What's been down?!
มาต่อกับแกรมมาร์ที่เจอบ่อยในข้อสอบพาร์ท 2 เลย จะได้ไม่ขาดตอนน!
(พาร์ท 1:
https://ppantip.com/topic/36603080)
พาร์ทนี้อาจจะแน่นกว่าตอนที่แล้วหน่อย (จริง ๆ ก็ไม่หน่อยอ่ะ ยาวมากก 55555)
สาเหตุเพราะเรื่องที่นึกออกตอนเขียน ดันนึกออกแต่เรื่องที่ต้องอธิบายยาว ๆ ซะนี่
แต่ผมก็พยายามย่อยให้มากที่สุดแล้ว เพื่อน ๆ อาจต้องแบ่งเวลาอ่านหน่อยถ้าใครไม่ชอบอ่านอะไรยาว ๆ
ผมจะพยายามทำให้ได้พาร์ทละ 10 ข้อนะ แม้แต่ละข้อจะยาวมากก็ตาม T T 5555
ไปดูกันเลยว่ามุกอะไรที่นักออกข้อสอบเขาชอบเล่นกันน!!
1.
มี Do / Does / Did มาแล้ว Verb ไม่ต้องผัน
เวิร์บที่อยู่ในประโยคคำถามที่มี Do / does / did จะไม่ผันตามเทนส์ใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับ อย่าโดนข้อสอบหลอกนะ
เช่น Does he
knows Jane?
แบบนี้ผิดนะครับ มี Does แล้ว เวิร์บ know ไม่ต้องเติม s แล้ว สาเหตุเพราะว่า does มันบอกความเป็น present simple ไปแล้ว
ดังนั้นที่ถูกต้องคือ Does he
know Jane? นั่นเอง
Did ก็เช่นครับคำ ตัว did เองบอกความเป็น past simple แล้ว เวิร์บในประโยคนั่นก็ไม่ต้องผันแล้วครับ
เช่น Did Glenn
died?
แบบนี้ผิดเพราะในประโยคมี did อยู่แล้ว died จึงไม่จำเป็นต้องผันเป็นช่อง 2 แล้วเนาะ ดังนั้นแก้ให้ถูกก็คือ Did Glenn
die? นั่นเองจ้า
เพิ่มเติม
ในประโยคคำถามที่เป็น present simple ถ้าประธานเป็น
, she, it ให้ใช้ does ขึ้นต้นนะครับ
เช่น
Does he
like Negan? เขาชอบนีแกนมั้ย (ไม่ใช่
Do he
likes Negan? และก็ไม่ได้
Does he
likes Negan? นะครับ)
Does Negan
love you like I do? นีแกนรักเธอเหมือนฉันมั้ย (ไม่ใช่
Do Negan
loves you? หรือ
Does Negan
loves you?)
2.
Neither: ไม่ ไม่ ไม่ และก็ไม่!
Neither จะมาคู่กับ nor ในประโยคที่บอกว่า 'ไม่.... และก็ไม่...'
เช่น
Neither Glenn
nor Abraham made it. ทั้งเกลนน์และฮับราฮัมไม่รอดสักหลาย
(ถ้าเราพยายามแปลแบบฝรั่งมันจะงงมาก ๆ ครับ มันจะแปลประมาณว่า 'ไม่ใช่ทั้งเกลน์และไม่ทั้งอับราฮัมที่รอดชีวิต'
เราเลยต้องแปลเป็นไทยง่าย ๆ ว่า ไม่รอดทั้งเกลน์และฮับราฮัม ก็ได้ครับ = ก็คือตายทั้งสองนั่นเอง)
ตัวอย่างเพิ่มเติม
Neither you
nor I know who's gonna die next. ทั้งฉันและนายก็ไม่รู้ว่าใครจะตายคนต่อไป
ไหน ๆ ก็ neither ไปแล้ว ก็มาต่อที่ either ด้วยเลย
Either ... or ... จะแปลว่า ไม่... ก็ .... (ก็คือ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งนั่นเอง)
เช่น
You
either win
or lose. ไม่แพ้ก็ชนะละวะ
Either Rick
or Negan will survive. ไม่ริคก็นีแกนนี่แหละที่จะรอด (ไม่ใครก็ใคร!)
ที่นี่เรามาดูในเรื่อง การแสดงความเห็นด้วย กันบ้าง
Neither do I ใช้ในประโยคเพื่อบอกว่า '
ฉันก็ไม่เช่นกัน'
เช่นคนแรกบอก I
don't like zombies. ฉันไม่ชอบซอบบี้
อีกคนก็ตอบมาว่า
Neither do I. ก็แปลว่า ฉันก็ไม่ชอบเช่นกันน (หรือจะใช้
Nor do I ก็ได้ครับ)
เราจะไม่ตอบ So do I เพราะว่าประโยค I don't like zombies มันมาเป็นประโยคปฎิเสธ (negative) เลยต้องใช้ Neither do I!
ตัวอย่างเพิ่มเติม
สมชาย: I
can't believe Glenn died! ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าเกลน์ตายย (ขอขยี้หน่อย 555)
สมหมาย:
Neither can I. ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน (หรือ Nor can I)
สมปอง: I
don't think Negan is a bad guy. ฉันไม่คิดว่านีแกนเป็นคนไม่ดีนะ (ก็คือฉันคิดว่านีแกนเป็นคนดีนะแหละ 555)
สมศักดิ์:
Neither do I. ฉันก็ไม่คิดงั้น (ก็คือฉันเห็นด้วยนั่นเองง) (หรือ Nor do I)
และที่สำคัญเราจะไม่บอกว่า I
don't like it
too หรือ I
also don't like it. ด้วยครับ
เราต้องบอกว่า I
don't like it
either.
สังเกตว่าประโยคแบบนี้จะใช้ either นะ ไม่ใช่ neither แม้จะแปลว่า ฉันก็ไม่เช่นกัน เหมือนข้างบนก็ตาม ก็ไม่ต้องสงสัยครับ มันก็แปลว่า
ฉันก็ไม่ชอบมันเหมือนกัน เหมือนกันนะแหละครับ
เพียงแต่ถ้าใช้ too หรือ neither ในประโยคแบบนี้ แล้วมันผิดหลักแกรมมาร์แค่นั่นเอง
ตัวอย่างเพิ่มเติม
I don't like William Martin. ฉันไม่ชอบวิลเลี่ยม มาร์ติน
I
don't like him
either. ฉันก็ไม่ชอบเขาเหมือนกัน (ไม่พูดว่า I don't like him too. หรือ I also don't like him)
I
don't know why he is so angry. ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาอารมณ์เสียขนาดนั้น
I
don't know it
either. ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
สุดท้ายก็คือเรื่อง
either of them และ
neither of them
เราจะพูดว่า I
don't like
either of them. ฉัน
ไม่ชอบทั้งสองนั่นแหละ (ไม่ใช่ I don't like both of them)
หรือจะพูดอีกแบบว่า I like
neither of them. ก็ยังแปลว่า ฉันไม่ชอบทั้งสอง เหมือนกันครับ
สังเกตว่าถ้ามี don't จะใช้ either แต่ถ้าจะใช้ neither ก็ไม่ต้องมี don't นะ
เราสามารถพูดว่า Neither of them came. ทั้งสองไม่มีใครมา หรือ พวกเขาไม่มาทั้งสองคน (ไม่พูดว่า Both of them didn't come)
ทั้ง either of them และ neither of them ก็แปลว่า '
ไม่ทั้งสอง' เพียงแต่ถ้าในประโยคมี not แล้ว (เช่น do
n't, did
n't, does
n't) ให้ใช้ either แค่นั้นเอง
ลองทำ Exercise ดู (รวมทั้งหมดเลยนะ)
1) Doesn't he like _____ of them? เขาไม่ชอบทั้งสองเลยเหรอ
a) either
b) neither
2) I don't think Jon will like it ______. ฉันไม่คิดว่าจอนจะชอบมันเหมือนกัน
a) either
b) neither
3) I don't understand why Glenn had to die. ฉันไม่เข้าใจเลยทำไมเกลนน์ต้องตายด้วย
a) Neither do I.
b) So do I.
4) If ____ of you come, I'll be so mad. ถ้าเธอไม่มาทั้งสองคน ฉันจะโกรธมาก
a) either
b) neither
5) This is your last chance. You ____ take it ____ leave. นี่โอกาสสุดท้ายของนายแล้ว รับมันไว้ไม่ก็ไปซะ
a) either... or
b) neither... nor
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คำตอบ a, a, a, b, a
3.
Verb + gerund / to infinitive
อันดับแรกต้องอธิบายก่อนว่า Gerund คือ verb ที่เอามาเติม -ing และกลายเป็นคำนาม ซึ่งเพราะเป็น gerund เราก็จะเอาไปใช้เป็นประธานหรือเป็นกรรมของประโยคนั่นเอง
เวลาแปลไทยก็เติมคำว่า การ... ไปไว้ข้างหน้า
เช่น Run วิ่ง แต่ running = การวิ่ง
Work ทำงาน แต่ working = การทำงาน
ส่วน to infinitive คือ verb ที่เติม to ข้างหน้า จะบอกว่ามันทำหน้าที่เป็น adverb ก็ได้นะ เพราะมันขยายเวิร์บ
เวลาแปลว่าก็จะเติม ที่จะ... หรือเพื่อจะ... ไว้ข้างหน้า
เช่น Want ต้องการ แต่ Want to go = ต้องการที่จะไป
Decide ตัดสินใจ แต่ Decide to leave = ตัดสินใจที่จะออกไป
ทีนี้มุกที่ผู้ออกข้อสอบชอบเล่นคือ verb บางตัวต้องตามด้วย gerund เท่านั้น ในขณะที่ verb บางตัวต้องตามด้วย to infinitive เท่านั้น
แต่บางตัวก็ตามได้ทั้งสองอย่างเลย แต่ความหมายจะคนจะอย่างกัน!
มาดูไปทีละอย่างครับ
Verb ที่ต้องตามด้วย gerund เช่น consider, enjoy, keep, avoid, mind, look forward to
I'm
considering moving to Alexandria. ฉันกำลังคิดเรื่องย้ายไปอยู่อเล็กแซนเดีย (ไม่ใช่ consider to move)
He
considered joining the Savior, but he didn't. เขานั่งคิดนอนคิดว่าจะเขาร่วมกับพวกเซฟเยอร์ดีมั้ย แต่สุดท้ายก็ไม่เข้า (ไม่ใช่ consider to join)
I
look forward to seeing you again. ผมหวังว่าจะได้เจอคุณอีกนะ
Verb ที่ต้องตามด้วย to infinitive เช่น decide, hope, refuse, arrange
He
decided to leave. เขาตัดสินใจจะไป
I
hope to see you again. หวังว่าจะได้เจอเธออีกนะ
We
arranged to meet on a regular basis. เรานัดกันมาเจอที่เดิม
ส่วน verb ที่สามารถตามด้วยทั้ง gerund และ to infinitive แต่ความหมายจะต่างกัน เช่น stop
I
stopped smoking years a ago. ฉันหยุด
สูบบุหรี่มานานแล้ว
He
stopped to ask the police about the direction. เขาหยุด
เพื่อที่จะถามทางตำรวจ
Exercise
1) She doesn't mind ______(work) the night shift.
2) He agreed _______(buy) a new car.
3) I look forward to _______(see) you at the weekend.
4) I can't imagine Negan ________(forget) Lucille.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คำตอบ working, to buy, seeing, forgetting
4.
Word order: What time is it? แต่ I want to know what time it is!
ในประโยคคำถาม verb จะมาก่อนประธาน
เช่น
Who
is he?
What
is love?
What time
is it?
แต่ในประโยคบอกเล่าประธานต้องมาก่อน verb
เช่น
I don't care who
he is! ฉันไม่สนหรอกว่าเขาเป็นใคร
I know what
love is. ฉันรู้น่าว่าความรักคืออะไร
Please tell me what time
it is. บอกผมหน่อยว่าตอนนี้กี่โมง
แต่บางทีนักออกข้อสอบเขาก็สรรหาโครงสร้างประโยคมาหลอกเรา!
เช่น Can you tell me what time
it is?
เป็นคำถามก็จริงอยู่ แต่ไม่ได้ถามว่ากี่โมง เขาถามว่า Can you tell me? บอกฉันได้มั้ย
ตรง What time it is จึงเรียงแบบประโยคบอกเล่า (ไม่ใช่ what time is it?)
ลองทำ exercise ดู
1) I don't know how far _______.
a) is it
b) it is
2) How far _______?
a) is it
b) it is
3) ______ good?
a) is it
b) it is
4) I hope ______ good.
a) is it
b) it is
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คำตอบ b, a, a, b
5.
You should better see a doctor. หรือ You had better see a doctor.
ที่ถูกต้องคือ You had better see a doctor.
เวลาจะบอกว่า
ฉันไปดีกว่า หรือ
นายควรไปคุยกับเธอดีกว่านะ
เราจะใช้ had better นะครับ และมักจะย่อเหลือ 'd better (แม้ว่ามันฟังดูเหมือนควรจะเป็น should better ซะมากกว่า 5555)
I had better go. You had better talk to her.
แม้กฎของ perfect tense จะบอกว่า
verb ที่ตามหลัง have/has/had ต้องเป็น เวิร์บช่อง 3 (past participle)
แต่ประโยคแบบนี้ถือเป็นข้อยกเว้นจ้าา
ตัวอย่างเช่น
You
'd better hurry up. นายรีบหน่อยก็ดีนะ
You
had better take an umbrella. It's raining. เธอเอาร่วมไปด้วยดีกว่านะ ฝนมันตก
We
'd better go. The police will b
any minute. รีบไปดีกว่า เดี๋ยวตำรวจก็แห่มา (ที่เป็นเครื่องหมายหน้า คือคำว่า be และคำว่า here นะครับ คือพันทิปคงคิดว่าเป็นคำว่า Eเฮีย มั้ง โอ้ยน้ออ)
นอกจากนี้เราสามารถเติม not หลัง had better ก็ได้ด้วย จะแปลว่า ไม่...จะดีกว่า
หรือแปลให้เข้าใจง่าย ๆ กว่านั้นคือ ไม่ควร หรือ อย่า นั่นแหละครับ
เช่น
You
'd better not miss the last train. นายอย่าพลาดรถไฟเที่ยวสุดท้ายนะเฟ้ย
Everybody hates you so you
'd better not show up at the party! ทุกคนเขาเกลียดนายหมด ดังนั้นอย่ามาที่ปาร์ตี้จะดีกว่านะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าเราใช้ should ก็ห้ามมี better นะครับ
We'
d better tell him the truth.
หรือ We
should tell him the truth.
เลือกใช้แบบใดแบบหนึ่ง
ข้อ 6 - 10 ต่อในเมนต์ที่ 1 นะครับ
พิมพ์ผิด หรืออธิบายผิดตรงไหน รบกวนคอมเมนต์ไว้ใต้เมนต์ที่ 1 เลยนะครับบ ผมจะได้หาง่าย ๆ กลัวไม่ได้อ่านแล้วลืมแก้
สอบยังไงให้ได้เต็ม! รวมแกรมมาร์ที่เจอบ่อยในข้อสอบ (TOEIC, GAT, CU-TEP etc.) (Part 2)
มาต่อกับแกรมมาร์ที่เจอบ่อยในข้อสอบพาร์ท 2 เลย จะได้ไม่ขาดตอนน!
(พาร์ท 1: https://ppantip.com/topic/36603080)
พาร์ทนี้อาจจะแน่นกว่าตอนที่แล้วหน่อย (จริง ๆ ก็ไม่หน่อยอ่ะ ยาวมากก 55555)
สาเหตุเพราะเรื่องที่นึกออกตอนเขียน ดันนึกออกแต่เรื่องที่ต้องอธิบายยาว ๆ ซะนี่
แต่ผมก็พยายามย่อยให้มากที่สุดแล้ว เพื่อน ๆ อาจต้องแบ่งเวลาอ่านหน่อยถ้าใครไม่ชอบอ่านอะไรยาว ๆ
ผมจะพยายามทำให้ได้พาร์ทละ 10 ข้อนะ แม้แต่ละข้อจะยาวมากก็ตาม T T 5555
ไปดูกันเลยว่ามุกอะไรที่นักออกข้อสอบเขาชอบเล่นกันน!!
1. มี Do / Does / Did มาแล้ว Verb ไม่ต้องผัน
เวิร์บที่อยู่ในประโยคคำถามที่มี Do / does / did จะไม่ผันตามเทนส์ใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับ อย่าโดนข้อสอบหลอกนะ
เช่น Does he knows Jane?
แบบนี้ผิดนะครับ มี Does แล้ว เวิร์บ know ไม่ต้องเติม s แล้ว สาเหตุเพราะว่า does มันบอกความเป็น present simple ไปแล้ว
ดังนั้นที่ถูกต้องคือ Does he know Jane? นั่นเอง
Did ก็เช่นครับคำ ตัว did เองบอกความเป็น past simple แล้ว เวิร์บในประโยคนั่นก็ไม่ต้องผันแล้วครับ
เช่น Did Glenn died?
แบบนี้ผิดเพราะในประโยคมี did อยู่แล้ว died จึงไม่จำเป็นต้องผันเป็นช่อง 2 แล้วเนาะ ดังนั้นแก้ให้ถูกก็คือ Did Glenn die? นั่นเองจ้า
เพิ่มเติม
ในประโยคคำถามที่เป็น present simple ถ้าประธานเป็น , she, it ให้ใช้ does ขึ้นต้นนะครับ
เช่น Does he like Negan? เขาชอบนีแกนมั้ย (ไม่ใช่ Do he likes Negan? และก็ไม่ได้ Does he likes Negan? นะครับ)
Does Negan love you like I do? นีแกนรักเธอเหมือนฉันมั้ย (ไม่ใช่ Do Negan loves you? หรือ Does Negan loves you?)
2. Neither: ไม่ ไม่ ไม่ และก็ไม่!
Neither จะมาคู่กับ nor ในประโยคที่บอกว่า 'ไม่.... และก็ไม่...'
เช่น Neither Glenn nor Abraham made it. ทั้งเกลนน์และฮับราฮัมไม่รอดสักหลาย
(ถ้าเราพยายามแปลแบบฝรั่งมันจะงงมาก ๆ ครับ มันจะแปลประมาณว่า 'ไม่ใช่ทั้งเกลน์และไม่ทั้งอับราฮัมที่รอดชีวิต'
เราเลยต้องแปลเป็นไทยง่าย ๆ ว่า ไม่รอดทั้งเกลน์และฮับราฮัม ก็ได้ครับ = ก็คือตายทั้งสองนั่นเอง)
ตัวอย่างเพิ่มเติม
Neither you nor I know who's gonna die next. ทั้งฉันและนายก็ไม่รู้ว่าใครจะตายคนต่อไป
ไหน ๆ ก็ neither ไปแล้ว ก็มาต่อที่ either ด้วยเลย
Either ... or ... จะแปลว่า ไม่... ก็ .... (ก็คือ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งนั่นเอง)
เช่น
You either win or lose. ไม่แพ้ก็ชนะละวะ
Either Rick or Negan will survive. ไม่ริคก็นีแกนนี่แหละที่จะรอด (ไม่ใครก็ใคร!)
ที่นี่เรามาดูในเรื่อง การแสดงความเห็นด้วย กันบ้าง
Neither do I ใช้ในประโยคเพื่อบอกว่า 'ฉันก็ไม่เช่นกัน'
เช่นคนแรกบอก I don't like zombies. ฉันไม่ชอบซอบบี้
อีกคนก็ตอบมาว่า Neither do I. ก็แปลว่า ฉันก็ไม่ชอบเช่นกันน (หรือจะใช้ Nor do I ก็ได้ครับ)
เราจะไม่ตอบ So do I เพราะว่าประโยค I don't like zombies มันมาเป็นประโยคปฎิเสธ (negative) เลยต้องใช้ Neither do I!
ตัวอย่างเพิ่มเติม
สมชาย: I can't believe Glenn died! ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าเกลน์ตายย (ขอขยี้หน่อย 555)
สมหมาย: Neither can I. ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน (หรือ Nor can I)
สมปอง: I don't think Negan is a bad guy. ฉันไม่คิดว่านีแกนเป็นคนไม่ดีนะ (ก็คือฉันคิดว่านีแกนเป็นคนดีนะแหละ 555)
สมศักดิ์: Neither do I. ฉันก็ไม่คิดงั้น (ก็คือฉันเห็นด้วยนั่นเองง) (หรือ Nor do I)
และที่สำคัญเราจะไม่บอกว่า I don't like it too หรือ I also don't like it. ด้วยครับ
เราต้องบอกว่า I don't like it either.
สังเกตว่าประโยคแบบนี้จะใช้ either นะ ไม่ใช่ neither แม้จะแปลว่า ฉันก็ไม่เช่นกัน เหมือนข้างบนก็ตาม ก็ไม่ต้องสงสัยครับ มันก็แปลว่า ฉันก็ไม่ชอบมันเหมือนกัน เหมือนกันนะแหละครับ
เพียงแต่ถ้าใช้ too หรือ neither ในประโยคแบบนี้ แล้วมันผิดหลักแกรมมาร์แค่นั่นเอง
ตัวอย่างเพิ่มเติม
I don't like William Martin. ฉันไม่ชอบวิลเลี่ยม มาร์ติน
I don't like him either. ฉันก็ไม่ชอบเขาเหมือนกัน (ไม่พูดว่า I don't like him too. หรือ I also don't like him)
I don't know why he is so angry. ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาอารมณ์เสียขนาดนั้น
I don't know it either. ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
สุดท้ายก็คือเรื่อง either of them และ neither of them
เราจะพูดว่า I don't like either of them. ฉันไม่ชอบทั้งสองนั่นแหละ (ไม่ใช่ I don't like both of them)
หรือจะพูดอีกแบบว่า I like neither of them. ก็ยังแปลว่า ฉันไม่ชอบทั้งสอง เหมือนกันครับ
สังเกตว่าถ้ามี don't จะใช้ either แต่ถ้าจะใช้ neither ก็ไม่ต้องมี don't นะ
เราสามารถพูดว่า Neither of them came. ทั้งสองไม่มีใครมา หรือ พวกเขาไม่มาทั้งสองคน (ไม่พูดว่า Both of them didn't come)
ทั้ง either of them และ neither of them ก็แปลว่า 'ไม่ทั้งสอง' เพียงแต่ถ้าในประโยคมี not แล้ว (เช่น don't, didn't, doesn't) ให้ใช้ either แค่นั้นเอง
ลองทำ Exercise ดู (รวมทั้งหมดเลยนะ)
1) Doesn't he like _____ of them? เขาไม่ชอบทั้งสองเลยเหรอ
a) either
b) neither
2) I don't think Jon will like it ______. ฉันไม่คิดว่าจอนจะชอบมันเหมือนกัน
a) either
b) neither
3) I don't understand why Glenn had to die. ฉันไม่เข้าใจเลยทำไมเกลนน์ต้องตายด้วย
a) Neither do I.
b) So do I.
4) If ____ of you come, I'll be so mad. ถ้าเธอไม่มาทั้งสองคน ฉันจะโกรธมาก
a) either
b) neither
5) This is your last chance. You ____ take it ____ leave. นี่โอกาสสุดท้ายของนายแล้ว รับมันไว้ไม่ก็ไปซะ
a) either... or
b) neither... nor
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. Verb + gerund / to infinitive
อันดับแรกต้องอธิบายก่อนว่า Gerund คือ verb ที่เอามาเติม -ing และกลายเป็นคำนาม ซึ่งเพราะเป็น gerund เราก็จะเอาไปใช้เป็นประธานหรือเป็นกรรมของประโยคนั่นเอง
เวลาแปลไทยก็เติมคำว่า การ... ไปไว้ข้างหน้า
เช่น Run วิ่ง แต่ running = การวิ่ง
Work ทำงาน แต่ working = การทำงาน
ส่วน to infinitive คือ verb ที่เติม to ข้างหน้า จะบอกว่ามันทำหน้าที่เป็น adverb ก็ได้นะ เพราะมันขยายเวิร์บ
เวลาแปลว่าก็จะเติม ที่จะ... หรือเพื่อจะ... ไว้ข้างหน้า
เช่น Want ต้องการ แต่ Want to go = ต้องการที่จะไป
Decide ตัดสินใจ แต่ Decide to leave = ตัดสินใจที่จะออกไป
ทีนี้มุกที่ผู้ออกข้อสอบชอบเล่นคือ verb บางตัวต้องตามด้วย gerund เท่านั้น ในขณะที่ verb บางตัวต้องตามด้วย to infinitive เท่านั้น
แต่บางตัวก็ตามได้ทั้งสองอย่างเลย แต่ความหมายจะคนจะอย่างกัน!
มาดูไปทีละอย่างครับ
Verb ที่ต้องตามด้วย gerund เช่น consider, enjoy, keep, avoid, mind, look forward to
I'm considering moving to Alexandria. ฉันกำลังคิดเรื่องย้ายไปอยู่อเล็กแซนเดีย (ไม่ใช่ consider to move)
He considered joining the Savior, but he didn't. เขานั่งคิดนอนคิดว่าจะเขาร่วมกับพวกเซฟเยอร์ดีมั้ย แต่สุดท้ายก็ไม่เข้า (ไม่ใช่ consider to join)
I look forward to seeing you again. ผมหวังว่าจะได้เจอคุณอีกนะ
Verb ที่ต้องตามด้วย to infinitive เช่น decide, hope, refuse, arrange
He decided to leave. เขาตัดสินใจจะไป
I hope to see you again. หวังว่าจะได้เจอเธออีกนะ
We arranged to meet on a regular basis. เรานัดกันมาเจอที่เดิม
ส่วน verb ที่สามารถตามด้วยทั้ง gerund และ to infinitive แต่ความหมายจะต่างกัน เช่น stop
I stopped smoking years a ago. ฉันหยุดสูบบุหรี่มานานแล้ว
He stopped to ask the police about the direction. เขาหยุดเพื่อที่จะถามทางตำรวจ
Exercise
1) She doesn't mind ______(work) the night shift.
2) He agreed _______(buy) a new car.
3) I look forward to _______(see) you at the weekend.
4) I can't imagine Negan ________(forget) Lucille.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. Word order: What time is it? แต่ I want to know what time it is!
ในประโยคคำถาม verb จะมาก่อนประธาน
เช่น
Who is he?
What is love?
What time is it?
แต่ในประโยคบอกเล่าประธานต้องมาก่อน verb
เช่น
I don't care who he is! ฉันไม่สนหรอกว่าเขาเป็นใคร
I know what love is. ฉันรู้น่าว่าความรักคืออะไร
Please tell me what time it is. บอกผมหน่อยว่าตอนนี้กี่โมง
แต่บางทีนักออกข้อสอบเขาก็สรรหาโครงสร้างประโยคมาหลอกเรา!
เช่น Can you tell me what time it is?
เป็นคำถามก็จริงอยู่ แต่ไม่ได้ถามว่ากี่โมง เขาถามว่า Can you tell me? บอกฉันได้มั้ย
ตรง What time it is จึงเรียงแบบประโยคบอกเล่า (ไม่ใช่ what time is it?)
ลองทำ exercise ดู
1) I don't know how far _______.
a) is it
b) it is
2) How far _______?
a) is it
b) it is
3) ______ good?
a) is it
b) it is
4) I hope ______ good.
a) is it
b) it is
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. You should better see a doctor. หรือ You had better see a doctor.
ที่ถูกต้องคือ You had better see a doctor.
เวลาจะบอกว่า ฉันไปดีกว่า หรือ นายควรไปคุยกับเธอดีกว่านะ
เราจะใช้ had better นะครับ และมักจะย่อเหลือ 'd better (แม้ว่ามันฟังดูเหมือนควรจะเป็น should better ซะมากกว่า 5555)
I had better go. You had better talk to her.
แม้กฎของ perfect tense จะบอกว่า verb ที่ตามหลัง have/has/had ต้องเป็น เวิร์บช่อง 3 (past participle)
แต่ประโยคแบบนี้ถือเป็นข้อยกเว้นจ้าา
ตัวอย่างเช่น
You'd better hurry up. นายรีบหน่อยก็ดีนะ
You had better take an umbrella. It's raining. เธอเอาร่วมไปด้วยดีกว่านะ ฝนมันตก
We'd better go. The police will b any minute. รีบไปดีกว่า เดี๋ยวตำรวจก็แห่มา (ที่เป็นเครื่องหมายหน้า คือคำว่า be และคำว่า here นะครับ คือพันทิปคงคิดว่าเป็นคำว่า Eเฮีย มั้ง โอ้ยน้ออ)
นอกจากนี้เราสามารถเติม not หลัง had better ก็ได้ด้วย จะแปลว่า ไม่...จะดีกว่า
หรือแปลให้เข้าใจง่าย ๆ กว่านั้นคือ ไม่ควร หรือ อย่า นั่นแหละครับ
เช่น
You'd better not miss the last train. นายอย่าพลาดรถไฟเที่ยวสุดท้ายนะเฟ้ย
Everybody hates you so you'd better not show up at the party! ทุกคนเขาเกลียดนายหมด ดังนั้นอย่ามาที่ปาร์ตี้จะดีกว่านะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าเราใช้ should ก็ห้ามมี better นะครับ
We'd better tell him the truth.
หรือ We should tell him the truth.
เลือกใช้แบบใดแบบหนึ่ง
ข้อ 6 - 10 ต่อในเมนต์ที่ 1 นะครับ
พิมพ์ผิด หรืออธิบายผิดตรงไหน รบกวนคอมเมนต์ไว้ใต้เมนต์ที่ 1 เลยนะครับบ ผมจะได้หาง่าย ๆ กลัวไม่ได้อ่านแล้วลืมแก้