เรื่องของเรื่องคือ เรากับสามีแต่งงานกันแยกบ้านออกมา เรามีน้องสาว 1 คน ซึ่งยังไม่ได้แต่งงาน
ต่อมาน้องสาวเราซื้อรถใหม่คันนึง พร้อมผ่อนคอนโดในเมือง ด้วยเงินเดือน 25,000 กับเงินจากที่แม่เราให้ (รวมน่าจะเดือนละ 3 หมื่นกว่า)
ผ่านมาเมื่อ 2 เดือนก่อน น้องมันเริ่มผ่อนไม่ไหว ค้างจ่ายบ้าง จ่ายขั้นต่ำบ้าง จ่ายไม่ครบบ้าง สุดท้ายมันทบกันไปหมด
ล่าสุดเดือนนี้น้องมียอดค้างชำระต้องจ่ายอยู่ที่ 4 หมื่นกว่าบาท ซึ่งมันจ่ายไม่ไหว
แม่เราก็โทรมาหาเรา โทรมาบ่นเครียด อยากให้เราช่วยน้อง (เค้าเหมือนรู้ว่าเราน่าจะมีเงินเก็บ แต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่)
จริงๆเรามีเงินเก็บอยู่แสนกว่าบาท แม่อยากให้เราช่วยออกให้น้องก่อน ช่วยโปะให้น้องให้มันผ่านไปก่อน (ซึ่งไม่ได้พูดถึงการคืนเงิน หรือบอกว่าจะคืนเมื่อไหร่)
เราเองใจนึงก็สงสารน้องมัน แต่อีกใจนึงก็รู้เลยว่าให้ไปเหมือนให้เปล่า ไม่มีทางได้คืน
และเงินแสนนึงของเรา ต่อให้เราให้มันหมด ก็ใช่ว่าหนี้น้องเรามันจะหมด
เราบอกแม่บอกน้องไปแล้วว่าไม่มีเงิน ที่เก็บไว้ก็ต้องใช้เลี้ยงลูก เค้าก็หาว่าเราเห็นแก่ตัว เอาตัวเองรอด ทนเห็นพี่น้องลำบากได้ยังไง
ล่าสุดแม่พยายามจะยัดเยียดให้เราช่วยน้องผ่อนรถแทน และให้น้องผ่อนคอนโดอย่างเดียว (เพื่ออะไร? เราไม่ได้อะไรเลย มีแต่เสีย)
เราพยายามปฏิเสธไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังโทรมาบ่น โทรมาด่า โทรมาตื้อทุกเดือน
จนเราหงุดหงิด เราเบื่อแบบ เออ ให้ๆไปเหอะจะได้จบเรื่องซะที (แต่เราก็รู้ว่ามันคงไม่จบ)
เราควรทำยังไงดี จะปฏิเสธยังไงดี ให้มันจบไป แล้วน้องเราควรให้มันหาทางออกยังไงดี?
อัพเดทค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นมากเลยค่ะ เรามานั่งคิดทบทวน และก็ปรึกษาสามีแล้ว
ทางสามีบอกว่า แล้วแต่เราตัดสินใจ แต่อยากให้เราคิดให้ดีๆ เงินหาใหม่ได้ก็จริง แต่มันจะได้คุ้มเสียไหม
เพราะต่อให้ให้เงินน้องไป 10 ครั้ง ครั้งที่11 ไม่ยอมให้ ทั้งน้องทั้งแม่ก็โกรธเราอยู่ดี
เราคิดแล้วก็เออ จริงด้วย เราไม่อยากมานั่งเสียดายเงินทีหลัง แถมโดนโกรธเหมือนเดิม
เมื่อช่วงบ่ายเราเลยโทรไปคุยกับแม่ ว่าเราคงช่วยอะไรน้องไม่ได้ เพราะเราเองก็ค่าใช้จ่ายเยอะ
ไหนจะค่าผ่อนรถ ไหนจะค่าเช่าบ้าน ไหนจะค่าคลอดลูกคนที่สองที่กำลังจะเกิดมา
เราพยายามบอกแม่ให้น้องมันปล่อยไปซักทาง ปล่อยรถไป แล้วนั่งรถเมล์หรือแท็กซี่เอา ไม่ก็ปล่อยคอนโดไปกลับมาอยู่บ้าน
แม่ไม่ยอมค่ะ แม่ไม่ให้น้องนั่งรถเมล์หรือแท็กซี่เด็ดขาด (ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว) แม่บอกว่ามันอันตราย แท็กซี่ก็ไม่รู้ใครเป็นใคร
ส่วนคอนโดยิ่งแล้วใหญ่ค่ะ แม่บอกว่าถ้าน้องมันไม่ซื้อตอนนี้ กว่าจะผ่อนหมด 30 ปีไม่แก่ตายก่อนหรอ (ผ่อนหมดคงอายุ 50 กว่าๆค่ะ)
แถมยังโวยวาย ด่าเราว่าเราขยันสร้างภาระ อยากท้องทำไมตั้ง 2 คน เกิดมาก็เป็นภาระให้เค้าเลี้ยง
และก็บอกให้เราไปเอาลูกคนโตกลับไปเลี้ยงเอง (ปกติเราจะให้แม่เลี้ยงตอนกลางวัน เรารับมาหลังเลิกงาน แต่ตอนนี้ท้องเริ่มใหญ่เลยฝากแม่ไว้ค่ะ)
เราบอกตามตรงเลยว่าโมโหค่ะ หาว่าลูกเราเป็นภาระ แล้วหนี้สินน้องมันไม่ใช่ภาระตรงไหน?
สรุปจะไปรับลูกกลับหลังเลิกงาน และก็ตัวใครตัวมันค่ะ
ก็คุยกับแฟนว่าถ้าเอาลูกมาเลี้ยงเองก็ไม่มีเวลา เพราะทำงานทั้งคู่ อาจต้องส่งไปให้แม่แฟนเลี้ยงที่ต่างจังหวัด
แต่เมื่อกี้แม่โทรมาอีกรอบ บอกไม่ต้องมารับแล้ว แกดูของแกได้ (เวลาปกติแม่เราก็รักหลานดีค่ะ ดูแลดีมาก)
เราไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว เครียดมาก ต้องมาทะเลาะกับแม่อีก
ส่วนกับน้องเราไม่ได้สนิทกันค่ะ ไม่ค่อยได้คุยกัน นานๆๆๆๆเจอที และมันก็ทำตัวไม่เห็นปัญหาเหมือนเดิม
คงต้องให้เป็นไปตามยถากรรมค่ะ
ถ้าน้องเดือดร้อนเรื่องเงิน และเรามีเงินเก็บอยู่ ควรจะช่วยหรือจะปล่อยไป
ต่อมาน้องสาวเราซื้อรถใหม่คันนึง พร้อมผ่อนคอนโดในเมือง ด้วยเงินเดือน 25,000 กับเงินจากที่แม่เราให้ (รวมน่าจะเดือนละ 3 หมื่นกว่า)
ผ่านมาเมื่อ 2 เดือนก่อน น้องมันเริ่มผ่อนไม่ไหว ค้างจ่ายบ้าง จ่ายขั้นต่ำบ้าง จ่ายไม่ครบบ้าง สุดท้ายมันทบกันไปหมด
ล่าสุดเดือนนี้น้องมียอดค้างชำระต้องจ่ายอยู่ที่ 4 หมื่นกว่าบาท ซึ่งมันจ่ายไม่ไหว
แม่เราก็โทรมาหาเรา โทรมาบ่นเครียด อยากให้เราช่วยน้อง (เค้าเหมือนรู้ว่าเราน่าจะมีเงินเก็บ แต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่)
จริงๆเรามีเงินเก็บอยู่แสนกว่าบาท แม่อยากให้เราช่วยออกให้น้องก่อน ช่วยโปะให้น้องให้มันผ่านไปก่อน (ซึ่งไม่ได้พูดถึงการคืนเงิน หรือบอกว่าจะคืนเมื่อไหร่)
เราเองใจนึงก็สงสารน้องมัน แต่อีกใจนึงก็รู้เลยว่าให้ไปเหมือนให้เปล่า ไม่มีทางได้คืน
และเงินแสนนึงของเรา ต่อให้เราให้มันหมด ก็ใช่ว่าหนี้น้องเรามันจะหมด
เราบอกแม่บอกน้องไปแล้วว่าไม่มีเงิน ที่เก็บไว้ก็ต้องใช้เลี้ยงลูก เค้าก็หาว่าเราเห็นแก่ตัว เอาตัวเองรอด ทนเห็นพี่น้องลำบากได้ยังไง
ล่าสุดแม่พยายามจะยัดเยียดให้เราช่วยน้องผ่อนรถแทน และให้น้องผ่อนคอนโดอย่างเดียว (เพื่ออะไร? เราไม่ได้อะไรเลย มีแต่เสีย)
เราพยายามปฏิเสธไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังโทรมาบ่น โทรมาด่า โทรมาตื้อทุกเดือน
จนเราหงุดหงิด เราเบื่อแบบ เออ ให้ๆไปเหอะจะได้จบเรื่องซะที (แต่เราก็รู้ว่ามันคงไม่จบ)
เราควรทำยังไงดี จะปฏิเสธยังไงดี ให้มันจบไป แล้วน้องเราควรให้มันหาทางออกยังไงดี?
อัพเดทค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นมากเลยค่ะ เรามานั่งคิดทบทวน และก็ปรึกษาสามีแล้ว
ทางสามีบอกว่า แล้วแต่เราตัดสินใจ แต่อยากให้เราคิดให้ดีๆ เงินหาใหม่ได้ก็จริง แต่มันจะได้คุ้มเสียไหม
เพราะต่อให้ให้เงินน้องไป 10 ครั้ง ครั้งที่11 ไม่ยอมให้ ทั้งน้องทั้งแม่ก็โกรธเราอยู่ดี
เราคิดแล้วก็เออ จริงด้วย เราไม่อยากมานั่งเสียดายเงินทีหลัง แถมโดนโกรธเหมือนเดิม
เมื่อช่วงบ่ายเราเลยโทรไปคุยกับแม่ ว่าเราคงช่วยอะไรน้องไม่ได้ เพราะเราเองก็ค่าใช้จ่ายเยอะ
ไหนจะค่าผ่อนรถ ไหนจะค่าเช่าบ้าน ไหนจะค่าคลอดลูกคนที่สองที่กำลังจะเกิดมา
เราพยายามบอกแม่ให้น้องมันปล่อยไปซักทาง ปล่อยรถไป แล้วนั่งรถเมล์หรือแท็กซี่เอา ไม่ก็ปล่อยคอนโดไปกลับมาอยู่บ้าน
แม่ไม่ยอมค่ะ แม่ไม่ให้น้องนั่งรถเมล์หรือแท็กซี่เด็ดขาด (ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว) แม่บอกว่ามันอันตราย แท็กซี่ก็ไม่รู้ใครเป็นใคร
ส่วนคอนโดยิ่งแล้วใหญ่ค่ะ แม่บอกว่าถ้าน้องมันไม่ซื้อตอนนี้ กว่าจะผ่อนหมด 30 ปีไม่แก่ตายก่อนหรอ (ผ่อนหมดคงอายุ 50 กว่าๆค่ะ)
แถมยังโวยวาย ด่าเราว่าเราขยันสร้างภาระ อยากท้องทำไมตั้ง 2 คน เกิดมาก็เป็นภาระให้เค้าเลี้ยง
และก็บอกให้เราไปเอาลูกคนโตกลับไปเลี้ยงเอง (ปกติเราจะให้แม่เลี้ยงตอนกลางวัน เรารับมาหลังเลิกงาน แต่ตอนนี้ท้องเริ่มใหญ่เลยฝากแม่ไว้ค่ะ)
เราบอกตามตรงเลยว่าโมโหค่ะ หาว่าลูกเราเป็นภาระ แล้วหนี้สินน้องมันไม่ใช่ภาระตรงไหน?
สรุปจะไปรับลูกกลับหลังเลิกงาน และก็ตัวใครตัวมันค่ะ
ก็คุยกับแฟนว่าถ้าเอาลูกมาเลี้ยงเองก็ไม่มีเวลา เพราะทำงานทั้งคู่ อาจต้องส่งไปให้แม่แฟนเลี้ยงที่ต่างจังหวัด
แต่เมื่อกี้แม่โทรมาอีกรอบ บอกไม่ต้องมารับแล้ว แกดูของแกได้ (เวลาปกติแม่เราก็รักหลานดีค่ะ ดูแลดีมาก)
เราไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว เครียดมาก ต้องมาทะเลาะกับแม่อีก
ส่วนกับน้องเราไม่ได้สนิทกันค่ะ ไม่ค่อยได้คุยกัน นานๆๆๆๆเจอที และมันก็ทำตัวไม่เห็นปัญหาเหมือนเดิม
คงต้องให้เป็นไปตามยถากรรมค่ะ