สวัสดีค่าาา เราจะพาไปเที่ยวอีกแล้ว
ทริปนี้เราคิดว่าจะไปเที่ยวแบบชิลๆ พักผ่อนสบายๆ ก่อนจะเปิดเทอมสักหน่อย แต่เนื่องจากเงินที่มีอยู่น้อยนิด ทำให้ทริปนี้กลายเป็นทริปที่ต้องลุยๆ ผจญภัยนิดๆ ลำบากหน่อยๆ 55555 แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า และได้ประสบการณ์เพิ่มด้วย จากที่เราหาข้อมูลอยู่นานเป็นชั่วโมงๆ ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวใดบ้างที่สามารถนั่งรถไฟไปได้ และไม่เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ ก็สรุปได้เป็น น้ำตกเอราวัณ นี่แหละ ^^
รายละเอียดทริป - น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี
- เดินทางวันที่ 28-29 มิถุนายน 2560 (2 วัน 1 คืน)
- ผู้ร่วมทริป 2 คนพอ ^^
- งบประมาณ 1,000 บาท (ก็บอกแล้วว่างบน้อย TT)
ไม่อยากพูดเยอะ ลุยยยย!!
DAY 1 [28.06.60]
นัดเจอเพื่อนที่ BTS สยาม ตอน 06.30 น. เราต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรี ซึ่งพวกเราไม่เคยไปกันมาก่อน ก็เลยเดินหลงอยู่แถว BTS วงเวียนใหญ่ 555555 กว่าจะหาทางขึ้นแท็กซี่ไปสถานีรถไฟได้ก็เสียเวลาอยู่สักพัก ตอนนั่งบนรถก็ลุ้นไปตลอดทางเลยว่าจะไปขึ้นรถไฟทันมั้ย เพราะรถไฟจะออกจากสถานีธนบุรีตอน 07.50 น. แต่สรุปเราก็ไปทันก่อนเวลารถไฟออก 5 นาที !! 55555
ไปขึ้นรถไฟฟรีกันดีกว่า ยื่นบัตรประชาชนรับตั๋วรถไฟฟรีกันเล้ยยย
บนรถไฟก็จะมีคนเดินขายของตลอดทางเลย ใครหิวก็ซื้อได้เลย เช่นพวกเรา ซื้อตลอดทาง 55555
วิวระหว่างทางบนรถไฟก็สวยดี แต่ฝุ่นเยอะมาก ปลิวเข้าตาตลอดเลย แนะนำให้พกแว่นตากันแดด หมวก หน้ากากอนามัยติดไว้ด้วยนะ
นั่งรถไฟผ่านสะพานแควใหญ่
ถ้าจะไปน้ำตกเอราวัณต้องลงที่สถานีกาญจนบุรีนะ ไม่ใช่สถานีน้ำตก มันคือน้ำตกไทรโยคน้อย คนละที่กันนะเออ แต่เราจะไปลงที่สถานีถ้ำกระแซก่อน เพื่อจะได้ผ่านเส้นทางมรณะด้วย
และแล้วก็มาถึงสถานีถ้ำกระแซตอนเที่ยงกว่าๆ ได้เวลากินข้าวพอดีเลย รีบหาร้านอาหารเป็นอันดับแรก 5555
ได้กินอาหารที่เป็นบุฟเฟ่ต์ข้าวราดแกง มีก๋วยเตี๋ยวและขนมหวานด้วย ราคา 49 บาทต่อคน เข้าห้องน้ำฟรี บรรยากาศดีมากด้วย
พอกินอิ่มก็นอนหลับ เอ้ยย ไม่ใช่ เดินชมสถานที่สักหน่อย ก็จะมีร้านอาหาร เสื้อผ้า ของที่ระลึกขายเยอะแยะเลย เรามีเวลาเดินเล่นอยู่ที่สถานีถ้ำกระแซประมาณชั่วโมงครึ่ง เพื่อมารอขึ้นรถไฟฟรีกลับไปที่สถานีกาญจนบุรี รถไฟจะมาเวลา 13.36 น. อาจมีเลทนิดหน่อย
รถไฟมาแล้ววว เราต้องนั่งไปลงสถานีกาญจนบุรี แต่พวกเราไม่ลง งงใจ นั่งเลยไป 3 สถานีแหน่ะ 5555 น้ำตาจะไหล เสียเวลาต้องนั่งรถไฟย้อนกลับมาอีก ดีนะที่คิดทัน ไม่งั้นคงนั่งไปถึงธนบุรี 5555
พอเรามาถึงสถานีกาญจนบุรี ซึ่งก็เย็นมากแล้ว ก็นั่งรถสองแถวไปลงที่สถานีขนส่งกาญจนบุรี เพื่อนั่งรถบัสต่อไปที่น้ำตกเอราวัณ เพลียยย
มาดูตารางรถกันดีกว่า ทันรอบสุดท้าย 17.50 น. พอดีเลย 5555
นี่แหละรถที่เราจะนั่งไปน้ำตกเอราวัณ ราคาคนละ 50 บาท มีเด็กนักเรียนขึ้นเต็มคันรถเลยย
ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง เพราะรถจอดส่งเด็กนักเรียนตลอดทางเลย เราก็มาถึงอุทยานแห่งชาติเอราวัณแล้ววว ดีใจสุด ซื้อตั๋วค่าเข้ากันก่อน มีบัตรนักศึกษาลดครึ่งราคาเหลือคนละ 50 บาทจ้า
ลงจากรถมา ก็มืดไปหมด 55555 เดินหาแสงสว่างตามทางเข้ามา เพื่อไปเช่าอุปกรณ์นอนเต็นท์กับเจ้าหน้าที่ เขาจะขอบัตรประชาชนเราไว้ และจะให้คืนตอนเรามาชำระเงินและคืนอุปกรณ์
ที่นี่จะมีจุดให้ชาร์จแบต 24 ชั่วโมงเลยนะ อยู่ใกล้ห้องน้ำ และไม่ไกลจากเต็นท์มาก วันนี้ก็รีบนอน พรุ่งนี้รีบตื่นไปเล่นน้ำตกเอราวัณต่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พวกเราเจอเรื่องแย่ๆ ตอนนอนเต็นท์ด้วย เนื่องจากเราอาจจะไปถึงดึก เลยไม่เห็นนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นแล้ว กว่าเราอาบน้ำกันเสร็จก็เกือบ 3 ทุ่มแล้ว ก็แวะขึ้นไปชาร์จแบต ก็เจอกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนึง คือแรกๆ ก็ถามไถ่ตามมารยาทก็โอเค แต่มาพีคตอนเรานอนในเต็นท์นี่คือพวกเขายังไม่นอนละก็พูดคุยเสียงดัง ร้องเพลงอยู่รอบๆเต็นท์เรา ขอเข้ามานอนในเต็นท์ด้วย เราเปิดผ้าไว้ครึ่งนึงแต่ปิดตาข่ายนะ เขาก็มาชะโงกดูหลายรอบมาก เรากับเพื่อนก็เป็นผู้หญิงทั้งคู่ กลัวก็กลัว รำคาญด้วย ระแวงอีก นอนแทบไม่หลับเลย
DAY 2 [29.06.60]
วันนี้เราไม่ตื่นสายนะ จริงๆกะจะตื่นสัก 7 โมงครึ่ง แต่มีผู้หวังดีที่เราไม่ต้องการ ตะโกนปลุกตั้งแต่ 6 โมงเช้า!!! เมื่อคืนก็ยิ่งนอนไม่ค่อยหลับอยู่ หงุดหงิดแต่เช้าเลยยย
บริเวณจุดกางเต็นท์ติดแม่น้ำด้วย และไหนๆก็ตื่นละ รีบล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนชุดไปเล่นน้ำตกดีกว่า ระยะทางเดินจากเต็นท์ไปน้ำตกไกลพอสมควร แต่เขามีรถกอล์ฟไว้บริการนะ ราคาคนละ 30 บาท
ที่น้ำตกตอนเช้าๆยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เลยเงียบสงบไปอีก น้ำตกเอราวัณมีทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นแรกคือ ไหลคืนรัง แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะ น้ำมันน้อย ชั้นนี้จะมีแคร่ไม้ไผ่ไว้ให้นั่งด้วย ละก็มีอาหารขาย เฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ ใครไปวันจันทร์-ศุกร์ นำอาหารติดไปก็ดีนะ
ชั้นที่ 2 คือวังมัจฉา เห็นป้ายบอกน้ำลึก 2.5 เมตร แต่ลึกจริงมั้ยไม่รู้นะ 5555
ไปที่ชั้น 3 กันต่อ
ชั้นที่ 3 คือผาน้ำตก
เรายังไม่เล่นน้ำนะ จะขึ้นไปเล่นที่ชั้น 7 ไปกันต่อๆ
ชั้นที่ 4 อกผีเสื้อ
จากนี้ระยะทางระหว่างชั้น 4 ไปชั้น 5 นี่ ยาวไกลมาก แทบจะถอดใจ
แต่ฉันไม่ถอดหรอก ฉันไม่ถอดหรอกนะ ฉันจะสู้ TT ฮึบบบ
ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง แต่ตอนนี้อยากจะลงไปเล่นน้ำที่ชั้น 2 ก็พอ TT
ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา แต่ถ่ายรูปมาแค่ป้าย ตอนนั้นใจจะขาดแล้ว เหนื่อยยย
ไม่แวะนาน อยากถึงชั้น 7 แล้ว
และแล้วในที่สุดดด ก็ถึงชั้น 7 ภูผาเอราวัณ
เล่นน้ำที่ชั้นนี้แหละ แต่หินมันจะลื่นๆหน่อย เราก็ลื่น แล้วก็มีผู้หวังดีบอกว่า ระวังนะมันลื่น แต่เพิ่งจะมาบอกตอนเราลื่นไปแล้ว ฮือออ เจ็บ
เราเล่นน้ำจนถึงบ่ายๆ ก็กลับไปเก็บของ อาบน้ำเปลี่ยนชุดกลับบ้านดีกว่า ตอนนั้นรับรู้ได้ว่า ปวดแขนปวดขาไปหมด ระบมเลยจริงๆ ตอนนั่งรถนี่ก็หลับตลอดทาง 5555 ขากลับนั่งรถตู้มาลง MRT กำแพงเพชร ค่ารถ 120 จากนั้นก็แยกย้ายกับเพื่อนกลับบ้าน
เป็นทริปที่หรรษามากกก คือถึงบ้านแบบระบมต่อไป 2-3 วัน 5555
และสรุปทริปนี้ใช้เงินไปไม่ถึง 1,000 บาทด้วย เก่งจริงๆ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตอนจบนี้ ไว้เราเจอกันใหม่ทริปหน้านะ
นั่งรถไฟ ไปกางเต็นท์ #อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ::Come with me::
สวัสดีค่าาา เราจะพาไปเที่ยวอีกแล้ว
ทริปนี้เราคิดว่าจะไปเที่ยวแบบชิลๆ พักผ่อนสบายๆ ก่อนจะเปิดเทอมสักหน่อย แต่เนื่องจากเงินที่มีอยู่น้อยนิด ทำให้ทริปนี้กลายเป็นทริปที่ต้องลุยๆ ผจญภัยนิดๆ ลำบากหน่อยๆ 55555 แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า และได้ประสบการณ์เพิ่มด้วย จากที่เราหาข้อมูลอยู่นานเป็นชั่วโมงๆ ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวใดบ้างที่สามารถนั่งรถไฟไปได้ และไม่เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ ก็สรุปได้เป็น น้ำตกเอราวัณ นี่แหละ ^^
รายละเอียดทริป - น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี
- เดินทางวันที่ 28-29 มิถุนายน 2560 (2 วัน 1 คืน)
- ผู้ร่วมทริป 2 คนพอ ^^
- งบประมาณ 1,000 บาท (ก็บอกแล้วว่างบน้อย TT)
DAY 1 [28.06.60]
นัดเจอเพื่อนที่ BTS สยาม ตอน 06.30 น. เราต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรี ซึ่งพวกเราไม่เคยไปกันมาก่อน ก็เลยเดินหลงอยู่แถว BTS วงเวียนใหญ่ 555555 กว่าจะหาทางขึ้นแท็กซี่ไปสถานีรถไฟได้ก็เสียเวลาอยู่สักพัก ตอนนั่งบนรถก็ลุ้นไปตลอดทางเลยว่าจะไปขึ้นรถไฟทันมั้ย เพราะรถไฟจะออกจากสถานีธนบุรีตอน 07.50 น. แต่สรุปเราก็ไปทันก่อนเวลารถไฟออก 5 นาที !! 55555
ไปขึ้นรถไฟฟรีกันดีกว่า ยื่นบัตรประชาชนรับตั๋วรถไฟฟรีกันเล้ยยย
บนรถไฟก็จะมีคนเดินขายของตลอดทางเลย ใครหิวก็ซื้อได้เลย เช่นพวกเรา ซื้อตลอดทาง 55555
วิวระหว่างทางบนรถไฟก็สวยดี แต่ฝุ่นเยอะมาก ปลิวเข้าตาตลอดเลย แนะนำให้พกแว่นตากันแดด หมวก หน้ากากอนามัยติดไว้ด้วยนะ
นั่งรถไฟผ่านสะพานแควใหญ่
ถ้าจะไปน้ำตกเอราวัณต้องลงที่สถานีกาญจนบุรีนะ ไม่ใช่สถานีน้ำตก มันคือน้ำตกไทรโยคน้อย คนละที่กันนะเออ แต่เราจะไปลงที่สถานีถ้ำกระแซก่อน เพื่อจะได้ผ่านเส้นทางมรณะด้วย
และแล้วก็มาถึงสถานีถ้ำกระแซตอนเที่ยงกว่าๆ ได้เวลากินข้าวพอดีเลย รีบหาร้านอาหารเป็นอันดับแรก 5555
ได้กินอาหารที่เป็นบุฟเฟ่ต์ข้าวราดแกง มีก๋วยเตี๋ยวและขนมหวานด้วย ราคา 49 บาทต่อคน เข้าห้องน้ำฟรี บรรยากาศดีมากด้วย
พอกินอิ่มก็นอนหลับ เอ้ยย ไม่ใช่ เดินชมสถานที่สักหน่อย ก็จะมีร้านอาหาร เสื้อผ้า ของที่ระลึกขายเยอะแยะเลย เรามีเวลาเดินเล่นอยู่ที่สถานีถ้ำกระแซประมาณชั่วโมงครึ่ง เพื่อมารอขึ้นรถไฟฟรีกลับไปที่สถานีกาญจนบุรี รถไฟจะมาเวลา 13.36 น. อาจมีเลทนิดหน่อย
รถไฟมาแล้ววว เราต้องนั่งไปลงสถานีกาญจนบุรี แต่พวกเราไม่ลง งงใจ นั่งเลยไป 3 สถานีแหน่ะ 5555 น้ำตาจะไหล เสียเวลาต้องนั่งรถไฟย้อนกลับมาอีก ดีนะที่คิดทัน ไม่งั้นคงนั่งไปถึงธนบุรี 5555
พอเรามาถึงสถานีกาญจนบุรี ซึ่งก็เย็นมากแล้ว ก็นั่งรถสองแถวไปลงที่สถานีขนส่งกาญจนบุรี เพื่อนั่งรถบัสต่อไปที่น้ำตกเอราวัณ เพลียยย
มาดูตารางรถกันดีกว่า ทันรอบสุดท้าย 17.50 น. พอดีเลย 5555
นี่แหละรถที่เราจะนั่งไปน้ำตกเอราวัณ ราคาคนละ 50 บาท มีเด็กนักเรียนขึ้นเต็มคันรถเลยย
ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง เพราะรถจอดส่งเด็กนักเรียนตลอดทางเลย เราก็มาถึงอุทยานแห่งชาติเอราวัณแล้ววว ดีใจสุด ซื้อตั๋วค่าเข้ากันก่อน มีบัตรนักศึกษาลดครึ่งราคาเหลือคนละ 50 บาทจ้า
ลงจากรถมา ก็มืดไปหมด 55555 เดินหาแสงสว่างตามทางเข้ามา เพื่อไปเช่าอุปกรณ์นอนเต็นท์กับเจ้าหน้าที่ เขาจะขอบัตรประชาชนเราไว้ และจะให้คืนตอนเรามาชำระเงินและคืนอุปกรณ์
ที่นี่จะมีจุดให้ชาร์จแบต 24 ชั่วโมงเลยนะ อยู่ใกล้ห้องน้ำ และไม่ไกลจากเต็นท์มาก วันนี้ก็รีบนอน พรุ่งนี้รีบตื่นไปเล่นน้ำตกเอราวัณต่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
DAY 2 [29.06.60]
วันนี้เราไม่ตื่นสายนะ จริงๆกะจะตื่นสัก 7 โมงครึ่ง แต่มีผู้หวังดีที่เราไม่ต้องการ ตะโกนปลุกตั้งแต่ 6 โมงเช้า!!! เมื่อคืนก็ยิ่งนอนไม่ค่อยหลับอยู่ หงุดหงิดแต่เช้าเลยยย
บริเวณจุดกางเต็นท์ติดแม่น้ำด้วย และไหนๆก็ตื่นละ รีบล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนชุดไปเล่นน้ำตกดีกว่า ระยะทางเดินจากเต็นท์ไปน้ำตกไกลพอสมควร แต่เขามีรถกอล์ฟไว้บริการนะ ราคาคนละ 30 บาท
ที่น้ำตกตอนเช้าๆยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เลยเงียบสงบไปอีก น้ำตกเอราวัณมีทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นแรกคือ ไหลคืนรัง แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะ น้ำมันน้อย ชั้นนี้จะมีแคร่ไม้ไผ่ไว้ให้นั่งด้วย ละก็มีอาหารขาย เฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ ใครไปวันจันทร์-ศุกร์ นำอาหารติดไปก็ดีนะ
ชั้นที่ 2 คือวังมัจฉา เห็นป้ายบอกน้ำลึก 2.5 เมตร แต่ลึกจริงมั้ยไม่รู้นะ 5555
ไปที่ชั้น 3 กันต่อ
ชั้นที่ 3 คือผาน้ำตก
เรายังไม่เล่นน้ำนะ จะขึ้นไปเล่นที่ชั้น 7 ไปกันต่อๆ
ชั้นที่ 4 อกผีเสื้อ
จากนี้ระยะทางระหว่างชั้น 4 ไปชั้น 5 นี่ ยาวไกลมาก แทบจะถอดใจ
แต่ฉันไม่ถอดหรอก ฉันไม่ถอดหรอกนะ ฉันจะสู้ TT ฮึบบบ
ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง แต่ตอนนี้อยากจะลงไปเล่นน้ำที่ชั้น 2 ก็พอ TT
ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา แต่ถ่ายรูปมาแค่ป้าย ตอนนั้นใจจะขาดแล้ว เหนื่อยยย
ไม่แวะนาน อยากถึงชั้น 7 แล้ว
และแล้วในที่สุดดด ก็ถึงชั้น 7 ภูผาเอราวัณ
เล่นน้ำที่ชั้นนี้แหละ แต่หินมันจะลื่นๆหน่อย เราก็ลื่น แล้วก็มีผู้หวังดีบอกว่า ระวังนะมันลื่น แต่เพิ่งจะมาบอกตอนเราลื่นไปแล้ว ฮือออ เจ็บ
เราเล่นน้ำจนถึงบ่ายๆ ก็กลับไปเก็บของ อาบน้ำเปลี่ยนชุดกลับบ้านดีกว่า ตอนนั้นรับรู้ได้ว่า ปวดแขนปวดขาไปหมด ระบมเลยจริงๆ ตอนนั่งรถนี่ก็หลับตลอดทาง 5555 ขากลับนั่งรถตู้มาลง MRT กำแพงเพชร ค่ารถ 120 จากนั้นก็แยกย้ายกับเพื่อนกลับบ้าน
และสรุปทริปนี้ใช้เงินไปไม่ถึง 1,000 บาทด้วย เก่งจริงๆ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตอนจบนี้ ไว้เราเจอกันใหม่ทริปหน้านะ