แอปเปิล ได้ปล่อยเวอร์ชั่นเบต้าแรกของ iOS 11 ออกสู่สาธารณะ หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน WWDC เมื่อเดือนก่อน ในเวอร์ชั่นนี้จะอิงกับเวอร์ชั่นนักพัฒนาเวอร์ชั่นที่ 2 ซึ่งได้เปิดให้เฉพาะนักพัฒนาซอฟท์แวร์ที่ลงทะเบียนไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่จะมีความเสถียรภาพเพียงพอกับที่เป็นเวอร์ชั่น public beta อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าตัวซอฟต์แวร์ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี ดังนั้น ไม่ควรใช้หรือติดตั้งลงในอุปกรณ์หลักของคุณ
โดยปกติ หากคุณต้องการเริ่มต้นใช้ฟีเจอร์ใหม่นี้ อันดับแรกคุณจะต้องสำรองข้อมูลเอาไว้ใน iCloud หรือ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอื่นๆ โดยใช้ iTunes เสียก่อน หลังจากดำเนินการติดตั้งเสร็จสิ้น ให้เข้าไปที่เว็บไซต์
Apple Beta Software Program คลิกปุ่มสีฟ้า "ลงชื่อเข้าใช้" และกรอก Apple ID ของคุณลงไป คุณจะได้รับแจ้งให้ติดตั้งโปรไฟล์, รีบูตอุปกรณ์ และอัปเดต iOS เช่นเดียวกับการอัปเดตซอฟต์แวร์ปกติ
สิ่งที่คุณจะได้ทดลองใช้งานกับแพลตฟอร์มมือถือรุ่นล่าสุดจากแอปเปิลคือ การปรับปรุงในส่วนของศูนย์ควบคุม (Control Center), มีการรีดีไซน์หน้าแจ้งเตือนใหม่, พัฒนาความสามารถของ Siri ด้วยเสียงใหม่ทั้งหมด, ฟีเจอร์ห้ามรบกวนในขณะขับรถ, ระบบการชำระเงินแบบ Peer-to-Peer ใน iMessage, ความสามารถในการทำงานมัลติทาสกิ้งใหม่ทั้งหมดบน iPad พร้อมแอปฯ switcher ที่มีการปรับปรุงใหม่ และคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมาย
มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญบางอย่างที่มาพร้อมการปรับปรุงใหม่นี้คือ มุ่งเน้นความสมจริงไปกับเทคโนโลยี ARKit ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างประสบการณ์การใช้งาน AR ในแอปฯของตนได้ง่ายและสะดวกขึ้น เช่น นำมาใช้กับเกมชื่อดังอย่าง Minecraft
โดยเวอร์ชั่นเต็มของ iOS 11 คาดจะถูกปล่อยราวๆ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ หลังจากที่มีการเปิดตัว iPhone ตัวใหม่ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดมักจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน
ที่มา
TechSpot
Apple ปล่อย iOS 11 Public Beta เวอร์ชั่นแรก
แอปเปิล ได้ปล่อยเวอร์ชั่นเบต้าแรกของ iOS 11 ออกสู่สาธารณะ หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน WWDC เมื่อเดือนก่อน ในเวอร์ชั่นนี้จะอิงกับเวอร์ชั่นนักพัฒนาเวอร์ชั่นที่ 2 ซึ่งได้เปิดให้เฉพาะนักพัฒนาซอฟท์แวร์ที่ลงทะเบียนไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่จะมีความเสถียรภาพเพียงพอกับที่เป็นเวอร์ชั่น public beta อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าตัวซอฟต์แวร์ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี ดังนั้น ไม่ควรใช้หรือติดตั้งลงในอุปกรณ์หลักของคุณ
โดยปกติ หากคุณต้องการเริ่มต้นใช้ฟีเจอร์ใหม่นี้ อันดับแรกคุณจะต้องสำรองข้อมูลเอาไว้ใน iCloud หรือ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอื่นๆ โดยใช้ iTunes เสียก่อน หลังจากดำเนินการติดตั้งเสร็จสิ้น ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ Apple Beta Software Program คลิกปุ่มสีฟ้า "ลงชื่อเข้าใช้" และกรอก Apple ID ของคุณลงไป คุณจะได้รับแจ้งให้ติดตั้งโปรไฟล์, รีบูตอุปกรณ์ และอัปเดต iOS เช่นเดียวกับการอัปเดตซอฟต์แวร์ปกติ
สิ่งที่คุณจะได้ทดลองใช้งานกับแพลตฟอร์มมือถือรุ่นล่าสุดจากแอปเปิลคือ การปรับปรุงในส่วนของศูนย์ควบคุม (Control Center), มีการรีดีไซน์หน้าแจ้งเตือนใหม่, พัฒนาความสามารถของ Siri ด้วยเสียงใหม่ทั้งหมด, ฟีเจอร์ห้ามรบกวนในขณะขับรถ, ระบบการชำระเงินแบบ Peer-to-Peer ใน iMessage, ความสามารถในการทำงานมัลติทาสกิ้งใหม่ทั้งหมดบน iPad พร้อมแอปฯ switcher ที่มีการปรับปรุงใหม่ และคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมาย
มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญบางอย่างที่มาพร้อมการปรับปรุงใหม่นี้คือ มุ่งเน้นความสมจริงไปกับเทคโนโลยี ARKit ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างประสบการณ์การใช้งาน AR ในแอปฯของตนได้ง่ายและสะดวกขึ้น เช่น นำมาใช้กับเกมชื่อดังอย่าง Minecraft
โดยเวอร์ชั่นเต็มของ iOS 11 คาดจะถูกปล่อยราวๆ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ หลังจากที่มีการเปิดตัว iPhone ตัวใหม่ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดมักจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน
ที่มา TechSpot