หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[ตอนที่3] ปั่นจักรยาน 861 โล รอบทะเลญี่ปุ่น มาถึงแล้วเส้นทางมหาสมบัติ Shimanamikaido !!
กระทู้สนทนา
Backpack
ภาพถ่าย
เที่ยวญี่ปุ่น
จักรยาน
บันทึกนักเดินทาง
กลับมาแล้วฮะะะ มาต่อกันกับวันที่ 7 สำหรับใครที่พึ่งเข้ามาอ่านวันนี้ ขอเกริ่นนิดนึงนะคือพวกเราเป็นนักวิจัยแลกเปลี่ยนที่เกียวโต อยู่มาวันนึงโดนไล่ออกจากหอพักไม่มีที่ไปเลยออกปั่นจักรยานเร่ร่อนกันไงล่ะ เป้าหมายคือ ที่นี่ Shimmanami Kaido สุดยอดทางปั่นจักรยานที่ชิวที่สุดในญี่ปุ่น ส่วนตอนก่อนหน้านี้ติดตามได้ผ่านลิ้งค์นี้เลยครับ แล้วไม่รู้จะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายจะบอกว่าตอนนี้ เราลงทีเดียวสามวันรวดจะยาวมากกกกกนะ
Part 1 Kyoto - Ako :
https://ppantip.com/topic/36337769
Part 2 Ako - Hiroshima :
https://ppantip.com/topic/36393934
ส่วนในภาคนี้เส้นทางนี้โดนใจเรามาก เราตั้งใจทำวีดีโอสุดๆ รับชมกันก่อนเลยแล้วกันนะ เห่อๆๆ
เมื่อคืนพวกเรามากางเต้นท์กันที่เกาะ Innoshima (因島) หลังจากกลับมาจาก Hiroshima ตอนเที่ยงคืนกว่าๆ ปั่นกันมืดมาก กว่าจะได้นอนกันจริงๆก็น่าจะตีสอง แล้วที่เด็ดคือ Campsite ที่พวกเราจะไปกันปิดประตูหน้า เราต้องหาทางเข้ากันเลยมาประตูหลัง แล้วก็มาจบที่เนินเล็กๆริมหาดที่มีสิ่งก่อสร้างแปลกๆนี้ เมื่อคืนดูอะไรไม่รู้เรื่องเลย กางเต้นท์นอนๆไป
ประเด็นคือภายุเข้าฮะ หนาวมากเราปั่นกันเดือนมีนาใช่มะ คือมันควรจะอุ่นขึ้นหน่อยๆแล้วเมื่อคืนติดลบ พวกเรามีถุงนอนกันคนละอัน กับเสื้อผ้าสองชุดใส่ทั้งหมดยังหนาวเลย หลับไปได้ชั่วโมงกว่าๆตีสี่นี่สั่นงั๊กๆๆ จนเราไม่ไหวต้องตื่นมาวิ่งขึ้นลงบันไดแถวนั้นจนฟ้าสาง หลอนก็หลอนนะ โดมอะไรไม่รู้ป่าอะไรไม่รู้ไม่มีไฟ เห็นไฟริบๆก็ที่สะพานแล้วก็เรือที่ล่องไปมา หยุดวิ่งก็ไม่ได้ด้วยไม่งั้นสั่นอีก
พอฟ้าสางสิ่งที่เราได้เห็นทำเอาลืมหนาวไปเลยครับ คือวิวดีมากเห็นสะพานที่เราปั่นมาจาก Mukoujima (向島) แบบที่นั่งแถวหน้าเลย เราเลยหยุดนั่งชิวจนลืมหนาวไปได้ซักพักใหญ่ๆ พอลมเริ่มตีหน้าหนาวอีก แดดไม่ยอมออกด้วยแหละฟ้าครึ้มมาเลย วิ่งต่อเร็วๆๆ
เมื่อคืนขึ้นๆลงๆตรงบันไดนี้แหละฮะ อาคารก็มืดไม่กล้ามองเข้าไปหลับหูหลับตาวิ่งไป จริงๆคือจินตนาการไปต่างๆนาๆว่าเป็นฐานลับไว้ทดลองมนุษย์กลายพันธุ์ หรือแบบบ้านของฆาตรกรโรคจิตที่จับเหยื่อมาขังไว้หรือเปล่า ไม่แน่อาจจะเป็นโรงงานร้านที่เกิดอุบัติเหตุสมัยสงครามโลกจนปิดมาถึงตอนนี้ก็ได้ หลอนไปเยอะมาก 555
จริงๆแล้วที่นี่เป็นออฟฟิสประภาคารเก่าครับ โล่งอกไปภายในจัดเก็บชิ้นส่วนประภาคารไว้มากมายสามารถเกาะกระจกดูได้เหมือนตู้โชว์เลยนะ ของใช้ภายในจะเป็นของจากยุคสงครามโลกจริงๆด้วยแหละแต่เกาะนี้อยู่ไกลจาก Hiroshima เลยยังปลอดภัยจากปรมณูรอดไปๆ
เดินเลยออกมาอีกประมาณ ห้านาทีก็เจออาคารขาวๆที่เห็นเมื่อวาน ประภาคารนี่เองแต่ปิดใช้งานไปแล้วนะเขามีอันใหม่ที่ใหญ่กว่าขาวกว่า เลยถูกทิ้งไปตามยัตถากรรมเสียดายพยายามปีนเข้าไปเปิดประตูแต่ล๊อคไว้แน่นหนาดีมาก อดเอาภาพเด็ดๆมาฝากเลย
เดินลงมาจากหน้าประภาคารอีกห้านาทีมองขึ้นไปจะเห็นเป็นวิวแบบนี้มันคือชายหาดส่วนตัวฮะ น้ำสวยมากใสมาก มีปลาด้วย โหยคือถ้ามาหน้าร้อนจะโดดแล้ว แต่ถ้าโดดตอนนี้เราคงจบแค่นี้หนาวหลับหายไปในสายน้ำแน่ๆ แบบหนาวจังไม่ไหวแล้ว ขอนอนก่อนนะเหมือนในหนัง ดราม่าๆ
สำรวจจนพอใจแล้วสบายใจว่าพวกเราไม่ได้มานอนในที่แปลกๆทั้งคืน ก็กลับขึ้นมาที่เต้นท์สุดที่รักได้เวลาแพคของกลับบนหลังจักรยาน ในระหว่างแพคของนั้นอยู่ดีๆหลังจาก อดินาลีน ในการสำรวจหมดก็ วูบ ฮะ หน้ามืด นั่นไงเมื่อคืนได้นอนจริงๆไม่ถึงสองชั่วโมง ระหว่างเก็บกันเราเลยตัดสินใจไม่ฝืน หาที่นอนแถวๆเกาะ Oshima (大島) ซึ่งเป็นเกาะสุดท้ายก่อนเข้าแผ่นดินใหญ่ดีกว่า อยากนอนบนเกาะอะ เลยหาเรื่องอู้ เอาความเหนื่อยมาอ้าง เอาน่ะขอชิวนิดนึงนะ
เสิช Airbnb เจอบ้านคุณลุงคนนึงชื่อ คุณลุง Akira เรทติ้งดีมากบ้านลุงเป็นบ้านเล็กๆริมทะเล ฟรั่งทั้งหลายบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าลุงชิวและลุงเทพมาก บ้านลุงวิ่งลงหลังบ้านลงทะเลได้เลย อ้าวๆๆ จองสิแต่จะมีห้องว่างมั้ยเนี่ยจองเช้าเข้าเย็นบ้านฮิตขนาดนี้ ลองส่งข้อความหาลุงดูแต่ลุงคงยังไม่ตื่นลุ้นไปก่อนเก็บของแล้วออกเดินทางเถอะ !
กว่าจะเก็บของพร้อมอู้เสร็จก็ ราวๆแปดโมงแล้วนะ โหยเวลาผ่านไปไวมาก เราบอกลากับสะพานและวิวสวยๆกับพื้นที่ส่วนบุคคลชั่วคราวของเราแล้วก็เริ่มปั่นกัน ก่อนจะออกพึ่งเห็นว่าที่เรามานอนทั้งคืนไม่ใช่ Campsite ที่เจอใน googlemap เป็นที่ของราชการด้วย Campsite ปิดไปแล้วเนื่องจากมีคนมาใช้ไม่ถูกวัตถุประสงค์เยอะ แต่เรื่องอะไรเขาไม่บอกอยากรู้มาก บายยยยยย。。。。สะพาน
ออกมาจากอาณาเขต camp site ได้ไม่ถึงจักรยานเพียบมีทุกแบบที่จินตนาการได้จริงๆ หลังจากพึ่งมีเสียงสัญญาณเปิดเส้นทางปั่นคนทะลักเข้ามากันสนุกสนานเลย จริงๆเส้นทางที่เขาเปิดก็ที่เราแอบปั่นขึ้นมาตอนเที่ยงคืนเมื่อวานนั่นแหละ ไม่รู้วันนี้จะโดนใครตามมาจับไหม 555
ปั่นออกมาจากทางลงสะพานที่สุดแสนจะชุกชุมก็เจอเขตชายหาด กว้างมากทรายเนียนมากๆ ฮึ่มถ้าเรามาฤดูร้อนจะกางเสื่อนอนอาบแดดไปแล้ว แต่ปั่นไปๆมาๆอ้าวจักรยานหายไปไหนหมดล่ะ ทางตันไง ออกมาไหนก็ไม่รู้กลับก่อนๆ ปั่นเกาะนี้ไม่ยากหาจักรยานแล้วตามเขาไปฮะ
นี่ไงๆเจอแล้วเกาะนี้สายโหดเพียบนะเห็นแบบนี้แต่ละคนอัดกัน 40-50 วิ่งเป็นเส้นๆเลย อย่างกะ Tour de France แต่ทำเป็นเล่นไปเขามีงานแข่งประจำปีที่นักปั่นสุดโหดจากทั้งประเทศและต่างประเทศมารวมตัวกันอีกด้วยนะ
จริงๆเห็นทั้งทริป เราแทบไม่ใส่หมวกเลยทางปลอดภัยปั่นแยกจากรถได้เลยแขวนไว้ใช่มะ ปกติที่ไทยถ้าใครปั่นจักรยานจะรู้กันเวลาสวนกับนักปั่นด้วยกันทักได้เลยส่วนมากเขาตอบด้วยความยิ้มแยม มาเกาะนี้เจอเหล่านักปั่นสายรัดติ้วเราก็อยากลองว่าจะมีวัฒนธรรมเดียวกับที่ไทยมั้ย ทักสิ “โอฮะโยะ !!”.... กริบ ลุงเย็นชา เอ้าสงสัยคงแค่ลุง ถัดไปเป็นวัยกลางคนลอง “คนนิจิวะ !!” มองเย็นชาอีก ไรอะทำไมเป็นแบบนี้
จนอยู่ดีๆนึกได้หัวโล่ง ทุกคนมีของบนหัวอ้าวๆ ที่ไทยนะใครไม่ใส่หมวกจะโดนดุจากเพื่อนนักปั่นด้วยถือว่าไม่ปลอดภัยมากๆ เราเลยลองหยิบหมวกมาใส่ แค่นั้นแหละเหล่านักปั่นที่สวนๆกันมา ทักเลย 555 หลังจากนั้นก็ทักกันแทบไม่หวั่นไม่ไหว เยอะมาก จนเริ่มเปลี่ยนจากพูดเป็นพยักหน้าแล้วยิ้มแทน ผลสรุปการทดลอง นักปั่นทั้งที่ญี่ปุ่นกับที่ไทย มีวัฒนธรรมเหมือนกันเป๊ะ ทั้งดุคนไม่ใส่หมวก และทักทายเพื่อนนักปั่นด้วยกันอย่างน่ารักน่าชังฮะ
เส้นทางบนเกาะนี้จะตัดผ่านกลางเกาะเลย ผ่านสวนผักสวนปลาสวนหมูมากมาย กลิ่นตีกันคลุ้งมาก ถ้าใครเคยไปแถวสามพราน จะเข้าใจแบบนั้นแหละฮะ ราวๆ 7.5 กิโล ก็เห็นแว้บๆของสะพานที่พาไปเกาะ Ikuchi (生口島) ซึ่งน่าจะเป็นเกาะที่ยาวอันดับต้นๆของเส้นทางนี้
เส้นทางของจักนยานจะถูกแยกอย่างชัดเจนปั่นตามเส้นฟ้ามาเรื่อยๆเลย แต่ขึ้นทางเดียวกับรถไม่ได้นะต้องขึ้นทางยึกยักๆๆๆ หลายตลบมากแต่สนุกนะ เราปั่นมาเรื่อยๆจนลอดใต้สะพานแล้วก็พบทางแคบๆที่จะพาเราขึ้นไป
ทางขึ้นหน้าตาแบบนี้เลย ห้ามรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์เด็ดขาดนะ จักรยานเท่านั้นปั่นไปเรื่อยๆสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้เมื่อไหร่จะถึงซักที แต่เพื่อนปั่นเยอะไม่เป็นไรสนุกๆๆ
มาถึงจุดคนเยอะก็งงเขาหยุดดูอะไรกัน พอไปถึงรู้เลยจุดชมวิวไง คือดีมากนี่แค่ชุดชมวิวแรกนะรู้สึกว่าที่ปั่นมาหลายวันนี่คุ้มแล้ว เราก็ยืนอู้กันอยู่ซักพักใหญ่ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ พอลองซูมกล้องดูโอ้โห สะพานนี้ปั่นข้างบนเลยฮะ นึกว่าจะเจอลูกกรงใต้สะพานแบบเมื่อวานซะอีก ไปๆๆ ลองไปดูกันๆ
ตอนแรกก็นึกว่าจะใกล้ถึงแล้วใช่ปะ ยังๆนี่ต้องมาเข้าซอกแคบอีก ไม่รู้เขาจะพาเราวกไปไหน หรือมาผิดแต่ไม่น่าจะใช่ตามลุงมา ลุงเชื่อใจได้ ช่วงนี้ต้องระวังหน่อยนะมีสายซิ่งไหลลงมาเยอะแบบไม่เบรค แบบกลุ่มพี่แกมันส์มากเราต้องหลบเองนะ
พ้นโค้งนี้มาถึงยอดแล้ว ขึ้นถึงนี่โหววว เข้าใจแล้วทำไมนักปั่นทั่วโลกถึงยกให้ที่นี่เป็นสวรรค์ของนักปั่นจักรยาน นี่สินะ ขนาดเราพึ่งออกมาได้เกาะเดียวยังเด็ดขนาดนี้ตื่นเต้นมากๆว่าจะได้เจออะไรอีก
ด้วยความที่เป็นสะพานข้ามระหว่างเกาะที่ 2 ทำให้นักปั่นยังอุ่นหนาฝาคั่งมากๆ มีทั้งแบบมาเดี่ยว มาเป็นครอบครัว มาเป็นทีม มาเป็นคู่ ถ้าที่ไทยจะหาดูแบบนี้ต้องไปสนามเขียวเท่านั้นเลยนะ
กำลังนึกถึงสนามเขียวที่ไทยที่ตอนนี้เป็นสนามฟ้า แต่จริงๆก็ยังไม่เคยไปบ้านเราไกล ปั่นริมทะเลเอาเหมือนๆกันมั้ง เราก็เจอทางลงสีเขียว หลังจากที่เราขึ้นยึกยักมากันก็ได้เวลาลงยึกยักแล้วๆ พร้อมหันกลับไปมองบอกลาสะพานที่ช่วยพาเราข้ามมาอีกฝั่งด้วยนะ บายจ้า
ลงถึงแล้ว 5555 หักมุมมาก ไหลยาวลืมถ่ายรูป มันส์เกินไปเข้าใจแล้วทำไมลุงๆที่ลงเป็นกลุ่มๆถึงขบฟันกัดฟันกันอย่างเมามันส์แว้บเดียวถึงพื้นเลยยังไม่ทันหายสนุก ลงมาเลี้ยวซ้ายเลยนะ เลียบทะเลเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ล่าแสงเหนือ Day 7 : Senja Island
เมื่อวานกว่าจะเข้าบ้านได้ก็มืดแล้ว ทำอาหารเย็นกิน นั่งเมาท์มอย บวกกับฝนตกไม่มีทีท่าว่าจะซา ลมแรง เสียงลมชนบ้านน่ากลัวมาก การล่าแสงเหนือของเมื่อคืน ก็เลยตกไป เช้
ป้าชอบเที่ยว
ปั่นจักรยานจากโอโนมิจิไปอิมาบาริ
พอดีช่วงปลายเดือนที่แล้วผมมีโอกาสได้ไปปั่นจักรยานที่ญี่ปุ่นเส้นทางหกเกาะหกสะพานในจังหวัดฮิโรชิม่าเริ่มต้นจากเมืองโอโนมิจิไปจบที่เมืองอิมาบาริครับ เลยเอาภาพและประสบการณ์มาฝากกัน เริ่มต้นผมนั่งรถไฟจากโอ
สมาชิกหมายเลข 1942788
KOH GOOD เอ้ย KOH KOOD เกาะกูด มันกู๊ดมาก
เอาจริง ๆ การไปเกาะกูดครั้งนี้ ก็ถือเป็นครั้งที่ 3 ของเรานะ แต่ครั้งนี้... เป็นการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง อย่างสุดคุ้ม แต่นั่นแหละขนาดว่าครั้งนี้ว่าสุดคุ้ม
สมาชิกหมายเลข 8539564
เปิดฤดูท่องเที่ยวสู่วันฟ้างามทะเลครามที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน แก้วนพเก้าแห่งอันดามัน
เข้าสู่ช่วงปลายปีต่อเนื่องต้นปีถัดไปเป็นช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยวทะเลไทยฝั่งอันดามันที่เริ่มทะยอยเปิดตัวหลายแห่งตลอดแนวชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันตก ผมเลือกที่จะหวนกลับไปเยือนอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิม
3KKK
ปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเกาะของประเทศไทยที่ไหนบ้างที่สามารถนำรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ไปได้เลย
ทั้งแบบไปทางแพขนานยนต์หรือมีสะพานให้ขับขี่ไปได้เลยแบบไม่ต้องนั่งเรือลงเกาะ ไม่แน่ใจว่างงกับคำถามหรือเปล่านะเช่นเหมือนเราไปเกาะภูเก็ตมันก็จะไปทางสะพานสารสินที่เชื่อมระหว่างพังงากับภูเก็ต (ไม่นับเกาะยิ
ขอฝันใฝ่ ในฝัน อันเหลือเชื่อ
อยากได้ข้อมูลMOU44..ในมุมอื่นมั่ง
ว่าจะไม่ตั้งทู้เกี่ยวกับเกาะกูดละ...ดันไปสะดุดตอนอ่านเม้นท์อยู่2อัน อันนึงก็ว่าเกาะกูดเป็นของไทย100%คนในพันทิปไม่โห้ว อีกอันก็ท่องเป็นนกขุนทองว่า เป็นนิทานของสลิ่ม เอาหล่ะ...สนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศษปีพ
สมาชิกหมายเลข 8531807
เราผิดไหมที่เกือบจะชนเด็ก?
เหตุการณ์คือวันนั้นเราต้องไปทำงานอยู่บ้านเพื่อนเลยปั่นจักรยานไปเพราะเราขับรถไม่เป็นซึ่งคือเรากับเพื่อนอยู่ในเขตชุมชนนะคะ พอทำงานเสร็จเรากำลังจะปั่นจักรยานกลับกับเพื่อนอีกคน คือเราเห็นข้างหน้าแล้วว่ามี
สมาชิกหมายเลข 8538371
ทริปปั่นเที่ยวทะเลใต้-เกาะสิเหร่ จ.ภูเก็ต
วันหยุดสุดสัปดาห์ กับเหล่าผองเพื่อนชาวจักรยาน นัดทริปปั่นใกล้ๆ จากในตัวเมืองภูเก็ต ไปกลับเกาะสิเหร่ แค่ปั่นข้ามสะพาน ข้ามคลองท่าจีน ก็ถึงเกาะแล้วคะ บนเกาะมีเนื้อที่แค่ประมาณ 20 ตารางกิโลเมตร ระยะทางกา
NaNa & Palmy
[ตอนที่1] ปั่นจักรยาน 861 โล รอบทะเลญี่ปุ่น ออกล่าสมบัติโจรสลัดกัน
เริ่มเรื่องเลย พวกเราเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่เกียวโต ปกติงานอดิเรกคือ การเดินทางไปเยี่ยมเยือนที่ต่างๆในเมือง และรอบๆเมืองด้วยจักรยาน ปกติจะเป็น ทริปวันเดียว เช้าไปเย็นกลับ เกียวโต เป็นเมืองที่อำนวยคว
สมาชิกหมายเลข 1013701
รีวิวการ์ตูนปั่นจักรยาน Over drive สุดแรงปั่น สุดยอดการ์ตูนเพิ่มพลังใจ
รีวิวการ์ตูนปั่นจักรยาน Over drive สุดแรงปั่น สุดยอดการ์ตูนเพิ่มพลังใจ ชื่อเรื่อง Over drive สุดแรงปั่น แนวเรื่อง กีฬา ดราม่า จักรยาน ผู้เขียน Tsuyoshi Yasuda ผลงานผู้เขียน Over Drive , The
มนุษย์ถ้ำนักอ่าน
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
Backpack
ภาพถ่าย
เที่ยวญี่ปุ่น
จักรยาน
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 211
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[ตอนที่3] ปั่นจักรยาน 861 โล รอบทะเลญี่ปุ่น มาถึงแล้วเส้นทางมหาสมบัติ Shimanamikaido !!
Part 1 Kyoto - Ako : https://ppantip.com/topic/36337769
Part 2 Ako - Hiroshima : https://ppantip.com/topic/36393934
ส่วนในภาคนี้เส้นทางนี้โดนใจเรามาก เราตั้งใจทำวีดีโอสุดๆ รับชมกันก่อนเลยแล้วกันนะ เห่อๆๆ
เมื่อคืนพวกเรามากางเต้นท์กันที่เกาะ Innoshima (因島) หลังจากกลับมาจาก Hiroshima ตอนเที่ยงคืนกว่าๆ ปั่นกันมืดมาก กว่าจะได้นอนกันจริงๆก็น่าจะตีสอง แล้วที่เด็ดคือ Campsite ที่พวกเราจะไปกันปิดประตูหน้า เราต้องหาทางเข้ากันเลยมาประตูหลัง แล้วก็มาจบที่เนินเล็กๆริมหาดที่มีสิ่งก่อสร้างแปลกๆนี้ เมื่อคืนดูอะไรไม่รู้เรื่องเลย กางเต้นท์นอนๆไป
ประเด็นคือภายุเข้าฮะ หนาวมากเราปั่นกันเดือนมีนาใช่มะ คือมันควรจะอุ่นขึ้นหน่อยๆแล้วเมื่อคืนติดลบ พวกเรามีถุงนอนกันคนละอัน กับเสื้อผ้าสองชุดใส่ทั้งหมดยังหนาวเลย หลับไปได้ชั่วโมงกว่าๆตีสี่นี่สั่นงั๊กๆๆ จนเราไม่ไหวต้องตื่นมาวิ่งขึ้นลงบันไดแถวนั้นจนฟ้าสาง หลอนก็หลอนนะ โดมอะไรไม่รู้ป่าอะไรไม่รู้ไม่มีไฟ เห็นไฟริบๆก็ที่สะพานแล้วก็เรือที่ล่องไปมา หยุดวิ่งก็ไม่ได้ด้วยไม่งั้นสั่นอีก
พอฟ้าสางสิ่งที่เราได้เห็นทำเอาลืมหนาวไปเลยครับ คือวิวดีมากเห็นสะพานที่เราปั่นมาจาก Mukoujima (向島) แบบที่นั่งแถวหน้าเลย เราเลยหยุดนั่งชิวจนลืมหนาวไปได้ซักพักใหญ่ๆ พอลมเริ่มตีหน้าหนาวอีก แดดไม่ยอมออกด้วยแหละฟ้าครึ้มมาเลย วิ่งต่อเร็วๆๆ
เมื่อคืนขึ้นๆลงๆตรงบันไดนี้แหละฮะ อาคารก็มืดไม่กล้ามองเข้าไปหลับหูหลับตาวิ่งไป จริงๆคือจินตนาการไปต่างๆนาๆว่าเป็นฐานลับไว้ทดลองมนุษย์กลายพันธุ์ หรือแบบบ้านของฆาตรกรโรคจิตที่จับเหยื่อมาขังไว้หรือเปล่า ไม่แน่อาจจะเป็นโรงงานร้านที่เกิดอุบัติเหตุสมัยสงครามโลกจนปิดมาถึงตอนนี้ก็ได้ หลอนไปเยอะมาก 555
จริงๆแล้วที่นี่เป็นออฟฟิสประภาคารเก่าครับ โล่งอกไปภายในจัดเก็บชิ้นส่วนประภาคารไว้มากมายสามารถเกาะกระจกดูได้เหมือนตู้โชว์เลยนะ ของใช้ภายในจะเป็นของจากยุคสงครามโลกจริงๆด้วยแหละแต่เกาะนี้อยู่ไกลจาก Hiroshima เลยยังปลอดภัยจากปรมณูรอดไปๆ
เดินเลยออกมาอีกประมาณ ห้านาทีก็เจออาคารขาวๆที่เห็นเมื่อวาน ประภาคารนี่เองแต่ปิดใช้งานไปแล้วนะเขามีอันใหม่ที่ใหญ่กว่าขาวกว่า เลยถูกทิ้งไปตามยัตถากรรมเสียดายพยายามปีนเข้าไปเปิดประตูแต่ล๊อคไว้แน่นหนาดีมาก อดเอาภาพเด็ดๆมาฝากเลย
เดินลงมาจากหน้าประภาคารอีกห้านาทีมองขึ้นไปจะเห็นเป็นวิวแบบนี้มันคือชายหาดส่วนตัวฮะ น้ำสวยมากใสมาก มีปลาด้วย โหยคือถ้ามาหน้าร้อนจะโดดแล้ว แต่ถ้าโดดตอนนี้เราคงจบแค่นี้หนาวหลับหายไปในสายน้ำแน่ๆ แบบหนาวจังไม่ไหวแล้ว ขอนอนก่อนนะเหมือนในหนัง ดราม่าๆ
สำรวจจนพอใจแล้วสบายใจว่าพวกเราไม่ได้มานอนในที่แปลกๆทั้งคืน ก็กลับขึ้นมาที่เต้นท์สุดที่รักได้เวลาแพคของกลับบนหลังจักรยาน ในระหว่างแพคของนั้นอยู่ดีๆหลังจาก อดินาลีน ในการสำรวจหมดก็ วูบ ฮะ หน้ามืด นั่นไงเมื่อคืนได้นอนจริงๆไม่ถึงสองชั่วโมง ระหว่างเก็บกันเราเลยตัดสินใจไม่ฝืน หาที่นอนแถวๆเกาะ Oshima (大島) ซึ่งเป็นเกาะสุดท้ายก่อนเข้าแผ่นดินใหญ่ดีกว่า อยากนอนบนเกาะอะ เลยหาเรื่องอู้ เอาความเหนื่อยมาอ้าง เอาน่ะขอชิวนิดนึงนะ
เสิช Airbnb เจอบ้านคุณลุงคนนึงชื่อ คุณลุง Akira เรทติ้งดีมากบ้านลุงเป็นบ้านเล็กๆริมทะเล ฟรั่งทั้งหลายบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าลุงชิวและลุงเทพมาก บ้านลุงวิ่งลงหลังบ้านลงทะเลได้เลย อ้าวๆๆ จองสิแต่จะมีห้องว่างมั้ยเนี่ยจองเช้าเข้าเย็นบ้านฮิตขนาดนี้ ลองส่งข้อความหาลุงดูแต่ลุงคงยังไม่ตื่นลุ้นไปก่อนเก็บของแล้วออกเดินทางเถอะ !
กว่าจะเก็บของพร้อมอู้เสร็จก็ ราวๆแปดโมงแล้วนะ โหยเวลาผ่านไปไวมาก เราบอกลากับสะพานและวิวสวยๆกับพื้นที่ส่วนบุคคลชั่วคราวของเราแล้วก็เริ่มปั่นกัน ก่อนจะออกพึ่งเห็นว่าที่เรามานอนทั้งคืนไม่ใช่ Campsite ที่เจอใน googlemap เป็นที่ของราชการด้วย Campsite ปิดไปแล้วเนื่องจากมีคนมาใช้ไม่ถูกวัตถุประสงค์เยอะ แต่เรื่องอะไรเขาไม่บอกอยากรู้มาก บายยยยยย。。。。สะพาน
ออกมาจากอาณาเขต camp site ได้ไม่ถึงจักรยานเพียบมีทุกแบบที่จินตนาการได้จริงๆ หลังจากพึ่งมีเสียงสัญญาณเปิดเส้นทางปั่นคนทะลักเข้ามากันสนุกสนานเลย จริงๆเส้นทางที่เขาเปิดก็ที่เราแอบปั่นขึ้นมาตอนเที่ยงคืนเมื่อวานนั่นแหละ ไม่รู้วันนี้จะโดนใครตามมาจับไหม 555
ปั่นออกมาจากทางลงสะพานที่สุดแสนจะชุกชุมก็เจอเขตชายหาด กว้างมากทรายเนียนมากๆ ฮึ่มถ้าเรามาฤดูร้อนจะกางเสื่อนอนอาบแดดไปแล้ว แต่ปั่นไปๆมาๆอ้าวจักรยานหายไปไหนหมดล่ะ ทางตันไง ออกมาไหนก็ไม่รู้กลับก่อนๆ ปั่นเกาะนี้ไม่ยากหาจักรยานแล้วตามเขาไปฮะ
นี่ไงๆเจอแล้วเกาะนี้สายโหดเพียบนะเห็นแบบนี้แต่ละคนอัดกัน 40-50 วิ่งเป็นเส้นๆเลย อย่างกะ Tour de France แต่ทำเป็นเล่นไปเขามีงานแข่งประจำปีที่นักปั่นสุดโหดจากทั้งประเทศและต่างประเทศมารวมตัวกันอีกด้วยนะ
จริงๆเห็นทั้งทริป เราแทบไม่ใส่หมวกเลยทางปลอดภัยปั่นแยกจากรถได้เลยแขวนไว้ใช่มะ ปกติที่ไทยถ้าใครปั่นจักรยานจะรู้กันเวลาสวนกับนักปั่นด้วยกันทักได้เลยส่วนมากเขาตอบด้วยความยิ้มแยม มาเกาะนี้เจอเหล่านักปั่นสายรัดติ้วเราก็อยากลองว่าจะมีวัฒนธรรมเดียวกับที่ไทยมั้ย ทักสิ “โอฮะโยะ !!”.... กริบ ลุงเย็นชา เอ้าสงสัยคงแค่ลุง ถัดไปเป็นวัยกลางคนลอง “คนนิจิวะ !!” มองเย็นชาอีก ไรอะทำไมเป็นแบบนี้
จนอยู่ดีๆนึกได้หัวโล่ง ทุกคนมีของบนหัวอ้าวๆ ที่ไทยนะใครไม่ใส่หมวกจะโดนดุจากเพื่อนนักปั่นด้วยถือว่าไม่ปลอดภัยมากๆ เราเลยลองหยิบหมวกมาใส่ แค่นั้นแหละเหล่านักปั่นที่สวนๆกันมา ทักเลย 555 หลังจากนั้นก็ทักกันแทบไม่หวั่นไม่ไหว เยอะมาก จนเริ่มเปลี่ยนจากพูดเป็นพยักหน้าแล้วยิ้มแทน ผลสรุปการทดลอง นักปั่นทั้งที่ญี่ปุ่นกับที่ไทย มีวัฒนธรรมเหมือนกันเป๊ะ ทั้งดุคนไม่ใส่หมวก และทักทายเพื่อนนักปั่นด้วยกันอย่างน่ารักน่าชังฮะ
เส้นทางบนเกาะนี้จะตัดผ่านกลางเกาะเลย ผ่านสวนผักสวนปลาสวนหมูมากมาย กลิ่นตีกันคลุ้งมาก ถ้าใครเคยไปแถวสามพราน จะเข้าใจแบบนั้นแหละฮะ ราวๆ 7.5 กิโล ก็เห็นแว้บๆของสะพานที่พาไปเกาะ Ikuchi (生口島) ซึ่งน่าจะเป็นเกาะที่ยาวอันดับต้นๆของเส้นทางนี้
เส้นทางของจักนยานจะถูกแยกอย่างชัดเจนปั่นตามเส้นฟ้ามาเรื่อยๆเลย แต่ขึ้นทางเดียวกับรถไม่ได้นะต้องขึ้นทางยึกยักๆๆๆ หลายตลบมากแต่สนุกนะ เราปั่นมาเรื่อยๆจนลอดใต้สะพานแล้วก็พบทางแคบๆที่จะพาเราขึ้นไป
ทางขึ้นหน้าตาแบบนี้เลย ห้ามรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์เด็ดขาดนะ จักรยานเท่านั้นปั่นไปเรื่อยๆสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้เมื่อไหร่จะถึงซักที แต่เพื่อนปั่นเยอะไม่เป็นไรสนุกๆๆ
มาถึงจุดคนเยอะก็งงเขาหยุดดูอะไรกัน พอไปถึงรู้เลยจุดชมวิวไง คือดีมากนี่แค่ชุดชมวิวแรกนะรู้สึกว่าที่ปั่นมาหลายวันนี่คุ้มแล้ว เราก็ยืนอู้กันอยู่ซักพักใหญ่ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ พอลองซูมกล้องดูโอ้โห สะพานนี้ปั่นข้างบนเลยฮะ นึกว่าจะเจอลูกกรงใต้สะพานแบบเมื่อวานซะอีก ไปๆๆ ลองไปดูกันๆ
ตอนแรกก็นึกว่าจะใกล้ถึงแล้วใช่ปะ ยังๆนี่ต้องมาเข้าซอกแคบอีก ไม่รู้เขาจะพาเราวกไปไหน หรือมาผิดแต่ไม่น่าจะใช่ตามลุงมา ลุงเชื่อใจได้ ช่วงนี้ต้องระวังหน่อยนะมีสายซิ่งไหลลงมาเยอะแบบไม่เบรค แบบกลุ่มพี่แกมันส์มากเราต้องหลบเองนะพ้นโค้งนี้มาถึงยอดแล้ว ขึ้นถึงนี่โหววว เข้าใจแล้วทำไมนักปั่นทั่วโลกถึงยกให้ที่นี่เป็นสวรรค์ของนักปั่นจักรยาน นี่สินะ ขนาดเราพึ่งออกมาได้เกาะเดียวยังเด็ดขนาดนี้ตื่นเต้นมากๆว่าจะได้เจออะไรอีก
ด้วยความที่เป็นสะพานข้ามระหว่างเกาะที่ 2 ทำให้นักปั่นยังอุ่นหนาฝาคั่งมากๆ มีทั้งแบบมาเดี่ยว มาเป็นครอบครัว มาเป็นทีม มาเป็นคู่ ถ้าที่ไทยจะหาดูแบบนี้ต้องไปสนามเขียวเท่านั้นเลยนะ
กำลังนึกถึงสนามเขียวที่ไทยที่ตอนนี้เป็นสนามฟ้า แต่จริงๆก็ยังไม่เคยไปบ้านเราไกล ปั่นริมทะเลเอาเหมือนๆกันมั้ง เราก็เจอทางลงสีเขียว หลังจากที่เราขึ้นยึกยักมากันก็ได้เวลาลงยึกยักแล้วๆ พร้อมหันกลับไปมองบอกลาสะพานที่ช่วยพาเราข้ามมาอีกฝั่งด้วยนะ บายจ้า
ลงถึงแล้ว 5555 หักมุมมาก ไหลยาวลืมถ่ายรูป มันส์เกินไปเข้าใจแล้วทำไมลุงๆที่ลงเป็นกลุ่มๆถึงขบฟันกัดฟันกันอย่างเมามันส์แว้บเดียวถึงพื้นเลยยังไม่ทันหายสนุก ลงมาเลี้ยวซ้ายเลยนะ เลียบทะเลเลย