พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง ปิดกล้องแล้ว ได้ข่าวว่าซีนสุดท้ายปิดกล้องเมื่อคืน ลากยาวเกือบถึงตี3 อาปิ่นบอกไว้ประมาณ 6 เดือน ก็ถ่ายเสร็จตามไทม์ไลน์ที่วางไว้เลย อีกไม่นานคงจะได้ดูกัน อยากจะเขียนอะไรยาวๆถึงคู่นี้บ้างค่ะ ทีเซอร์ที่เพิ่งปล่อยออกมาน่ารักมากกกกก



3 ปีที่ห่างหายกันไปเล่นกับนักแสดงท่านอื่น ก็ทำให้เราได้เห็นเคมีใหม่ๆหลายคู่เหมือนกันแฮะ อย่าง มิว-แบรี่ / มิว-พี่ติ๊ก / มิว-เต๋อ / มิว-ซันนี่ / มิว-ไม้ / โป๊ป-พลอย / โป๊บ-น้ำตาล /โป๊ป-เดียร์น่า / โป๊ป-เบลล่า ให้เรือผี มิว-แต้ว ด้วยอ่ะ 555 โป๊บ-มิว เป็นนักแสดงที่เคมีสาธารณะมากนะ เล่นกับใครคนดูก็อินได้ไม่ยากเลย

ผ่านมา 5 ปี นับตั้งแต่เห็นภาพฟิตติ้งแรกของคุณชายปวรรุจ ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมว่าคู่นี้เคมีธรรมชาติมาก พอคุณชายปวรรุจออนแอร์ แฟนละครเลยมองเห็น "เคมีคู่ขวัญ" กันได้ไม่ยาก ซึ่งมันคงไม่ได้เจอกันง่ายๆ ไม่ใช่นักแสดงเคมีสาธารณะทุกคู่วนกันแล้วจะเจอ คู่นี้ปัจจัยเรื่องสรีระก็คงมีส่วนเพราะโป๊บไม่ใช่พระเอกที่ตัวสูง พอมาเจอมิวที่เป็นนางเอกตัวเล็กมากๆ มันเลยดูสัดส่วนสมกันพอดี

ถ้าบอกว่าโป๊ป เป็นป๋าดันในละครเรื่องแรกของมิว มิวก็เป็นคนที่ทำให้ ภาพลักษณ์จากพระรองขโมยซีนมาเป็นพระเอกของโป๊ปชัดเจนและแข็งแกร่งมาก เพราะโป๊ปก็ใช้เวลาหลายปีกว่าจะก้าวมาเป็นพระเอกละครเต็มตัวอย่างทุกวันนี้ เรียกได้ว่าจับมือกันตอกเสาเข็มสถานะพระเอก-นางเอกก็ว่าได้

โป๊ปมิว เป็นคู่ที่แทบไม่มีงานวนมาเจอกันเลย ถ้าไม่ใช่ละคร และ งานประจำปีของช่อง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีงานด้วยกัน เรายังชอบเคมีของคู่นี้เสมอ ทั้งในภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เป็นคู่ที่แทบไม่เซอร์วิสแฟนๆเลย โมเม้นต่างๆที่มีมันเลยธรรมชาติแบบแรร์ไอเท็ม ซึ่งมันดีมากเลยค่ะ

ชอบการวางตัวในสถานะคู่จิ้นของ2คนนี้นะ พอดีๆ ไม่ล้ำเส้นกัน เพราะ Personal life จะเป็นยังไง คือ เรื่องของเค้าค่ะ กระแสดราม่าก่อนหน้านี้ จะคู่จิ้นใหม่เก่าอะไรก็แล้วแต่ แต่ก็ยังเห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างมิวกับนักแสดงที่ตกเป็นข่าวทุกคน ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย

ส่วนคู่นี้ เรายังคงเห็นมิตรภาพดีดีของเค้าทั้งคู่ นอกจอโป๊ปคือพี่ชายที่แสนดีสำหรับมิวเสมอ (มิวว่าอย่างงั้น 5555) เรารู้สึกว่ามิวก็ให้ความสนิทและไว้ใจโป๊ปมากพอที่จะแสดงด้วยกันแล้วลื่นไหล แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่อยู่ในจอ คนดูจะรู้สึกทันทีว่า 2 คนนี้เหมือนแฟนกันตลอดเวลา

ถ้าเคมีคู่บอยกี้ คือ ความเกรียน เคมีคู่เกรทแมท คือ คู่กัด เคมีคู่เจมส์จิ-ญาญ่า คือ ความมุ้งมิ้ง คู่โป๊ปมิว คือ อิมเมจความโรแมนติก ละมุนและอบอุ่น

จากคุณชายปวรรุจมาถึงรักออกฤทธิ์ ละครคู่ เรื่องที่2 ซึ่งเป็นละครคอมเมดี้สืบสวน จะได้กระแสในวงกว้างไม่มาก แต่เรตติ้งก็ถือว่าไม่น้อยเลยสำหรับละครพล๊อตใหม่ที่แหวกแนวแบบนั้น เรายังเห็นเคมีธรรมชาติดีๆที่ซ่อนอยู่ในฉากโรแมนติกที่ไม่ได้มีเยอะในรักออกฤทธิ์ โดยเฉพาะซีนในรถของคู่โจ-คุณวนิ


นับจากเรื่องรักออกฤทธิ์มา 3 ปีเต็ม พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง ละครคู่เรื่องที่ 3 ที่หลายคนน่าจะรอให้คู่นี้วนมาเจอกันในละครอีกครั้ง จากที่อ่านตัวบทประพันธ์ ถึงจะเป็นละครโทนรอมคอม แต่ครึ่งเรื่องหลังก็ค่อนข้างดราม่าทีเดียว บทเรื่องนี้เป็นพล๊อตที่แต่งขึ้นใหม่ ด้วยวัยของตัวละครและเนื้อเรื่อง มันก็ดูเหมาะสมกับคู่นี้มาก เป็นละครโรแมนติก คอมเมดี้ ดราม่าแบบครอบครัว ที่อบอุ่นจริงๆ บทลุงเต็งนี่ เหมือนกับเอาคุณชายปวรรุจมาเขย่ารวมกับโจตัวซวย เลยออกมาเป็นผู้ชายทะเล้น ขี้เล่น กวนๆ แต่อบอุ่นมากก เท่าที่ตามดูเบื้องหลังการถ่ายทำ โป๊ปรับมือกับเด็กๆได้ดี แถมช่วยสอนและหลอกล่อให้น้องๆแสดงได้ด้วย คงช่วยผกก.ไปได้เยอะเลยค่ะ ถึงบางฉากจะต้องทั้งบิ้ว ทั้งหลอกล่อกันหลายรอบก็เถอะ ดูเบื้องหลังแล้วปวดหัวแทน สัตว์ เด็ก เอฟเฟค สลิง ยังคงเป็นของแสลงกองถ่ายจริงๆ 5555


ส่วนอิมเมจของมิวที่ดูเป็นคุณหนู หรือท่านหญิงก็จะถูกดรอปลงมาเป็นอาชิดดาว ผู้หญิงธรรมดา จากที่อ่านตัวเล่มนิยาย เราว่าบทละครโทรทัศน์จะต้องหาเหตุผลรองรับให้ได้ว่า ทำไมอาชิดดาวถึงเป็นคนชอบหนีปัญหา เพราะนิยายไม่ได้ขยี้ปมนี้มากนัก เราชอบที่พระเอก-นางเอกเรื่องนี้มีอาชีพที่จับต้องได้ ลุงเต็ง เป็นพิธีกร+โปรดิวเซอร์รายการทีวี ส่วนอาชิดดาวเป็นพยาบาลประจำเนิร์สเซอร์รี่รับเลี้ยงเด็ก อาชีพของทั้งคู่มีส่วนสำคัญที่ทำให้ 2 ตัวละครนี้ต้องพึ่งพาอาศัยกันตั้งแต่แรก

อีกตัวละครสำคัญที่ทำให้เกิดเรื่อง คือ เจ้าหนูกาโม่ ยอดมนุษย์ตัวน้อยๆ ที่ใช้ถึง 4 แคส 4 ช่วงอายุวัย (มีตั้งแต่แรกเกิด / 1-2 ขวบ คือ น้องปลื้ม / 2-3 ขวบ คือ น้องซานต้า และ 5-6 ขวบ คือ น้องรถบัส) เพราะเนื้อเรื่องเริ่มตั้งแต่กาโม่เกิดจนจบ ยาวนานเท่าอายุของกาโม่ก็ว่าได้ ตัวแคสที่สำคัญ คือช่วงอายุ 5-6 ขวบ ซึ่งได้น้องรถบัสมาเล่น รถบัสแสดงเป็นลูกหมีในดวงใจพิสุทธิ์ได้อย่างน่ารักมาก ขโมยหัวใจคนดูไปเต็มๆ พอมาเรื่องนี้ บทของกาโม่เข้มข้นขึ้นไปอีก

เพราะกาโม่ เกิดจากพ่อ-แม่ที่ยังอยู่ในวัยที่ไม่พร้อมจะมีครอบครัว จึงโยนภาระการเลี้ยงเด็กอ่อนมาให้พระเอก ที่กลายมาเป็นคุณลุงหลานอ่อนจำเป็นอย่างไม่ทันตั้งตัว วันเวลาผ่านไปหลายปี ความผูกพันของคนเลี้ยงดูใกล้ชิด ย่อมมีสายใยมากกว่าคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อเป็นแม่แต่อยู่ห่างไกล แล้วพอพ่อแม่ตัวจริงอยากจะได้ลูกคืนไปเลี้ยงเองล่ะ ทั้งลุงทั้งหลานเลยน่าสงสารเหลือเกิน เชื่อว่าน้องรถบัสน่าจะทำได้ดีเลยค่ะ




ด้วยตัวบทประพันธ์เองที่เป็นพล๊อตใหม่ และ ชื่อเรื่องที่ดูจะไปในโทนคอมเมดี้ เลยรู้สึกว่าเรื่องนี้กระแสไม่ได้มีเยอะมากสักเท่าไหร่ตั้งแต่เปิดกล้อง ซึ่งก็อาจจะดีตรงที่ คนไม่ค่อยคาดหวังมากนัก แต่ส่วนตัวแอบรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นละครม้ามืดได้ไม่ยากเลย เพราะว่าชื่อชั้นของคนเขียนบทอย่างคุณเอกลิขิต ที่เคยพล๊อต "อุ้มรัก" ละครขึ้นหิ้งของพี่แอน-พี่เคน มาแล้ว ก็คงน่าลุ้นไม่น้อยว่าจะประสบความสำเร็จได้เหมือนกันรึปล่าว


*** รูปนี้คือ ที่มาของชื่อเรื่องซินะ 555

เดาว่าช่องน่าจะเอา "พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง" ไปออนแอร์ช่วงเดือนธันวา ใกล้ๆช่วงวันพ่อเพื่อให้เข้ากับธีมเรื่อง เพลงประกอบละครที่ปล่อยออกมาก็ติดหูมาก ชักอยากดูทีเซอร์ตัวต่อๆไปแล้วซิ

ปล. แอบอยากเห็นคู่นี้เล่นหนังด้วยกันสักเรื่องแฮะ โป๊ปเกิดจากสายหนัง ถ้าเจอกับมิวในบทที่มัน realistic กว่าละคร เคมีบนจอภาพยนตร์คงน่าสนใจดี แปลกมากที่ไม่เห็นโป๊ปเล่นหนังอีกเลย ทั้งๆที่เปิดตัวมาดีทีเดียวกับ October Sonata