัญชาตญานการฆ่าอยู่ในสายเลือด ไม่เคยที่จะทำอะไรถ้าไม่มีผลประโยชน์ของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้อง สังคมมนุษย์นั้นไม่มีวันอยู่กันอย่างสงบสุขได้ เพราะคนจ้องที่แต่จะทำลายล้างเพื่อให้ตนอยู่รอดและมีอำนาจเพิ่มมากขึ้น การที่เขาพูดว่า "ชอบที่จะเห็นคนเวลากำลังจะตาย เพราะจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของคนนั้น" แสดงให้เห็นว่าเขามีความเชื่อมั่นในส่วนนี้อยู่อย่างเต็มเปี่ยม


ในตอนที่เขาพูดกับแบทแมน ถึงเรื่องของสังคม ที่เวลาต้องการคนดี ที่เป็น "ฮีโร่"อย่างแบทแมน ก็จะออกมาสรรเสริญเยินยอ ปกป้องเต็มที่ แต่เมื่อใดก็ตามที่สังคมหมดผลประโยชน์ หรือได้รับผลกระทบจากการกระทำของฮีโร่คนนั้นแล้ว สังคมก็พร้อมที่จะทอดทิ้ง และถีบหัวส่งฮีโร่ อดีตขวัญใจของพวกเขาอย่างง่ายดาย ซึ่งตรงนี้ โจ๊กเกอร์ "อ่านขาด" จริงๆ (และเนื้อหาประเด็นนี้ ผมว่าตรงกับสภาพสังคมบ้านเราอย่างน่ากลัว)

แต่ถึงแม้โจ๊กเกอร์จะลึกซึ้งในความคิดของเขาอย่างไร เขาก็ลืมสิ่งสำคัญไปข้อนึง เพราะโลก ย่อมมี "สองด้าน" เสมอ...
สรุป แล้ว Batman ภาคนี้น่าสนใจมากเพราะวิธีที่ผู้กำกับตีโจทย์ของหนังออกมาได้ไม่ธรรมดา แถมไปออกแนวปรัชญาซึ่งโดนจริตตัวเองเข้าอย่างจัง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่