ผลสอบ “กฤษดา-วิลาสิณี-อนุพงษ์” ซื้อหุ้นกู้ CPF.ถึงมือ ป.ป.ท.แล้ว

ตรวจพบหนังสือด่วนมากของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ส่งถึง ผอ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.-ไทยพีบีเอส) เพื่อขอผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ว่า กรณีไทยพีบีเอส ตกเป็นข่าวการนำเงินไปซื้อหุ้นกู้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ CPF โดยอาจเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ขัดต่อวัตถุประสงค์ ซึ่ง ท.พ.กฤษดา ได้แสดงความรับผิดชอบ ลาออกจากตำแหน่ง ผอ.ไทยพีบีเอส ไปแล้ว แต่กรรมการนโยบาย (กนย.-บอร์ด)ไทยพีบีเอส ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง ว่า การซื้อหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และ ท.พ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์  ผอ. รวมถึงนางวิลาสินี อดุลยานนท์ กับนายอนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ 2 รอง ผอ. ซึ่งร่วมลงนามให้ซื้อหุ้นกู้ด้วยนั้น มีความผิดด้วยหรือไม่ อย่างไร โดยขอให้ส่งผลสอบมายัง ป.ป.ท. ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2560

แหล่งข่าวจาก ป.ป.ท. แจ้งว่า จากหนังสือขอผลการสอบสวนดังกล่าว ปรากฏว่า ทางไทยพีบีเอส ได้ขอเลื่อนการส่งข้อมูลมายัง ป.ป.ท. โดยอ้างว่าต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง แต่ทาง ป.ป.ท.ทราบเป็นการภายในว่าคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จึงให้เวลาอีกไม่เกิน 1 สัปดาห์ ซึ่งล่าสุด ทางไทยพีบีเอสได้จัดส่งผลการสอบสวนมาให้ ป.ป.ท.แล้วในเวลาต่อมา แต่ไม่ขอเปิดเผยผลการสอบสวนดังกล่าว เนื่องจากต้องสรุปทำความเห็นและนำเสนอเลขาธิการ ป.ป.ท. เพื่อดำเนินการต่อไป


สำหรับหนังสือของ  สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ส่งถึงไทยพีบีเอส มีรายละเอียดดังนี้ หนังสือด่วนมาก ที่ ปท 0009/1215 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ถึงผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (TPBS) เรื่องขอทราบข้อเท็จจริงและขอเอกสารพยานหลักฐาน (เพิ่มเติม) ข้อความว่า ตามคำสั่งที่อ้างถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ กำหนดให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐดำเนินการให้ปรากฏผลเป็นรูปธรรมในการดำเนินมาตรการป้องกันปัญหาการทุจริต ในการนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) ได้รับข้อมูลที่ปรากฏเป็นข่าวกรณีไทยพีบีเอส TPBS ได้ซื้อหุ้นกู้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ CPF โดยอาจเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ขัดต่อวัตถุประสงค์ เสียความเป็นกลาง และได้ขอทราบข้อเท็จจริงและเอกสารหลักฐาน ซึ่ง องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ตามหนังสือที่อ้างถึง โดยระบุอยู่ในระหว่าการสอบสวนข้อเท็จจริง ดังความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น

ฉะนั้น เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามคำสั่งรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 69/2557 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2557 และตามพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สำนักงาน ป.ป.ท.ในฐานะฝ่ายเลขานการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ จึงใคร่ขอทราบผลการสอบสวนข้อเท็จจริง และรายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงพร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และขอให้จัดส่งผลการสอบสวนข้อเท็จจริงและรายงานการสอบสวนข้อเท็จจริง และเอกสารหลักฐานไปยังสำนักงาน ป.ป.ท. ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2560  หากมีข้อข้อข้องประการใด โปรดแจ้งให้ นายเอกชัย เกษมสุขธวัช นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ หมายเลขโทรศัพท์ xxx จักขอบคุณมาก ซึ่งเป็นหนังสือที่ลงนามโดยพันโทกรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ท.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่