หลังจากที่มีการเปิดตัวระบบปฏิบัติการของ iPhone iPod และ iPad อย่าง iOS 11 ที่จะเปิดให้อัปเดตช่วงเดือนกันยายนนี้ โดยใน iOS 11 นี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่ Control Center ที่มีการออกแบบใหม่ทั้งหมด สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระผ่าน 3D Touch จะเป็นอย่างไรไปดูกันครับ
ในการใช้ 3D Touch จะใช้กับแถบ Music เมื่อทำการกดแบบ deep press (กดแบบเน้นน้ำหนักมากกว่าปกติ) จะมี Pop-up ออกมาเป็นแอป Music ขนาดย่อม สามารถปรับเพิ่มเสียง-ลดเสียงได้ เปลี่ยนเพลงได้ และยังสามารถใช้วิธีนี้กับแถบ Airplane Mode, Wi-Fi, Bluetooth, และ Cellular Data ได้อีกด้วย เมื่อกดแล้วจะมี AirDrop และ Personal Hotspot ออกมาให้ตั้งค่ากันง่ายๆ ไม่ต้องเข้าผ่าน Settings เหมือนเมื่อก่อน
ใน Control Center ของ iOS 11 นั้นจะสามารถปรับแต่งได้ว่าจะให้แสดงอะไรหรือซ่อนอะไรไว้ตามการใช้ของผู้ใช้เอง แต่ถึงอย่างนั้นจะมีข้อจำกัดอยู่ทีจะมีบางอย่างที่ไม่สามารถซ่อนได้ก็คือ Music, Orientation lock, Brightness, Volume, Do Not Disturb, และ AirPlay Mirroring
ส่วนข้างล่างนี้จะเป็น Control Center ที่สามารถปรับแต่งได้
Accessibility Shortcuts
Alarm
Apple TV Remote
Calculator
Camera
Do Not Disturb While Driving
Flashlight
Guided Access
Home
Low Power Mode
Magnifier
Notes
Screen Recording
Stopwatch
Text Size
Timer
Voice Memos
Wallet
ทั้งนี้ Control Center ใน iOS 11 ยังขาดการปรับแต่งในเรื่องของการจัดหน้าเลย์เอาท์แบบ drag-and-drop อยู่ทำให้ยังดูขัดใจอยู่เล็กน้อย แต่ด้วยที่สามารถใช้งานได้แบบเต็มๆ จอ และมี Shortcut ที่เราใช้บ่อยๆ อย่าง Low Power Mode และ Accessibility Shortcuts มาให้ใช้งานเท่านี้ก็คงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้หลายๆ คนเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม iOS 11 ในตอนนี้นั้นยังเป็นเพียงเวอร์ชั่น Beta สำหรับนักพัฒนาเท่านั้น ส่วนเวอร์ชั่น Public Beta จะมาให้ดาวน์โหลดปลายเดือนมิถุนายนนี้ผ่าน Apple Beta Software Program และเวอร์ชั่นตัวเต็มจะเปิดให้ดาวน์โหลดในเดือนกันยายนนี้ครับ
IOS 11 ถือเป็นการพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นอย่างแท้จริงครับ
ที่มา : beartai.com
Control Center ใน iOS 11 มาพร้อมความสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระในแบบที่ต้องการ!
หลังจากที่มีการเปิดตัวระบบปฏิบัติการของ iPhone iPod และ iPad อย่าง iOS 11 ที่จะเปิดให้อัปเดตช่วงเดือนกันยายนนี้ โดยใน iOS 11 นี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่ Control Center ที่มีการออกแบบใหม่ทั้งหมด สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระผ่าน 3D Touch จะเป็นอย่างไรไปดูกันครับ
ในการใช้ 3D Touch จะใช้กับแถบ Music เมื่อทำการกดแบบ deep press (กดแบบเน้นน้ำหนักมากกว่าปกติ) จะมี Pop-up ออกมาเป็นแอป Music ขนาดย่อม สามารถปรับเพิ่มเสียง-ลดเสียงได้ เปลี่ยนเพลงได้ และยังสามารถใช้วิธีนี้กับแถบ Airplane Mode, Wi-Fi, Bluetooth, และ Cellular Data ได้อีกด้วย เมื่อกดแล้วจะมี AirDrop และ Personal Hotspot ออกมาให้ตั้งค่ากันง่ายๆ ไม่ต้องเข้าผ่าน Settings เหมือนเมื่อก่อน
ใน Control Center ของ iOS 11 นั้นจะสามารถปรับแต่งได้ว่าจะให้แสดงอะไรหรือซ่อนอะไรไว้ตามการใช้ของผู้ใช้เอง แต่ถึงอย่างนั้นจะมีข้อจำกัดอยู่ทีจะมีบางอย่างที่ไม่สามารถซ่อนได้ก็คือ Music, Orientation lock, Brightness, Volume, Do Not Disturb, และ AirPlay Mirroring
ส่วนข้างล่างนี้จะเป็น Control Center ที่สามารถปรับแต่งได้
Accessibility Shortcuts
Alarm
Apple TV Remote
Calculator
Camera
Do Not Disturb While Driving
Flashlight
Guided Access
Home
Low Power Mode
Magnifier
Notes
Screen Recording
Stopwatch
Text Size
Timer
Voice Memos
Wallet
ทั้งนี้ Control Center ใน iOS 11 ยังขาดการปรับแต่งในเรื่องของการจัดหน้าเลย์เอาท์แบบ drag-and-drop อยู่ทำให้ยังดูขัดใจอยู่เล็กน้อย แต่ด้วยที่สามารถใช้งานได้แบบเต็มๆ จอ และมี Shortcut ที่เราใช้บ่อยๆ อย่าง Low Power Mode และ Accessibility Shortcuts มาให้ใช้งานเท่านี้ก็คงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้หลายๆ คนเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม iOS 11 ในตอนนี้นั้นยังเป็นเพียงเวอร์ชั่น Beta สำหรับนักพัฒนาเท่านั้น ส่วนเวอร์ชั่น Public Beta จะมาให้ดาวน์โหลดปลายเดือนมิถุนายนนี้ผ่าน Apple Beta Software Program และเวอร์ชั่นตัวเต็มจะเปิดให้ดาวน์โหลดในเดือนกันยายนนี้ครับ
IOS 11 ถือเป็นการพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นอย่างแท้จริงครับ
ที่มา : beartai.com