คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
ความเร็วและเกียร์ที่ว่ามา อยู่ในช่วงก้ำกึ่งว่าอะไรจะดีกว่ากัน
หากใช้เกียร์สี่
- เวลายกคันเร่งจะปลอดภัยกว่า เนื่องจากมีแรงฉุดที่ล้อ
- ส่วนเวลาเร่งผู้ขับต้องคุมคันเร่งให้ดี ถ้าคุมคันเร่งไม่ดี เหยียบมากไปล้อฟรี ย่อมอันตรายกว่า
หากใช้เกียร์ห้า
- เวลาเร่ง ช่วงแรกจะปลอดภัยกว่า โอกาสฟรีน้อยกว่า แต่อย่าเหยีบเพลิน ความเร็วจะสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
- ส่วนเวลายกคันเร่งอันตรายกว่าใช้เกียร์สี่แน่นอน เพราะรถจะไหลเร็ว แรงฉุดจากเครื่องยนต์น้อยกว่า
หากใช้เกียร์สี่
- เวลายกคันเร่งจะปลอดภัยกว่า เนื่องจากมีแรงฉุดที่ล้อ
- ส่วนเวลาเร่งผู้ขับต้องคุมคันเร่งให้ดี ถ้าคุมคันเร่งไม่ดี เหยียบมากไปล้อฟรี ย่อมอันตรายกว่า
หากใช้เกียร์ห้า
- เวลาเร่ง ช่วงแรกจะปลอดภัยกว่า โอกาสฟรีน้อยกว่า แต่อย่าเหยีบเพลิน ความเร็วจะสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
- ส่วนเวลายกคันเร่งอันตรายกว่าใช้เกียร์สี่แน่นอน เพราะรถจะไหลเร็ว แรงฉุดจากเครื่องยนต์น้อยกว่า
แสดงความคิดเห็น
สงสัยว่า ฝนตกถนนลื่น ใช้วิธีการขับแบบ... อันไหนมีความเป็นไปได้มากกว่าครับ ?
- ตอนขับรถเวลาฝนตก พ่อผมได้บอกว่า .. " เวลาฝนตกให้ใช้เกียร์ 4 ในขับตลอดเวลา" ในความเร็ว 80 กม./ชม. (หรือเกียร์ 3 ถ้าความเร็วต่ำกว่า 80 กม. )
เพราะทำให้ล้อที่ขับเคลื่อน (ล้อหลัง) มีแรงกดไปยังพื้นถนน ทำให้ลดโอกาสลื่นเสียหลักลงข้างทางได้
- แต่ตอนผมขับเวลาฝนตก ผมใช้เกียร์ 5 ตลอด ในความเร็ว 80 กม. เพราะผมคิดว่า ถ้าใช้ เกียร์ 4 ในความเร็ว 80กม./ชม. รอบเครื่องจะอยู่ที่ 2000 รอบ ซึ่งเป็นช่วงที่แรงบิดของรถมาพอดี ถ้าเกิดจะเร่งแซง อาจจะทำให้ล้อหมุนฟรีแล้วหมุนลงข้างทางได้ ... แต่ถ้าผมใช้เกียร์ 5 ตลอดเวลา
รอบจะอยู่ประมาณ 1500 รอบ จะทำให้รอบเครื่องเบา (เพราะเกียร์ไม่สัมพันธ์กับความเร็ว ) ทำให้ไม่มีแรงบิดเวลาเร่งแซง ซึ่งล้อไม่ฟรีขณะกดคันเร่งแซงแน่นอน จะแซงแบบเฉี่อยๆ ค่อยๆไป
คำถามคือ .... แบบไหนมีมีความเป็นไปได้มากกว่าครับ ??
ปล. รถมีระบบความปลอดภัยแค่ ABS อย่างเดียว ไม่มีระบบ ป้องกันล้อหมุนฟรี ควบคุมการทรงตัว เหมือนรถสมัยนี้ 555
ขอแท็กหมวดอุบัติเหตุนะครับ เผื่อมีผู้มีประสบการณ์