สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ชาวพันทิพทุกท่าน กระทู้นี้เราจะมารีวิวทริป อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
ทริปขนอมเริ่มต้นจากสามีไปเจอโปรโมชั่นที่พักลด 65% ของ อาว่า รีสอร์ทและสปา เมื่อต้นปี 2560
จึงทำการจองและซื้อตั๋วไว้ตั้งแต่นั้น โดยไม่ปรึกษากันเลยว่าขนอมมีที่เที่ยวอะไรบ้าง
กำหนดการเที่ยวคือ 8-15 มิ.ย.60 ก่อนไปก็คิดว่าจะไปดูอะไร มันจะมีอะไรให้ดูบ้างน้อ
แต่พอไปมาแล้ว ก็อดที่จะบอกต่อไม่ได้ว่า ไปเถอะค่ะ ขนอม แม้จะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่อบอุ่น
บรรยากาศดี ทะเลสวย และที่สำคัญนักท่องเที่ยวไม่มากเมื่อเทียบกับสมุย
และที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือ ทัวร์จีนยังไม่ลง แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน เราต้องรีบเที่ยวก่อน
ก่อนที่จะออกเดินทางประมาณ 3 วันเราก็ได้เข้ามาค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยวจากเพื่อน ๆ ชาวพันทิป
งานนี้ต้องขอบคุณกระทู้
https://ppantip.com/topic/34715141 ที่เขียนเรื่องเที่ยวขนอมไว้ ให้เราได้ไปเดินรอยตาม สรุปได้คร่าวๆ ว่าไปขนอมต้องไปทะเล ไปดูโลมาสีชมพู ไปถ้ำเขาวังทอง ไปแช่เท้าให้ปลาตอดเล่น
จขกท.เดินทางจากประเทศสิงคโปร์ โดยสารการบินแอร์เอเชีย ลงดอนเมือง รอต่อเครื่องประมาณ 2 ชม. จากนั้นบินไปลงที่สนามบินสุราษฏร์ธานีอีก 45 นาทีโดยประมาณ เครื่องลงราว 4.30 น. แต่เนื่องจากการเดินทางครั้งนี้สามีไม่ได้ไปพร้อมกัน ทำให้เราต้องหารถแท็กซี่สำหรับมารอรับเค้าอีกเที่ยวบิน ซึ่งจะถึงประมาณ 3 ทุ่ม ได้ราคา 1,600 บาท (แอบแพงนะเราว่า) สำหรับเราและลูกก็นั่งรถของรีสอร์ทที่มาคอยรับอยู่แล้ว ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินสุราษฯไปยังที่พักประมาณ 1.30 ชม.
แม้ว่า อ.ขนอม จะอยู่ในเขตของ จ.นครศรีธรรมราชก็ตาม และการเดินทางจากสนานบินสุราษฯจะใกล้กว่าสนามบินนครศรีธรรมราช เราถึงที่พักประมาณ 6.30น. ที่พักร่มรื่น สะอาดทั้งรีสอร์ทและหน้าหาด ผู้คนบางตา เรียกได้ว่าค่อนข้างเงียบ นับ ๆ ดูแล้วมีนักท่องเที่ยวไม่ถึง 5 ห้อง
สำหรับแผนการท่องเที่ยวของเรานั้น เริ่มจากเช่ารถก่อน เราหาข้อมูลเรื่องการเช่ารถไว้เยอะ แต่บริษัทส่วนใหญ่อยู่ในตัวเมืองและเค้าไม่มีบริการส่งรถ ถ้ามาส่งก็คิดค่าส่งอีกเป็นพัน เราเลยใช้วิธีถามจากพี่คนขับรถของรีสอร์ท พี่เค้าก็ให้เบอร์โทรรถเช่ามา คุยไปคุยมาได้ราคาที่ 1,300 บาทต่อวัน ลดจาก 1,500 บาท เนื่องจากผู้ให้บริการรถเช่าทำงานในรีสอร์ท เค้าบอกว่าปกติจะไม่ค่อยให้คนนอกเช่า นี่เห็นว่าเราพักที่รีสอร์ทเลยลดให้ด้วย....โชคดีจังเลยเรา
ทำสัญญาเช่ารถจ่ายค่าเช่า รวมเป็นเวลา 3 วันเสร็จสรรพ ขอแผนที่ท่องเที่ยวจากทางรีสอร์ทเรียบร้อย ก็ออกเดินทางกันเลย ไม่มีแผนตายตัวว่าจะไปไหนบ้าง แต่ที่แน่ ๆ คือสามีชอบทะเล ก็คงตะเวนไปหาดนั้นนิดหาดนี้หน่อย (เที่ยวเสร็จแผนที่หาย ไม่รู้ไปเก็บไว้ตรงไหน)
หาดแรกที่ไปคือ หาดแขวงเภา ใช้เส้นทางเดียวกันกับไปดูปลาโลมา หรือแหลมประทับ ขับรถไปประมาณ 20 นาที ช่วงที่เราไปเงียบสงบมากกกกก ไม่มีคนเลย ร้านอาหารก็เงียบ แต่หาดขาว สะอาด ทะเลสวย หาดช่วงบนจะค่อนข้างเต็มไปด้วยเปลือกหอย ดูไกลๆก็ขาวสวย แต่เวลาเดินอาจจะเจ็บเท้าบ้าง ต้องคอยระวัง ส่วนหาดช่วงล่างทรายขาวสะอาดมากค่ะ ช่วงที่ไปแดดกำลังดี ท้องฟ้าเปิดสวยงามมาก ใครไปขนอมอย่าลืมแวะไปที่หาดแขวงเภานะคะ
อิ่มหน่ำสำราญกับหาดแรกไปแล้ว เราก็ขับรถไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่จะไปดูโลมา หรือ แหลมประทับ เป็นท่าเรือสำหรับให้นักท่องเที่ยวเช่าเรือออกไปดูโลมา มีเรือจอดเรียงรายจนนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่แล้วต้องไปตอนเช้าประมาณ 8 โมงถึงจะเห็นโลมา ราคาเช่าเรือแบบเหมาลำคือ 1,000 บาท นั่งได้ทั้งหมด 7 คน เรา 3 พ่อแม่ลูกไม่ได้ออกเรือไป เพราะทางรีสอร์ทแจ้งว่า มีบริการฟรีรวมอยู่ในโปรโมชั่นที่เราซื้อแล้ว แต่ต้องรอเที่ยววันที่ 12 มิ.ย. ....เราก็รอกันไปก่อน
หมายเหตุ : ขณะนี้ถนนที่ไปยังท่าเรือเพื่อชมโลมานั้นอยู่ระหว่างการขยายถนนให้กว้างขึ้น ทำให้ไม่ค่อยสะดวกมากนัก แต่ก็พอขับได้ เพียงแค่ให้ความระมัดระวังมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยจ้า
จุดที่ 3 ของวัน เรามุ่งหน้าไปยังสวนนายรังสรรค์ตามกระทู้ในพันทิพนี่แหล่ะค่ะ แต่ๆๆๆๆๆ ระหว่างทางเข้าไปบ้านน้ำโฉ เราเห็นป้ายเขียนว่า "สวนลุงวิญญ์-ป้าผ่อง ปลาตอดเท้า พักผ่อน เล่นน้ำ อาหารและเครื่องดื่ม" รีบจอดรถ พร้อมกับถามสามีว่า เอาไง ลองไปดูมั้ย เผื่อติดใจ หิวแล้วด้วย ไหน ๆ ก็เที่ยงแล้ว ก็ตัดสินใจเลี้ยวรถลงไป
ติดถนนเป็นสวนปาล์มค่ะ ต้องขับรถเข้าไปข้างในอีกนิดนึง มีที่จอดรถมากมาย พอไปถึงก็ประทับใจเลย อากาศร่มรื่น เป็นคลอง แม่น้ำไหลผ่าน มีศาลายื่นออกไป มีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งที่เล่นน้ำอยู่ บางส่วนก็นั่งให้ปลาตอดเท้าเล่น บางส่วนก็ดื่มไปเมาส์มอยกันไป มีศาลาให้นั่งสำหรับทานอาหาร มีที่นั่งย่อนเท้าให้ปลาตอดตลอดแนวคลอง มีเปลยวนกลางน้ำให้นั่งท่องเที่ยวนอนเล่นด้วย มีเรือคายัคให้พายเล่น
พอไปถึงพวกเราก็ทำงานสั่งอาหาร ทานให้อิ่มท้องกันก่อนจะลงไปเล่นน้ำ เล่นน้ำ คนละ 20 บาท อิ่มท้องแล้วก็เปลี่ยนชุด เล่นน้ำ ให้ปลาตอดตัวเล่น ทั้งเจ็บ ทั้งคัน ทั้งจั๊กจี๋ ลูกสาวโดดน้ำเล่นพอโดนปลาตอดก็ร้องกรี้ดวีดว้าย หัวเราะกันสนุกสนาน ป้าผ่องและป้า ๆ ที่เปิดร้านอาหารอยู่ในสวนก็ใจดีค่ะ เดินพูดคุยกับนักท่องเที่ยวตลอดเวลา ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวในพื้นที่ คงมีแต่ครอบครัวเราที่มาจากต่างถิ่น เราใช้เวลาเกือบครึ่งวันอยู่ที่สวน ลงไปให้ปลาตอดให้หน่ำใจไปเลย ปลาที่นี่ตัวใหญ่มาก ๆ ตอดเจ็บ ใครชอบอย่าลืมแวะไปใช้บริการนะคะ เจ้าของเป็นกันเองมาก ๆ เราไป 2 รอบ วันที่ 9 และวัน 14 อีกรอบ
ไปรอบที่ 2 ตอนแรกไม่มีคนเลย เราไปเที่ยวที่อื่นกันมาแล้ว แวะมาทานข้าวและเล่นน้ำที่สวนป้าอีกรอบ ทานข้าวเสร็จก็มีกลุ่มนักศึกษาพากันมาเล่นน้ำประมาณ 20 กว่าคน มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ยกเตาเผามาทำปิ้งย่างกันถึงในสวนเลย เราอยู่กันจน 5 โมงเย็น ก่อนกลับลูกสาวขอซื้อข้าวเหนียวกลับไปกินด้วย ป้ากลัวตัวเล็กไม่อิ่มเลยแถมให้อีก ราคาอาหารป้าก็ลดให้ค่ะ ใจดี พูดจาดี รับรองไปแล้วจะประทับใจจ้า
สำหรับการเดินทางไปสวนลุงวิญญ์-ยายผ่อง: หากมาจาก อ.ขนอมให้ใช้เส้นทาง 4142 เส้นทางนี้สามารถแวะเที่ยวที่ ถ้ำเขาวังทองก่อนได้ ให้สังเกตุป้ายฝั่งซ้ายมือ จะเขียนว่าถ้ำเขาวังทอง 2.5กม. ทางนี้จะมีอุโมงค์ต้นยางพาราเกือบตลอดทางไปเข้าถ้ำ หากไม่เที่ยวถ้ำก็วิ่งรถตรงไปอีกประมาณ 5-6 นาทีจะถึง 4แยก ให้เลี้ยวขวาไปเส้นทาง 4044 ตามป้ายโรงเรียนบ้านน้ำโฉ หรืออ่าวเตล็ด
ขับต่อไปอีก2นาที จะมีแยกซ้ายไปอ่าวเตล็ด เดินเล่นถ่ายรูปที่สะพานไม้ สักการะหลวงปู่แดง แต่ถ้าไม่ไปก็ขับตรงไปตามเส้นทางสาย 4044 ผ่านโค้งไปตามถนนทางซ้ายมือ คือโรงเรียนบ้านน้ำโฉ เยื้องกับโรงเรียนคือ สวนปลาตอด ค่าลงเล่นน้ำคนละ 20บาท,พายเรือคายัคเล่นลำละ 100บาท เบียร์ขวดละ 65บาท ห้องน้ำฟรี อาบน้ำได้ หรือใครจะขนอาหารและที่ปิ้งย่างไปเองก็ได้ มีเสื่อให้เช่า (คิดเองว่าน่าจะให้เช่าหรืออาจจะฟรีเพราะไม่ได้ถาม) ใครไปฝากความคิดถึงให้ป้าผ่องด้วยนะ บอกว่าน้องอลิสที่อยู่สิงคโปร์อยากไปเล่นน้ำอีก ป้าคงดีใจ เพราะแกไม่หลาน แกชอบเด็ก
ปล.เราไม่ได้ค่าโฆษณาอะไรใด ๆ นะคะ แค่อยากบอกต่อ เพราะประทับใจจริง ๆ ค่ะ
#######
วันที่ 2 ต่อใน comment นะคะ
[CR] ขนอมมีดีมากกว่าที่คุณคิด จุใจกับทริป 6 คืน 7 วัน....ไปเที่ยวกันเถอะ ทะเลสวยมากกกก
ทริปขนอมเริ่มต้นจากสามีไปเจอโปรโมชั่นที่พักลด 65% ของ อาว่า รีสอร์ทและสปา เมื่อต้นปี 2560
จึงทำการจองและซื้อตั๋วไว้ตั้งแต่นั้น โดยไม่ปรึกษากันเลยว่าขนอมมีที่เที่ยวอะไรบ้าง
กำหนดการเที่ยวคือ 8-15 มิ.ย.60 ก่อนไปก็คิดว่าจะไปดูอะไร มันจะมีอะไรให้ดูบ้างน้อ
แต่พอไปมาแล้ว ก็อดที่จะบอกต่อไม่ได้ว่า ไปเถอะค่ะ ขนอม แม้จะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่อบอุ่น
บรรยากาศดี ทะเลสวย และที่สำคัญนักท่องเที่ยวไม่มากเมื่อเทียบกับสมุย
และที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือ ทัวร์จีนยังไม่ลง แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน เราต้องรีบเที่ยวก่อน
ก่อนที่จะออกเดินทางประมาณ 3 วันเราก็ได้เข้ามาค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยวจากเพื่อน ๆ ชาวพันทิป
งานนี้ต้องขอบคุณกระทู้ https://ppantip.com/topic/34715141 ที่เขียนเรื่องเที่ยวขนอมไว้ ให้เราได้ไปเดินรอยตาม สรุปได้คร่าวๆ ว่าไปขนอมต้องไปทะเล ไปดูโลมาสีชมพู ไปถ้ำเขาวังทอง ไปแช่เท้าให้ปลาตอดเล่น
จขกท.เดินทางจากประเทศสิงคโปร์ โดยสารการบินแอร์เอเชีย ลงดอนเมือง รอต่อเครื่องประมาณ 2 ชม. จากนั้นบินไปลงที่สนามบินสุราษฏร์ธานีอีก 45 นาทีโดยประมาณ เครื่องลงราว 4.30 น. แต่เนื่องจากการเดินทางครั้งนี้สามีไม่ได้ไปพร้อมกัน ทำให้เราต้องหารถแท็กซี่สำหรับมารอรับเค้าอีกเที่ยวบิน ซึ่งจะถึงประมาณ 3 ทุ่ม ได้ราคา 1,600 บาท (แอบแพงนะเราว่า) สำหรับเราและลูกก็นั่งรถของรีสอร์ทที่มาคอยรับอยู่แล้ว ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินสุราษฯไปยังที่พักประมาณ 1.30 ชม.
แม้ว่า อ.ขนอม จะอยู่ในเขตของ จ.นครศรีธรรมราชก็ตาม และการเดินทางจากสนานบินสุราษฯจะใกล้กว่าสนามบินนครศรีธรรมราช เราถึงที่พักประมาณ 6.30น. ที่พักร่มรื่น สะอาดทั้งรีสอร์ทและหน้าหาด ผู้คนบางตา เรียกได้ว่าค่อนข้างเงียบ นับ ๆ ดูแล้วมีนักท่องเที่ยวไม่ถึง 5 ห้อง
สำหรับแผนการท่องเที่ยวของเรานั้น เริ่มจากเช่ารถก่อน เราหาข้อมูลเรื่องการเช่ารถไว้เยอะ แต่บริษัทส่วนใหญ่อยู่ในตัวเมืองและเค้าไม่มีบริการส่งรถ ถ้ามาส่งก็คิดค่าส่งอีกเป็นพัน เราเลยใช้วิธีถามจากพี่คนขับรถของรีสอร์ท พี่เค้าก็ให้เบอร์โทรรถเช่ามา คุยไปคุยมาได้ราคาที่ 1,300 บาทต่อวัน ลดจาก 1,500 บาท เนื่องจากผู้ให้บริการรถเช่าทำงานในรีสอร์ท เค้าบอกว่าปกติจะไม่ค่อยให้คนนอกเช่า นี่เห็นว่าเราพักที่รีสอร์ทเลยลดให้ด้วย....โชคดีจังเลยเรา
ทำสัญญาเช่ารถจ่ายค่าเช่า รวมเป็นเวลา 3 วันเสร็จสรรพ ขอแผนที่ท่องเที่ยวจากทางรีสอร์ทเรียบร้อย ก็ออกเดินทางกันเลย ไม่มีแผนตายตัวว่าจะไปไหนบ้าง แต่ที่แน่ ๆ คือสามีชอบทะเล ก็คงตะเวนไปหาดนั้นนิดหาดนี้หน่อย (เที่ยวเสร็จแผนที่หาย ไม่รู้ไปเก็บไว้ตรงไหน)
หาดแรกที่ไปคือ หาดแขวงเภา ใช้เส้นทางเดียวกันกับไปดูปลาโลมา หรือแหลมประทับ ขับรถไปประมาณ 20 นาที ช่วงที่เราไปเงียบสงบมากกกกก ไม่มีคนเลย ร้านอาหารก็เงียบ แต่หาดขาว สะอาด ทะเลสวย หาดช่วงบนจะค่อนข้างเต็มไปด้วยเปลือกหอย ดูไกลๆก็ขาวสวย แต่เวลาเดินอาจจะเจ็บเท้าบ้าง ต้องคอยระวัง ส่วนหาดช่วงล่างทรายขาวสะอาดมากค่ะ ช่วงที่ไปแดดกำลังดี ท้องฟ้าเปิดสวยงามมาก ใครไปขนอมอย่าลืมแวะไปที่หาดแขวงเภานะคะ
อิ่มหน่ำสำราญกับหาดแรกไปแล้ว เราก็ขับรถไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่จะไปดูโลมา หรือ แหลมประทับ เป็นท่าเรือสำหรับให้นักท่องเที่ยวเช่าเรือออกไปดูโลมา มีเรือจอดเรียงรายจนนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่แล้วต้องไปตอนเช้าประมาณ 8 โมงถึงจะเห็นโลมา ราคาเช่าเรือแบบเหมาลำคือ 1,000 บาท นั่งได้ทั้งหมด 7 คน เรา 3 พ่อแม่ลูกไม่ได้ออกเรือไป เพราะทางรีสอร์ทแจ้งว่า มีบริการฟรีรวมอยู่ในโปรโมชั่นที่เราซื้อแล้ว แต่ต้องรอเที่ยววันที่ 12 มิ.ย. ....เราก็รอกันไปก่อน
หมายเหตุ : ขณะนี้ถนนที่ไปยังท่าเรือเพื่อชมโลมานั้นอยู่ระหว่างการขยายถนนให้กว้างขึ้น ทำให้ไม่ค่อยสะดวกมากนัก แต่ก็พอขับได้ เพียงแค่ให้ความระมัดระวังมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยจ้า
จุดที่ 3 ของวัน เรามุ่งหน้าไปยังสวนนายรังสรรค์ตามกระทู้ในพันทิพนี่แหล่ะค่ะ แต่ๆๆๆๆๆ ระหว่างทางเข้าไปบ้านน้ำโฉ เราเห็นป้ายเขียนว่า "สวนลุงวิญญ์-ป้าผ่อง ปลาตอดเท้า พักผ่อน เล่นน้ำ อาหารและเครื่องดื่ม" รีบจอดรถ พร้อมกับถามสามีว่า เอาไง ลองไปดูมั้ย เผื่อติดใจ หิวแล้วด้วย ไหน ๆ ก็เที่ยงแล้ว ก็ตัดสินใจเลี้ยวรถลงไป
ติดถนนเป็นสวนปาล์มค่ะ ต้องขับรถเข้าไปข้างในอีกนิดนึง มีที่จอดรถมากมาย พอไปถึงก็ประทับใจเลย อากาศร่มรื่น เป็นคลอง แม่น้ำไหลผ่าน มีศาลายื่นออกไป มีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งที่เล่นน้ำอยู่ บางส่วนก็นั่งให้ปลาตอดเท้าเล่น บางส่วนก็ดื่มไปเมาส์มอยกันไป มีศาลาให้นั่งสำหรับทานอาหาร มีที่นั่งย่อนเท้าให้ปลาตอดตลอดแนวคลอง มีเปลยวนกลางน้ำให้นั่งท่องเที่ยวนอนเล่นด้วย มีเรือคายัคให้พายเล่น
พอไปถึงพวกเราก็ทำงานสั่งอาหาร ทานให้อิ่มท้องกันก่อนจะลงไปเล่นน้ำ เล่นน้ำ คนละ 20 บาท อิ่มท้องแล้วก็เปลี่ยนชุด เล่นน้ำ ให้ปลาตอดตัวเล่น ทั้งเจ็บ ทั้งคัน ทั้งจั๊กจี๋ ลูกสาวโดดน้ำเล่นพอโดนปลาตอดก็ร้องกรี้ดวีดว้าย หัวเราะกันสนุกสนาน ป้าผ่องและป้า ๆ ที่เปิดร้านอาหารอยู่ในสวนก็ใจดีค่ะ เดินพูดคุยกับนักท่องเที่ยวตลอดเวลา ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวในพื้นที่ คงมีแต่ครอบครัวเราที่มาจากต่างถิ่น เราใช้เวลาเกือบครึ่งวันอยู่ที่สวน ลงไปให้ปลาตอดให้หน่ำใจไปเลย ปลาที่นี่ตัวใหญ่มาก ๆ ตอดเจ็บ ใครชอบอย่าลืมแวะไปใช้บริการนะคะ เจ้าของเป็นกันเองมาก ๆ เราไป 2 รอบ วันที่ 9 และวัน 14 อีกรอบ
ไปรอบที่ 2 ตอนแรกไม่มีคนเลย เราไปเที่ยวที่อื่นกันมาแล้ว แวะมาทานข้าวและเล่นน้ำที่สวนป้าอีกรอบ ทานข้าวเสร็จก็มีกลุ่มนักศึกษาพากันมาเล่นน้ำประมาณ 20 กว่าคน มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ยกเตาเผามาทำปิ้งย่างกันถึงในสวนเลย เราอยู่กันจน 5 โมงเย็น ก่อนกลับลูกสาวขอซื้อข้าวเหนียวกลับไปกินด้วย ป้ากลัวตัวเล็กไม่อิ่มเลยแถมให้อีก ราคาอาหารป้าก็ลดให้ค่ะ ใจดี พูดจาดี รับรองไปแล้วจะประทับใจจ้า
สำหรับการเดินทางไปสวนลุงวิญญ์-ยายผ่อง: หากมาจาก อ.ขนอมให้ใช้เส้นทาง 4142 เส้นทางนี้สามารถแวะเที่ยวที่ ถ้ำเขาวังทองก่อนได้ ให้สังเกตุป้ายฝั่งซ้ายมือ จะเขียนว่าถ้ำเขาวังทอง 2.5กม. ทางนี้จะมีอุโมงค์ต้นยางพาราเกือบตลอดทางไปเข้าถ้ำ หากไม่เที่ยวถ้ำก็วิ่งรถตรงไปอีกประมาณ 5-6 นาทีจะถึง 4แยก ให้เลี้ยวขวาไปเส้นทาง 4044 ตามป้ายโรงเรียนบ้านน้ำโฉ หรืออ่าวเตล็ด
ขับต่อไปอีก2นาที จะมีแยกซ้ายไปอ่าวเตล็ด เดินเล่นถ่ายรูปที่สะพานไม้ สักการะหลวงปู่แดง แต่ถ้าไม่ไปก็ขับตรงไปตามเส้นทางสาย 4044 ผ่านโค้งไปตามถนนทางซ้ายมือ คือโรงเรียนบ้านน้ำโฉ เยื้องกับโรงเรียนคือ สวนปลาตอด ค่าลงเล่นน้ำคนละ 20บาท,พายเรือคายัคเล่นลำละ 100บาท เบียร์ขวดละ 65บาท ห้องน้ำฟรี อาบน้ำได้ หรือใครจะขนอาหารและที่ปิ้งย่างไปเองก็ได้ มีเสื่อให้เช่า (คิดเองว่าน่าจะให้เช่าหรืออาจจะฟรีเพราะไม่ได้ถาม) ใครไปฝากความคิดถึงให้ป้าผ่องด้วยนะ บอกว่าน้องอลิสที่อยู่สิงคโปร์อยากไปเล่นน้ำอีก ป้าคงดีใจ เพราะแกไม่หลาน แกชอบเด็ก
ปล.เราไม่ได้ค่าโฆษณาอะไรใด ๆ นะคะ แค่อยากบอกต่อ เพราะประทับใจจริง ๆ ค่ะ
#######
วันที่ 2 ต่อใน comment นะคะ