เรื่องมีอยู่ว่า
เนื่องจากหัวพิมพ์ DX5 ของเก่าเกิดเสียหายเนื่องจากการใช้งาน ผมจึงอยากเปลี่ยนหัวพิมพ์ใหม่และอยากเปลี่ยนหัวพิมพ์กับทาง บริษัท ยูไนเต็ด ดิจิตอล ซัพพลาย จำกัด เนื่องจากซื้อเครื่องมาจากที่นี่ จึงมั่นใจที่จะเปลี่ยนกับที่นี่ โดยราคา ห้าหมื่นสองร้อยห้าสิบบาทถ้วน (50,250)โดยตกลงแบ่งจ่ายเป็นสองงวด ณ วันแรกที่เปลี่ยนหัวผมจะโอนเงินสดให้ สองหมื่นห้าพันบาทถ้วน (25,000) แล้วเขียนเช็คให้อีกหนึ่งใบ สองหมื่นห้าพันสองร้อยห้าสิบบาทถ้วน (25,250) แต่ลงวันที่ให้ไปขึ้นเงินวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 และวันที่มาติดตั้งหัวพิมพ์ใหม่คือ 2 พฤษภาคม 2560 แต่ขณะที่มาเปลี่ยนหัวพิมพ์ ช่างก็ได้นำหัวพิมพ์มาถึงสองหัว และลองเปลี่ยนให้ แต่ก็ไม่มีหัวพิมพ์ไหนใช้ได้อย่างสมบูรณ์ทั้งสองหัว ช่างจึงบอกว่าให้เราใช้ไปก่อน แล้วจะเอาหัวพิมพ์ใหม่มาเปลี่ยนให้สัปดาห์หน้า ผมก็โอเค แล้วพอถึงเวลา ช่างก็มาเปลี่ยน โดยนำหัวพิมพ์มาถึง สามถึงสี่หัว และลองทำอยู่หลายชั่วโมง ลองเปลี่ยนทุกหัวที่เอามาก็ยังไม่ได้ จนที่สุดมีหัวนึงที่สมบูรณ์ที่สุด แต่ก็มีข้อบกพร่องอยู่นิดนึง ที่เส้นของหัวพิมพ์มันพิมพ์ออกมาแล้วขาดไปเส้นนึง ช่างก็แก้อยู่นาน จนเส้นไม่ขาด ผมก็โอเค แต่ได้มีการพูดคุยกันไว้ว่า หัวพิมพ์นี้ก็น่าจะไม่สมบูรณ์นะคับ ช่างแก้จนมันพิมพ์ออกมาแล้วไม่ขาดก็จริง แต่ถ้ามันเกิดพิมพ์ออกมาแล้วขาดหลังจากนี้หละ ช่างก็รับปากว่า ปกติถ้าติดตั้งหัวพิมพ์ใหม่ไปแล้ว ถ้ามันไม่ขาด ก็จะพิมพ์ไม่ขาดตลอด คือหัวพิมพ์จะสมบูรณ์อยู่แบบนั้นตลอด จนทางผมเองที่เป็นคนทำหัวพิมพ์ชน แล้วมีปัญหาจากการใช้งาน ผมก็รับทราบ แต่ได้เน้นย้ำกับช่างว่า ถ้าเกิดหัวพิมพ์ขาดขึ้นมาจะทำยังไง ช่างก็บอกจะคุยกับหัวหน้าเรื่องเปลี่ยนหัวพิมพ์ใหม่ให้ ซึ้งทางผมก็มั่นใจในตัวบริษัท ก็เลยโอเครับหัวพิมพ์อันนี้มา แต่ยังไม่พ้นหนึ่งสัปดาห์ หัวพิมพ์ก็เกิดพิมพ์ขาด จึงได้แจ้งไปทางบริษัท บริษัทก็ส่งช่างมาแก้ให้หลายครั้ง แต่ก็แก้ไม่ได้ จนช่างเองก็บอกแก้ให้หัวพิมพ์กลับมาพิมพ์แล้วเส้นไม่ขาด ไม่ได้ ทำให้หัวพิมพ์กลับมาสมบูร์เหมือนของใหม่ปกติเลยไม่ได้ ในขณะนั้น ยังไม่ถึงกำหนดวันที่จะขึ้นเช็คที่ผมเขียนให้ ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรจนต้องอายัติเช็ค หรือบอกกับบริษัทว่าจะไม่จ่ายส่วนที่เหลือ เพราะมั่นใจในตัวบริษัทมาก ทั้งๆที่หัวพิมพ์ใหม่ที่ช่างมาติดตั้งให้ก็มีปัญหาคาอยู่ จนถึงวันที่ทางบริษัทขึ้นเช็ค ก็ขึ้นเช็คได้ปกติ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะผมตั้งใจจะจ่ายอยู่แล้ว ผมจึงแจ้งไปทางคุณ ณรงศ์ชัย เขียวฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร เพราะตอนซื้อเครื่องครั้งแรก ก็ซื้อกับท่านนี้ แต่พอพูดถึงปัญหา ท่านนี้ก็ส่งช่างเข้ามาดูอีก สุดท้ายช่างก็บอกเหมือนเดิมว่าแก้ไม่ได้ เวลาที่ผ่านไปเป็นเดือนกับการส่งช่างเข้ามาดูสามสี่รอบ จากสัปดาห์แรกที่เปลี่ยนหัวพิมพ์แล้วทางผมแจ้งไปที่บริษัท ว่าหัวพิมพ์มีปัญหา หลังจากนั้นก็ไม่มีการพูดถึงการส่งช่างเข้ามาดูอีก เพราะช่างทุกคนที่เข้ามาก็บอกเหมือนกัน คือซ่อมให้ไม่ได้ ทางคุณ ณรงศ์ชัย เขียวฤทธิ์ ก็ได้แต่เงียบ ทางผมจึงได้แค่โทรตามตลอด ได้แต่คำตอบว่าจะแก้ปัญหาให้ แต่ก็ไม่มีอะไร จนเวลาผ่านไปอีกเดือน รวมแล้วก็สองเดือน จากวันที่เปลี่ยนหัวพิมพ์ใหม่ เวลาที่ผ่านไปสองเดือน หัวพิมพ์จากที่พิมพ์ขาดแค่เส้นเดืยวก็ขาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนพิมพ์งานออกมาไม่สวย ทำให้ผมไม่สามารถขายงานที่พิมพ์ได้ งานไหนที่ลูกค้าต้องการความสวย เนียบ ก็ต้องปฏิเสธงานไป ขายได้แต่งานทั่วไป ที่พิมพ์ออกมาแล้วเป็นเส้นก็จริง แต่ลูกค้าไม่ค่อยอะไรมาก ก็รับได้ พอถูไถกันไป แต่ก็กำไรน้อย
ผมจึงได้แจ้งไปทาง สคบ แต่ทาง สคบ บอกมาว่า กรณีผม ผมคือผู้ประกอบการ ไม่ใช่ผู้บริโภค เป็นปัญหาผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ ต้องปรึกษาทนาย ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ถ้าถึงขั้นต้องขึ้นศาล ไหนจะเงินค่าทนาย ไหนจะเสียเวลาหาเงิน มันเลยกลายเป็นไม่รู้จะทำยังไง จะร้องเรียนที่ไหน เพื่อจะได้ความยุติธรรม
อยากร้องเรียน สคบ เรื่องหัวพิมพ์ DX5 กับบริษัท แต่ทำไม่ได้
เนื่องจากหัวพิมพ์ DX5 ของเก่าเกิดเสียหายเนื่องจากการใช้งาน ผมจึงอยากเปลี่ยนหัวพิมพ์ใหม่และอยากเปลี่ยนหัวพิมพ์กับทาง บริษัท ยูไนเต็ด ดิจิตอล ซัพพลาย จำกัด เนื่องจากซื้อเครื่องมาจากที่นี่ จึงมั่นใจที่จะเปลี่ยนกับที่นี่ โดยราคา ห้าหมื่นสองร้อยห้าสิบบาทถ้วน (50,250)โดยตกลงแบ่งจ่ายเป็นสองงวด ณ วันแรกที่เปลี่ยนหัวผมจะโอนเงินสดให้ สองหมื่นห้าพันบาทถ้วน (25,000) แล้วเขียนเช็คให้อีกหนึ่งใบ สองหมื่นห้าพันสองร้อยห้าสิบบาทถ้วน (25,250) แต่ลงวันที่ให้ไปขึ้นเงินวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 และวันที่มาติดตั้งหัวพิมพ์ใหม่คือ 2 พฤษภาคม 2560 แต่ขณะที่มาเปลี่ยนหัวพิมพ์ ช่างก็ได้นำหัวพิมพ์มาถึงสองหัว และลองเปลี่ยนให้ แต่ก็ไม่มีหัวพิมพ์ไหนใช้ได้อย่างสมบูรณ์ทั้งสองหัว ช่างจึงบอกว่าให้เราใช้ไปก่อน แล้วจะเอาหัวพิมพ์ใหม่มาเปลี่ยนให้สัปดาห์หน้า ผมก็โอเค แล้วพอถึงเวลา ช่างก็มาเปลี่ยน โดยนำหัวพิมพ์มาถึง สามถึงสี่หัว และลองทำอยู่หลายชั่วโมง ลองเปลี่ยนทุกหัวที่เอามาก็ยังไม่ได้ จนที่สุดมีหัวนึงที่สมบูรณ์ที่สุด แต่ก็มีข้อบกพร่องอยู่นิดนึง ที่เส้นของหัวพิมพ์มันพิมพ์ออกมาแล้วขาดไปเส้นนึง ช่างก็แก้อยู่นาน จนเส้นไม่ขาด ผมก็โอเค แต่ได้มีการพูดคุยกันไว้ว่า หัวพิมพ์นี้ก็น่าจะไม่สมบูรณ์นะคับ ช่างแก้จนมันพิมพ์ออกมาแล้วไม่ขาดก็จริง แต่ถ้ามันเกิดพิมพ์ออกมาแล้วขาดหลังจากนี้หละ ช่างก็รับปากว่า ปกติถ้าติดตั้งหัวพิมพ์ใหม่ไปแล้ว ถ้ามันไม่ขาด ก็จะพิมพ์ไม่ขาดตลอด คือหัวพิมพ์จะสมบูรณ์อยู่แบบนั้นตลอด จนทางผมเองที่เป็นคนทำหัวพิมพ์ชน แล้วมีปัญหาจากการใช้งาน ผมก็รับทราบ แต่ได้เน้นย้ำกับช่างว่า ถ้าเกิดหัวพิมพ์ขาดขึ้นมาจะทำยังไง ช่างก็บอกจะคุยกับหัวหน้าเรื่องเปลี่ยนหัวพิมพ์ใหม่ให้ ซึ้งทางผมก็มั่นใจในตัวบริษัท ก็เลยโอเครับหัวพิมพ์อันนี้มา แต่ยังไม่พ้นหนึ่งสัปดาห์ หัวพิมพ์ก็เกิดพิมพ์ขาด จึงได้แจ้งไปทางบริษัท บริษัทก็ส่งช่างมาแก้ให้หลายครั้ง แต่ก็แก้ไม่ได้ จนช่างเองก็บอกแก้ให้หัวพิมพ์กลับมาพิมพ์แล้วเส้นไม่ขาด ไม่ได้ ทำให้หัวพิมพ์กลับมาสมบูร์เหมือนของใหม่ปกติเลยไม่ได้ ในขณะนั้น ยังไม่ถึงกำหนดวันที่จะขึ้นเช็คที่ผมเขียนให้ ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรจนต้องอายัติเช็ค หรือบอกกับบริษัทว่าจะไม่จ่ายส่วนที่เหลือ เพราะมั่นใจในตัวบริษัทมาก ทั้งๆที่หัวพิมพ์ใหม่ที่ช่างมาติดตั้งให้ก็มีปัญหาคาอยู่ จนถึงวันที่ทางบริษัทขึ้นเช็ค ก็ขึ้นเช็คได้ปกติ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะผมตั้งใจจะจ่ายอยู่แล้ว ผมจึงแจ้งไปทางคุณ ณรงศ์ชัย เขียวฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร เพราะตอนซื้อเครื่องครั้งแรก ก็ซื้อกับท่านนี้ แต่พอพูดถึงปัญหา ท่านนี้ก็ส่งช่างเข้ามาดูอีก สุดท้ายช่างก็บอกเหมือนเดิมว่าแก้ไม่ได้ เวลาที่ผ่านไปเป็นเดือนกับการส่งช่างเข้ามาดูสามสี่รอบ จากสัปดาห์แรกที่เปลี่ยนหัวพิมพ์แล้วทางผมแจ้งไปที่บริษัท ว่าหัวพิมพ์มีปัญหา หลังจากนั้นก็ไม่มีการพูดถึงการส่งช่างเข้ามาดูอีก เพราะช่างทุกคนที่เข้ามาก็บอกเหมือนกัน คือซ่อมให้ไม่ได้ ทางคุณ ณรงศ์ชัย เขียวฤทธิ์ ก็ได้แต่เงียบ ทางผมจึงได้แค่โทรตามตลอด ได้แต่คำตอบว่าจะแก้ปัญหาให้ แต่ก็ไม่มีอะไร จนเวลาผ่านไปอีกเดือน รวมแล้วก็สองเดือน จากวันที่เปลี่ยนหัวพิมพ์ใหม่ เวลาที่ผ่านไปสองเดือน หัวพิมพ์จากที่พิมพ์ขาดแค่เส้นเดืยวก็ขาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนพิมพ์งานออกมาไม่สวย ทำให้ผมไม่สามารถขายงานที่พิมพ์ได้ งานไหนที่ลูกค้าต้องการความสวย เนียบ ก็ต้องปฏิเสธงานไป ขายได้แต่งานทั่วไป ที่พิมพ์ออกมาแล้วเป็นเส้นก็จริง แต่ลูกค้าไม่ค่อยอะไรมาก ก็รับได้ พอถูไถกันไป แต่ก็กำไรน้อย
ผมจึงได้แจ้งไปทาง สคบ แต่ทาง สคบ บอกมาว่า กรณีผม ผมคือผู้ประกอบการ ไม่ใช่ผู้บริโภค เป็นปัญหาผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ ต้องปรึกษาทนาย ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ถ้าถึงขั้นต้องขึ้นศาล ไหนจะเงินค่าทนาย ไหนจะเสียเวลาหาเงิน มันเลยกลายเป็นไม่รู้จะทำยังไง จะร้องเรียนที่ไหน เพื่อจะได้ความยุติธรรม