แทปเลตของลูก ใช้ได้ปกติทุกอย่างมา ปีเศษๆ เริ่มมีอาการชาร์ตเข้าบ้าง ไม่เข้าบ้าง
เลยนำส่งเข้าศูนย์ซัมซุงตรวจสอบ วันที่มาก็บอกให้นั่งรอสักครู่ เดี๋ยวให้ช่างเช็คให้
สักครู่ก็แจ้งว่า ช่างทำความสะอาดก้นชาร์ตให้แล้ว ตอนนี้ชาร์ตเข้าแล้ว ขอชาร์ตทิ้ง
ไว้สัก 10 นาที พอถึงเวลาก็นำเครื่องมาให้และลองชาร์ตที่หน้าเคาร์เตอร์ ปรากฏว่า
ไม่เข้า ลองกี่เส้นก็ไม่เข้า เดินไปเอาสายชาร์ตของช่างเส้นที่บอกว่าชาร์เข้ามาลอง
ก็ไม่เข้าอีก
ปกติเป็นคนที่ใช้เครื่องระวังมาก ใช้แต่สายชาร์ตแท้ ก้นชาร์ตก็ไม่หลวม ไม่เคยตก
เคยหล่นเลย เลยทิ้งเครื่องไวที่ศูนย์ เพื่อให้หัวหน้าช่างที่วันนั้นไม่อยู่ มาตรวจสอบ
มาวันนี้น้องที่รับเรื่อง โทรมาแจ้งว่า ช่างเช็คดูแล้ว ถึงเปลี่ยนก้นชาร์ตก็ไม่น่าจะหาย
ต้องเปลี่ยน บอร์ด เท่านั้น และเครื่องหมดประกันแล้ว ต้องชำระเอง หกพันกว่าบาท
ทางเราก็ได้ร้องขอว่ามีทางใดที่ทำให้กลับมาใช้งานได้บ้าง ทางช่างก็ยังยืนยันว่า
ต้องเปลี่ยนบอร์ดเท่านั้น น้องที่รับเรื่องก็น่ารัก รีบไปปรึกษาหัวหน้า และแจ้งกลับมา
ว่า ช่วยได้เต็มที่ก็แค่ให้ส่วนลด % แต่ยังคงต้องจ่ายเองอีกเกือบ 4500.-
ก็เลยเป็นที่มาของการมาขอปรึกษาว่า สมควรช่อมมั้ย ส่วนตัวมองว่า มันแพงไปมั๊ย
ถ้าเปรียบเทียบ ก็เหมือน รถยนต์ ไดชาร์ตเสีย ส่งเข้าศูนย์ แล้วช่างแจ้งว่า ต้องยกเครื่อง
ตัวใหม่มาลงเลย เศร้าแทนลูก แปป....
แทปเลต samsung sm-t715y ( แทปS2 ) ก้นชาร์ตเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง ศูนย์โทรมาแจ้ง หกพันกว่า มันแพงขนาดนั้นเลยเหรอ?
เลยนำส่งเข้าศูนย์ซัมซุงตรวจสอบ วันที่มาก็บอกให้นั่งรอสักครู่ เดี๋ยวให้ช่างเช็คให้
สักครู่ก็แจ้งว่า ช่างทำความสะอาดก้นชาร์ตให้แล้ว ตอนนี้ชาร์ตเข้าแล้ว ขอชาร์ตทิ้ง
ไว้สัก 10 นาที พอถึงเวลาก็นำเครื่องมาให้และลองชาร์ตที่หน้าเคาร์เตอร์ ปรากฏว่า
ไม่เข้า ลองกี่เส้นก็ไม่เข้า เดินไปเอาสายชาร์ตของช่างเส้นที่บอกว่าชาร์เข้ามาลอง
ก็ไม่เข้าอีก
ปกติเป็นคนที่ใช้เครื่องระวังมาก ใช้แต่สายชาร์ตแท้ ก้นชาร์ตก็ไม่หลวม ไม่เคยตก
เคยหล่นเลย เลยทิ้งเครื่องไวที่ศูนย์ เพื่อให้หัวหน้าช่างที่วันนั้นไม่อยู่ มาตรวจสอบ
มาวันนี้น้องที่รับเรื่อง โทรมาแจ้งว่า ช่างเช็คดูแล้ว ถึงเปลี่ยนก้นชาร์ตก็ไม่น่าจะหาย
ต้องเปลี่ยน บอร์ด เท่านั้น และเครื่องหมดประกันแล้ว ต้องชำระเอง หกพันกว่าบาท
ทางเราก็ได้ร้องขอว่ามีทางใดที่ทำให้กลับมาใช้งานได้บ้าง ทางช่างก็ยังยืนยันว่า
ต้องเปลี่ยนบอร์ดเท่านั้น น้องที่รับเรื่องก็น่ารัก รีบไปปรึกษาหัวหน้า และแจ้งกลับมา
ว่า ช่วยได้เต็มที่ก็แค่ให้ส่วนลด % แต่ยังคงต้องจ่ายเองอีกเกือบ 4500.-
ก็เลยเป็นที่มาของการมาขอปรึกษาว่า สมควรช่อมมั้ย ส่วนตัวมองว่า มันแพงไปมั๊ย
ถ้าเปรียบเทียบ ก็เหมือน รถยนต์ ไดชาร์ตเสีย ส่งเข้าศูนย์ แล้วช่างแจ้งว่า ต้องยกเครื่อง
ตัวใหม่มาลงเลย เศร้าแทนลูก แปป....