คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เราเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมาก เสาร์อาทิตย์เราแทบไม่ออกไปไหน อยู่บ้าน นอน
งานเลี้ยงที่บริษัทถ้าไม่บังคับว่าต้องไปเราก็ไม่ไป ขอตัวกลับบ้านนอน
งานแต่งเพื่อนร่วมงานถ้าไม่สนิทจริงๆใส่แค่ซองพอ
เราชอบอยู่คนเดียว ชอบไปซื้อของคนเดียว
เพราะไม่ชอบให้ใครรอเวลาซื้อของ มีอิสระในการเลือก ไม่กดดัน
เพื่อนในเฟสเรามีไม่ถึง 50 คนด้วยซ้ำ ใครแอดมาถ้าเราไม่สนิทเราไม่รับ เพราะคงไม่มีอะไรจะคุย
หัวหน้าแอดเราก็ก็ค้างไว้แบบนั้นแหละ ไม่รับ จอหน้าก็เฉยๆไม่ได้สนใจ
คือทุกคนจะรู้ว่าเราเป็นคนที่ปิดตัวเองพอสมควรเลยไม่ค่อยมีใครก้าวเข้ามา
คงจะมีนินทาลับหลังแหละแต่เราไม่ได้ยินไงเราเลยไม่ได้สนใจ
เค้าไม่ชอบเรานั่นคือปัญหาของเค้าไม่ใช่ปัญหาเรา
แต่เรื่องงานเราเต็มที่นะ เลิกดึกเราก็ไม่มีปัญหา เพื่อนร่วมงานให้ช่วยถ้าช่วยได้เราก็ช่วย
ถึงเป็นแบบนี้เราก็มีแฟนนะเพียงแต่อยู่คนละประเทศ
ทุกคนจะรู้ว่าเรามีแฟน
แต่ไม่มีใครรู้ว่าแฟนเราคือใคร หน้าตาเป็นยังไง เพราะเราไม่เคยพาแฟนมาเจอเพื่อนๆ
ตอนนี้แต่งงานมีลูกแล้ว ออกจากงานย้ายมาอยู่กับสามีเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก
เจอคนไทยก็ทักทายเฉยๆไม่เคยขอเบอร์ขอเฟสเพราะเราขี้เกียจคุย
ญาติที่นี่มีเพื่อนเป็นคนไทยก็บอกแอดไปสิจะได้มีเพื่อนคนไทยด้วยกัน
แต่เราไม่แอดไม่ได้อยากมีเพื่อนเพิ่ม เราไม่ได้เหงา เราชอบชีวิตของเราแบบนี้ 555
สุดท้ายอยากจะบอกว่าคนเราถ้าเจอคนที่เข้ากันได้จะโลกส่วนตัวสูงแค่ไหนก็ไปด้วยกันได้
แต่ถ้าคนที่ไม่ใช่ฝืนไปยังไงมันก็ไม่ใช่ ต่อให้เดินจูงมือกันมันก็เหมือนอยู่คนละโลก
งานเลี้ยงที่บริษัทถ้าไม่บังคับว่าต้องไปเราก็ไม่ไป ขอตัวกลับบ้านนอน
งานแต่งเพื่อนร่วมงานถ้าไม่สนิทจริงๆใส่แค่ซองพอ
เราชอบอยู่คนเดียว ชอบไปซื้อของคนเดียว
เพราะไม่ชอบให้ใครรอเวลาซื้อของ มีอิสระในการเลือก ไม่กดดัน
เพื่อนในเฟสเรามีไม่ถึง 50 คนด้วยซ้ำ ใครแอดมาถ้าเราไม่สนิทเราไม่รับ เพราะคงไม่มีอะไรจะคุย
หัวหน้าแอดเราก็ก็ค้างไว้แบบนั้นแหละ ไม่รับ จอหน้าก็เฉยๆไม่ได้สนใจ
คือทุกคนจะรู้ว่าเราเป็นคนที่ปิดตัวเองพอสมควรเลยไม่ค่อยมีใครก้าวเข้ามา
คงจะมีนินทาลับหลังแหละแต่เราไม่ได้ยินไงเราเลยไม่ได้สนใจ
เค้าไม่ชอบเรานั่นคือปัญหาของเค้าไม่ใช่ปัญหาเรา
แต่เรื่องงานเราเต็มที่นะ เลิกดึกเราก็ไม่มีปัญหา เพื่อนร่วมงานให้ช่วยถ้าช่วยได้เราก็ช่วย
ถึงเป็นแบบนี้เราก็มีแฟนนะเพียงแต่อยู่คนละประเทศ
ทุกคนจะรู้ว่าเรามีแฟน
แต่ไม่มีใครรู้ว่าแฟนเราคือใคร หน้าตาเป็นยังไง เพราะเราไม่เคยพาแฟนมาเจอเพื่อนๆ
ตอนนี้แต่งงานมีลูกแล้ว ออกจากงานย้ายมาอยู่กับสามีเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก
เจอคนไทยก็ทักทายเฉยๆไม่เคยขอเบอร์ขอเฟสเพราะเราขี้เกียจคุย
ญาติที่นี่มีเพื่อนเป็นคนไทยก็บอกแอดไปสิจะได้มีเพื่อนคนไทยด้วยกัน
แต่เราไม่แอดไม่ได้อยากมีเพื่อนเพิ่ม เราไม่ได้เหงา เราชอบชีวิตของเราแบบนี้ 555
สุดท้ายอยากจะบอกว่าคนเราถ้าเจอคนที่เข้ากันได้จะโลกส่วนตัวสูงแค่ไหนก็ไปด้วยกันได้
แต่ถ้าคนที่ไม่ใช่ฝืนไปยังไงมันก็ไม่ใช่ ต่อให้เดินจูงมือกันมันก็เหมือนอยู่คนละโลก
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่จริงค่ะ
คนชอบท่องเที่ยวต่างหาก ไม่เหมาะมีครอบครัว เพราะถ้ามีลูกขึ้นมา การไปเที่ยวไม่พาลูกไปก็คิดถึง พาลูกไปก็ยุ่งยากหลายอย่าง
คนไม่ชอบเที่ยว ชอบอยู่บ้านต่างหาก เหมาะกับการมีครอบครัว มีลูก ดูแลลูก
อย่างเรามีลูกค้า สามีภรรยารวยทั้งคู่ รายได้หลักแสนต่อเดือนทั้งคู่ แต่งงานกันตกลงไม่มีลูก เพราะต้องการใช้เวลาอยู่ด้วยกัน และไปเที่ยวประเทศโน้นนี้ ทุกเทศกาล บอกว่า ถ้าลูกจะมาเที่ยวแบบนี้ไม่ได้
คนชอบท่องเที่ยวต่างหาก ไม่เหมาะมีครอบครัว เพราะถ้ามีลูกขึ้นมา การไปเที่ยวไม่พาลูกไปก็คิดถึง พาลูกไปก็ยุ่งยากหลายอย่าง
คนไม่ชอบเที่ยว ชอบอยู่บ้านต่างหาก เหมาะกับการมีครอบครัว มีลูก ดูแลลูก
อย่างเรามีลูกค้า สามีภรรยารวยทั้งคู่ รายได้หลักแสนต่อเดือนทั้งคู่ แต่งงานกันตกลงไม่มีลูก เพราะต้องการใช้เวลาอยู่ด้วยกัน และไปเที่ยวประเทศโน้นนี้ ทุกเทศกาล บอกว่า ถ้าลูกจะมาเที่ยวแบบนี้ไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 19
เราว่า คนชอบอยู่บ้านเยอะมากนะ
เป็นเพราะเล่นfacebookรึป่าว เลยเห็นภาพคนไปเที่ยวนู่นนี่ กินข้าวนอกบ้าน ทำกิจกรรมต่างๆกันเยอะ อย่าง ไปวิ่ง ขี่จักรยาน ฯลฯ
คนอยู่บ้านทั่วไปเค้าไม่อัพกันไง
ใส่ชุดนอนอยู่บ้านชิลล์ๆจนเย็นค่อยอาบน้ำ เค้าก็ไม่อัพfb
นั่งๆนอนๆดูซีรีส์ติดกัน 8 Ep. เค้าก็ไม่มาอัพกันแบบกิจกรรมไปเที่ยวนอกบ้าน
จริงๆแล้ว คนชอบอยู่บ้าน มันเยอะกว่าที่คุณคิดไว้ คุณแค่ไม่เห็นเค้า ไปเห็นแต่คนชอบเที่ยว เพราะเค้าอัพfacebook ig ต่างๆให้เราเห็น
เป็นเพราะเล่นfacebookรึป่าว เลยเห็นภาพคนไปเที่ยวนู่นนี่ กินข้าวนอกบ้าน ทำกิจกรรมต่างๆกันเยอะ อย่าง ไปวิ่ง ขี่จักรยาน ฯลฯ
คนอยู่บ้านทั่วไปเค้าไม่อัพกันไง
ใส่ชุดนอนอยู่บ้านชิลล์ๆจนเย็นค่อยอาบน้ำ เค้าก็ไม่อัพfb
นั่งๆนอนๆดูซีรีส์ติดกัน 8 Ep. เค้าก็ไม่มาอัพกันแบบกิจกรรมไปเที่ยวนอกบ้าน
จริงๆแล้ว คนชอบอยู่บ้าน มันเยอะกว่าที่คุณคิดไว้ คุณแค่ไม่เห็นเค้า ไปเห็นแต่คนชอบเที่ยว เพราะเค้าอัพfacebook ig ต่างๆให้เราเห็น
แสดงความคิดเห็น
คนที่ไม่ชอบเที่ยว ชอบอยู่บ้าน เหมาะกับการอยู่คนเดียวมากกว่าการมีคู่จริงหรือไม่ครับ
สมัยก่อนก็เคยคิดว่าใครสักคน ไม่อยากเหงา...แต่ตอนนี้ อายุ 30 กว่าๆ ชีวิตก็พอจะได้เจอใครเข้ามาบ้าง
แต่มันรู้สึกว่า คงไปด้วยกันยาก (คบไปสงสารคนที่เขาคบเราครับ เราเป็นคนอินดี้และอนุรักษ์นิยมเกิน...) เลี่ยงที่จะเดินหน้าต่อ
ผมรู้สึกว่า การที่ผมเป็นคนไม่ชอบเที่ยว ชอบอยู่บ้าน ถ้าไปก็ไปห้างใกล้ๆ แถวๆ บ้าน ดูหนัง กินข้าว ซื้อของ
ส่วนการไปทำงาน ผมไปทั่วทุกที่ไม่เคยเกี่ยง ชอบด้วยซ้ำที่ได้ขับรถไปโน่นมานี่
มันเป็น การใช้ชีวิตที่ผมคงเข้ากับผู้หญิงคนไหนได้ยากมากๆ เพราะเท่าที่ผมเจอมา คนส่วนมากทั้งชายและหญิงที่ผมรู้จัก ก็จะชอบที่จะ
ไปเที่ยว เดินทาง ใช้ชีวิตให้คุ้ม (เทียบกับคนที่วัยใกล้ๆ กัน)
คนที่คิดคล้ายๆ ผมส่วนมากก็จะเป็นผู้ใหญ่ คนแก่ๆ อายุ 40 - 50 (แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน)
ผมเคยคุยกับรุ่นน้าๆ ที่แกไม่ชอบไปเหมือนผม แกให้เหตุผลว่า แกไปแล้วมันเหมือนจะตื่นเต้นดี แต่พอไปแล้ว เห็นก็เฉยๆ ที่สำคัญ คือ ไปแล้วเสียเงิน เสียดายตัง ผมเองก็รู้สึกเช่นนั้นครับ (สงสัยผมจะเป็นพวกแก่ก่อนวัย)
แต่การที่ผมอยู่บ้าน ก็ไม่ใช่ว่าผมจะไม่ทำอะไรครับ สิ่งที่ผมชอบก็พวก การลงทุน เรื่องรถยนต์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเก่าๆ ผมก็ชอบที่จะศึกษามีความสุขกับการอ่านบทความต่างๆ การฟังเพลงเก่าๆ ก็เป็นสิ่งที่ผมชอบเช่นกันครับ
ถามว่าตอนนี้ผมรู้สึกอย่างไร ผมรู้สึกสงบ มีความสุข แต่เหงาไหม ก็ไม่เชิงครับ เพราะเห็นเพื่อนๆ ที่แต่งงานมีลูกไปแล้วดูเครียด ไม่อยากเป็นแบบเขาแล้ว ทั้งที่สมัยก่อนอยากแต่งงานมีครอบครัว จะมีบางช่วงเท่านั้นที่รู้สึกว่า ถ้าเรามีใครสักคนที่เป็นเป้าหมาย แรงใจ มันก็น่าจะดีครับ
อยากสอบถามทุกท่านว่า คิดว่าสิ่งที่ผมเล่ามา ตัวตนของผมแบบนี้ ผมอยู่คนเดียวดีกว่าหรือไม่
บนโลกนี้ มันจะมีคนที่เหมือนๆ กับผมหรือไม่
ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ