แกะรอยหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร

สัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดดราม่าหอชมเมืองฯ สนั่นสังคมออนไลน์ หลังจากได้ไปตามอ่านจากสื่อต่างๆ ก็เลยอยากรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหอระฟ้าแห่งนี้มาแชร์ให้คนที่ไม่ได้ตามมาตั้งแต่ต้นเหมือนเราได้อ่านกัน จะได้คุยกับใครๆ เขารู้เรื่อง ยิ้ม แต่ถ้างงหนักกว่าเดิม ก็ไปอ่านจากข่าวในลิงค์ที่แนบมาแล้วกันเนอะ


เท้าความ
เนื่องจากมีเอกชนสนใจจะเช่าที่ดินรกร้างว่างเปล่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาของกรมธนารักษ์ ก่อสร้างหอชมเมือง ซึ่งการขอเช่าที่จากกรมธนารักษ์โดยไม่ต้องประมูลสามารถทำได้ แต่ต้องให้ครม.อนุมัติก่อน

มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 13 ธ.ค. 2559: อนุมัติให้มีการก่อสร้างโครงการหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร
ช่วงต้นปี 2560: มีการดำเนินการเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ ในการสร้างหอชมเมือง เช่น การสรรหาพื้นที่ของรัฐในการสร้าง ยื่นแบบขออนุญาตต่างๆ

ข้อมูลทั่วไป
ที่ดิน: ราชพัสดุ แปลงหมายเลข กท. 3275 เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
ที่ตั้ง: ซอยเจริญนคร 7
ขนาดที่ดิน: 4 ไร่ 2 งาน 34 ตารางวา
ราคาประเมิน: 198 ล้านบาท
สัญญาเช่าที่ดิน: 30 ปี กับกรมธนารักษ์
เมื่อครบกำหนด: สิ่งก่อสร้างจะตกเป็นของรัฐ
เงื่อนไขการเช่า: ห้ามทำการค้าขายหรือกิจกรรมเชิงพาณิชย์ รายได้ต้องนำเข้าการกุศล

ผู้ที่สนใจลงทุน: เป็นโครงการร่วมทุนกันระหว่างเอกชน 3 รายใหญ่ คือ
1. สยามพิวรรธน์ เจ้าของโครงการสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่
2. Magnolia Quality Development บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
3. เครือเจริญโภคภัณฑ์
ดำเนินการก่อสร้างโดย: มูลนิธิหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร
ระยะเวลาก่อสร้าง: 3 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563 ผ่านการรายงานด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว
งบลงทุน: 4,621.47 ล้านบาท
เงินตั้งต้นของมูลนิธิ: 5 แสนบาท
เงินกู้จากสถาบันการเงิน: 2,500 ล้านบาท
สถาบันการเงิน: ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารเกียรตินาคิน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารทิสโก้ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารธนชาติ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน
เงินบริจาคจากบริษัทเอกชนชั้นนำ: 2,100 ล้านบาท

ผลประโยชน์: ประมาณ 46,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาให้เช่า 30 ปี
ประมาณการรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชม: 1,054 ล้านบาท/ปี
ค่าใช้จ่ายต่อปี: 892 ล้านบาท
ดอกเบี้ยต่อปี: 38 ล้านบาท
รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย: บริจาคองค์กรสาธารณกุศล


เงื่อนไข
- โครงการนี้มีมูลค่าเกินกว่า 1,000 ล้านบาท
- เป็นการนำที่ดินของรัฐเข้าไปร่วมดำเนินการ
- ตีราคาค่าเช่าระยะ 30 ปี
= เป็นเงินร่วมลงทุนกับเอกชน
 จำเป็นต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556

วัตถุประสงค์
1. เพื่อก่อสร้างและบริหารถาวรวัตถุที่เป็นเอกลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร ดำเนินการใดๆ อันเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติเป็นส่วนรวม ศึกษาวิเคราะห์วิจัยงานต่างๆ อันเป็นประโยชน์สาธารณะและร่วมมือกับส่วนราชการและองค์การอื่นๆในกิจการเกี่ยวกับการเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกิจการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะหรือสาธารณกุศล
2. เป็นการดำเนินการเพื่อสาธารณประโยชน์โดยมิได้มุ่งหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน
3. แนวคิดในเบื้องต้นที่จะก่อสร้างเป็นอาคารถาวรและจัดสรรพื้นที่ใช้สอยเพื่อประโยชน์ต่างๆ

รายละเอียดโครงการ
ความสูง: 459 เมตร
จุดชมวิวสูงสุด: 357.50 เมตร
พื้นที่ใช้สอย: 22,281 ตารางเมตร

ชั้นบนสุด: เป็นโถงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช แห่งมหาจักรีพระบรมราชวงศ์ โดยประดิษฐานพระบรมรูปของบูรพมหากษัตริยาธิราชในมหาจักรีบรมราชวงศ์ และเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อพระคลังมหาสมบัติ เพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชา พร้อมพื้นที่ประมาณ 500 ตารางเมตร สำหรับจัดแสดงพระราชกรณียกิจต่างๆ อันเป็นประโยชน์แก่ชาวไทย เพื่อเผยแพร่ “ศาสตร์พระราชา” ทุกๆ ด้าน เช่น ด้านการเกษตรและการยกระดับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านศาสนา ด้านกีฬา ด้านการสื่อสารเทคโนโลยี และการคมนาคม เป็นต้น

ชั้นกลาง: เป็นห้องโถงที่มีกระจกขนาดใหญ่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้โดยรอบ

ชั้นล่าง: เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ประมาณ 4,000 ตารางเมตร เช่น ห้องจัดนิทรรศการ และพื้นที่ส่วนกลางสำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรม รวมทั้งเทศกาลต่าง ๆ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดทั้งปี เป็นต้น รวมถึงจะจัดแสดงเรื่องราวอันน่าภาคภูมิใจของคนไทย (The Pride of Thailand) จากโครงการภาคภูมิแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสานพลังประชารัฐที่มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมเรื่องราวที่ดีงามกว่าหนึ่งล้านเรื่องราวจากทุกชุมชนทั่วประเทศ โดยประชาชนชาวไทยได้ร่วมกันสืบค้นและรวบรวมผ่านโครงการภาคภูมิแผ่นดินไทย เติมความภูมิใจให้เต็มชาติเพื่อเป็นมรดกให้คนรุ่นหลังสืบไป
การเดินทาง: เน้นทางเรือ ส่วนทางบกในอนาคตทางมูลนิธิหอชมเมืองฯ อาจมีการเจรจากับทาง "ไอคอนสยาม" ที่ตั้งอยู่ติดกัน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านที่จอดรถ  

ภาพรวมทางเศรษฐกิจ
-    กระตุ้นการท่องเที่ยว
-    กระตุ้นการใช้จ่าย
-    ส่งเสริมทัศนียภาพริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
-    เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองไทย
-    ประโยชน์ 3 ระดับ
    ระดับท้องถิ่น: ธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงผู้ประกอบการเรือขนส่ง
    ระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว: หอชมเมืองฯ จะเป็น attraction แห่งใหม่ที่มีพลังมาก สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชมได้ ช่วยกระตุ้นพัฒนาการการท่องเที่ยว
    ระดับประเทศ: จะได้รับ Global Recognition เมื่อสร้างเสร็จจะอยู่ลำดับที่ 6 ของทำเนียบหอคอยที่สูงที่สุดในโลกและสูงที่สุดใน South East Asia ซึ่งจะทำให้คนทั่วโลกรู้จักประเทศไทยมากขึ้น เป็นจุดสนใจในการมาเยี่ยมชมมากขึ้น และเป็นสัญลักษณ์แห่งความดี เนื่องจากมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมความดีงามที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของชาติไว้

11 อันดับ หอคอย (ชมเมือง) สูงที่สุดในโลก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

-    ประมาณการรายได้
    ผู้เข้าชม: 1.1 – 1.4 ล้านคนต่อปี 4,000 คนต่อวัน วันละ 10 รอบๆ ละ 400 คน
    รายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชม: ราคาตั๋ว 750 บาทต่อคน (คนไทยลด 50% หรือ 375 บาท)

ข้อกังขา
-    ที่ดิน/พื้นที่: พื้นที่ตาบอด (เข้าได้ทางน้ำ) พื้นที่ว่าง ถูกทิ้งร้างมานาน ไม่มีผู้เช่า
-    ไม่มีการเปิดประมูล: โครงการมีลักษณะเชิงสังคม ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ ลงทุนก่อสร้างโดยมูลนิธิ ไม่มีปันผลหรือการแบ่งผลกำไร จะดำเนินการตามขั้นตอน PPP ประกอบกับเป็นการดำเนินงานประชารัฐ ตามแนวนโยบายประชารัฐที่เกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วนและขั้นตอนของกฎหมายร่วมลงทุน
-    ผลกระทบต่อชุมชนใกล้เคียง: ชุมชนมัสยิดสุวรรณภูมิ
    เห็นด้วย 80% : จะทำให้ชุมชนได้รับการพัฒนา อยากเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพิ่มรายได้และปรับภูมิทัศน์ชุมชน โดยตนมั่นใจว่าจะไม่มีการไล่ที่แน่นอน เนื่องจากชาวบ้านมีโฉนดถูกต้อง
    ไม่เห็นด้วย 20%: ส่วนใหญ่มีบ้านติดกับที่ดินราชพัสดุในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร โดยจ่ายค่าเช่าบ้านให้แก่บริษัทเอกชนผู้เป็นเจ้าของโฉนด ในอัตราเดือนละ 300 บาท และเช่าอยู่มาเป็นเวลานานกว่า 40 ปี แม้อยากให้มีการพัฒนา แต่ก็มีความหวาดหวั่นว่าในอนาคตจะถูกไล่ออก เนื่องจากสภาพบ้านที่อยู่นั้นแออัดและทรุดโทรม อาจไม่เหมาะแก่การอยู่ใกล้หอชมเมืองที่มีความสวยงาม


ข้อมูลมูลนิธิหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร
-    หอชมเมืองกรุงเทพมหานคร บริหารโดย 2 มูลนิธิ ได้แก่ มูลนิธิหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร ก่อตั้งเมื่อปี 2557 และมูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์แห่งชาติ
-    มูลนิธิหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย

คณะกรรมการมูลนิธิหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร   
1.    ดร.พนัส สิมะเสถียร ประธานกรรมการ
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง
    กรรมการกฤษฎีกา
    กรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
    กรรมการบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
    ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด
2.    คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการ
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง
    เหรัญญิกสภากาชาดไทย
    กรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
    กรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
    กรรมการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด
3.    นางวัลลิยา ปังศรีวงศ์ กรรมการ
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการ มูลนิธิเพื่อการศึกษาและประชาสงเคราะห์
4.    รองศาสตราจารย์ ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี กรรมการ
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง
    ศิลปินแห่งชาติ
    ราชบัณฑิตสำนักศิลปกรรม ประเภทสถาปัตยศิลป์
5.    ร้อยโท ดร. สุวิทย์ ยอดมณี กรรมการ
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองประธานมูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ
6.    ดร.วิทย์ สุนทรนันท์ กรรมการ
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการ มูลนิธิพุทธรักษา
7.    ผู้ช่วยศาสตราจารย์กนิช บุณยัษฐิติ กรรมการ
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-    มูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ
    ก่อตั้งเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2530 ในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันได้แยกตัวออกเป็นอิสระ
    พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ เป็นประธานกรรมการ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่าง ๆ เป็นคณะกรรมการ  
    วัตถุประสงค์หลัก เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนชาวไทยเกิดความรัก ความสมัครสมานสามัคคี และความภาคภูมิใจในความเป็นไทยของคนในชาติ โดยในปี 2559 มูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน “โครงการภาคภูมิแผ่นดินไทย” โดยรวบรวมข้อมูลความดีของคนไทย และเรื่องราวที่เป็นความภาคภูมิใจระดับประเทศของทั้ง 77 จังหวัดของไทยไว้ในคลังข้อมูลดิจิตอล เพื่อเผยแพร่ให้คนทั่วโลกได้รู้ ซึ่งนับว่ามีคุณค่าในการสืบสานประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรม ตลอดจนสิ่งดี ๆ ในชาติให้คงอยู่ ซึ่งจะนำมาไว้ในหอชมเมืองฯ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชม ปัจจุบันรวบรวมได้กว่า 500,000 เรื่องราวจากทั่วประเทศ นอกจากนี้ มูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติยังได้จัดทำโครงการแสงแห่งพระบารมี เชิญชวนคนไทยร่วมบันทึกความภูมิใจที่ได้ทำตามรอยพ่อหลวงอีกด้วย
*********************
อ้างอิง:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่