สวัสดีค่ะ กลับมาอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน ทริปนี้เป็นทริป 2 วัน 1 คืน จากภุเก็ต ไป ระนอง เที่ยวแบบชิลๆ สบายกระเป๋า ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลยค่ะ
ทริปนี้วิเริ่มออกเดินทางจากบขส.ภูเก็ต ไปลงบขส.ระนอง ตอนตี 5 ครึ่ง ซึ่งราคาตั๋วรถจากภูเก็ตไประนองจะอยู่ที่ 225 บาท/คน และเนื่องด้วยเราออกเดินทางเช้ามาก ขึ้นรถก็หลับเลย ไม่ได้เก็บรูปเลยสักรูป
เราเดินทางมาถึงบขส.ระนอง ประมาณเที่ยงกว่าๆ จากนั้นก็นั่งรถสองแถวสีฟ้าไปลงตลาดเพื่อเช่ามอเตอไซด์ ซึ่งค่ารถสองแถวจะอยู่ที่ 15 บาท/คน
พี่คนขับใจดีมาก ส่งเราลงถึงหน้าร้าน
ร้านเช่ามอไซด์เป็นร้านเล็กๆชื่อ ร้านพลเพลส ซึ่งจะมีการวางเงินมัดจำ 1000 บาท ส่วนค่าเช่า แบบเกียร์ธรรมดาจะอยู่ที่ 200/วัน แบบออโตอยู่ที่ 250/วัน ซึ่งตรงนี้วิเลือกแบบออโต รวมมัดจำเเล้ว ทั้งหมดก็เป็น 1250 บาท
เช่ารถเสร็จแล้วเราก็ต้องไปหาที่พักต่อ ซึ่งที่พักที่เราเลือกก็อยู่ในเมืองเป็นโรงแรมทินิดี จองผ่าน booking.com ราคา 550 บาท/คืน ตรงนี้แอบกระซิบบอกก่อนว่า หากใคร walk in ราคาประมาณพันต้นๆ รวมอาหารเช้าสำหรับสองคน ซึ่งจะพักที่ตึก main ของโรงแรมจะได้สิทธิพิเศษ ลงเป็นบ่อน้ำร้อน สาละรินฟรี แต่จริงๆที่โรงแรมข้างสระว่ายน้ำก็มีบ่อน้ำร้อนนะ
เก็บสัมภาระเสร็จก็เตรียมตัวไปแว๋นกัน แต่ฝนเจ้ากรรมดันตกซะนี่ สมกับฉายา เมืองฝนแปด แดดสี่ จริ๊งจริงงงง
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราไม่มีเวลามากพอจะรอให้ฝนหยุด ดังนั้นเราจึงลุยฝนกันไปแช่น้ำร้อนๆที่บ่อน้ำร้อนสาละริน แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีแฝงอยู่ ไม่รู้ด้วยความที่ฝนตกหรือยังไง ทำให้วันนี้ไม่มีคนมาเล่นเลย ฉะนั้น บ่อทั้งสี่บ่อ จึงตกเป็นของเราปริยาย5555+
แค่นี้ก็หายหนาวแล้ววว
ตกลงไปคงไม่เหลือซาก
แช่ไปแช่มา บ่ายสามแล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปต่อที่ ระนองแคนย่อน ซึ่งขับต่อไปได้เลย อยู่ทางเดียวกัน แว๋นมอไซด์ที่นี่ไม่ใช่เรื่องยาก มีป้ายบอกทางทุกระยะและชัดเจนมากไม่ต้องกลัวหลง
ตรงนี้ปลาชุกมาก บรรยากาศก็ดี ฟินฝุดๆ
ระหว่างทางกลับกะว่าจะเเวะเที่ยววัดหาดส้มแป้น แต่ด้วยความที่เย็นมากแล้ว และเสื้อผ้าก็เปียกปอนไปหมด เราจึงตัดสินใจไม่เข้าไปในวัดดีกว่า แค่แวะถ่ายรูปที่อ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้นก็พอ...
เก็บภาพพอแล้ววันนี้ กลับที่พักอาบน้ำอาบท่า ก่อนที่จะออกไปหาอะไรกิน แต่อย่างว่าทุ่มนึงแล้วฝนยังไม่มีท่าทีว่าจะแล้งเลย เเละในชั่วโมงแห่งความหิวโหย สายตาก็เหลือบไปเห็นโปรชัวร์ของโรงแรม ปุฟเฟต์สเต็ก 199 บาท จะรออะไรล่ะ ความหิวไม่เคยปราณีใคร เราสองคนแฟนจัดสเต็กปลาไป10ชิ้นเบาๆ นี่ยังไม่รวมอาหารอื่นนะ (โอ้วแม่เจ้า คนหรือนี่ที่กิน หุหุ)
การเดินทางเช้าวันที่2เริ่มขึ้น เราเช็คเอ้าท์กันแต่เช้า เพื่อจะได้เที่ยวแบบยาวๆไม่ต้องกลับมาที่โรงแรมอีก สัมภาระก็มีแค่เป้ใบเดียวจึงไม่ยุ่งยากสำหรับการเดินทาง
โรตีร้านนี้ขึ้นชื่อ จัดเลยล่ะกาน
บรรยากาศภายในร้าน
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
อิ่มกันแล้วก็ไปขับรถเล่นในตัวเมืองใกล้ๆก่อน
พอพระ9เกจิอาจารย์
พระราชวังรัตนรังสรรค์
ระนองเป็นเมืองเล็กๆ ถนนทุกเส้นเหมือนจะทะลุกันหมด เวียนไปเวียนมาตกใจนึกว่าอยู่เมืองพม่า555+
เราขับรถตรงไปทางน้ำตกหงาว ก่อนถึงน้ำตกก็จะเป็นบ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง ซึ่งมีค่าเข้าอุทยานคนละ 20 บาทซื้อหนึ่งครั้งเข้าไปทั้งที่นี่และน้ำตกเลย
ทางเข้าบ่อน้ำแร่
น้ำตกหงาว
ก่อนกลับแวะแชะภาพที่ภูเขาหญ้า ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับน้ำตกหงาว
หาอะไรใส่ท้องก่อนเดินทางกลับ
ราดหน้าเกี๊ยว
หาอะไรทานเรียบร้อยเราก็เอามอไซด์ไปคืนที่ร้านเดิม และก็รอขึ้นรถสองแถวสีฟ้าที่หน้าร้านเลย ระหว่างนั่งสองแถวไปบขส. ยังแอบเห็นความน่ารักของผู้คนเมืองนี้
ป้าเสื้อดำคนนี้เสียค่าโดยสารให้คุณตาที่ขึ้นเพิ่งขึ้นมาจากหน้าโรงพยาบาททั้งที่ไม่รู้จักกัน
และเราก็เดินทางกลับถึงภูเก็ตโดยสวัสดิภาพ....
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
เจอกันใหม่คราวหน้า
[CR] ระนองเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก
ทริปนี้วิเริ่มออกเดินทางจากบขส.ภูเก็ต ไปลงบขส.ระนอง ตอนตี 5 ครึ่ง ซึ่งราคาตั๋วรถจากภูเก็ตไประนองจะอยู่ที่ 225 บาท/คน และเนื่องด้วยเราออกเดินทางเช้ามาก ขึ้นรถก็หลับเลย ไม่ได้เก็บรูปเลยสักรูป
เราเดินทางมาถึงบขส.ระนอง ประมาณเที่ยงกว่าๆ จากนั้นก็นั่งรถสองแถวสีฟ้าไปลงตลาดเพื่อเช่ามอเตอไซด์ ซึ่งค่ารถสองแถวจะอยู่ที่ 15 บาท/คน
ร้านเช่ามอไซด์เป็นร้านเล็กๆชื่อ ร้านพลเพลส ซึ่งจะมีการวางเงินมัดจำ 1000 บาท ส่วนค่าเช่า แบบเกียร์ธรรมดาจะอยู่ที่ 200/วัน แบบออโตอยู่ที่ 250/วัน ซึ่งตรงนี้วิเลือกแบบออโต รวมมัดจำเเล้ว ทั้งหมดก็เป็น 1250 บาท
เช่ารถเสร็จแล้วเราก็ต้องไปหาที่พักต่อ ซึ่งที่พักที่เราเลือกก็อยู่ในเมืองเป็นโรงแรมทินิดี จองผ่าน booking.com ราคา 550 บาท/คืน ตรงนี้แอบกระซิบบอกก่อนว่า หากใคร walk in ราคาประมาณพันต้นๆ รวมอาหารเช้าสำหรับสองคน ซึ่งจะพักที่ตึก main ของโรงแรมจะได้สิทธิพิเศษ ลงเป็นบ่อน้ำร้อน สาละรินฟรี แต่จริงๆที่โรงแรมข้างสระว่ายน้ำก็มีบ่อน้ำร้อนนะ
เก็บสัมภาระเสร็จก็เตรียมตัวไปแว๋นกัน แต่ฝนเจ้ากรรมดันตกซะนี่ สมกับฉายา เมืองฝนแปด แดดสี่ จริ๊งจริงงงง
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราไม่มีเวลามากพอจะรอให้ฝนหยุด ดังนั้นเราจึงลุยฝนกันไปแช่น้ำร้อนๆที่บ่อน้ำร้อนสาละริน แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีแฝงอยู่ ไม่รู้ด้วยความที่ฝนตกหรือยังไง ทำให้วันนี้ไม่มีคนมาเล่นเลย ฉะนั้น บ่อทั้งสี่บ่อ จึงตกเป็นของเราปริยาย5555+
แช่ไปแช่มา บ่ายสามแล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปต่อที่ ระนองแคนย่อน ซึ่งขับต่อไปได้เลย อยู่ทางเดียวกัน แว๋นมอไซด์ที่นี่ไม่ใช่เรื่องยาก มีป้ายบอกทางทุกระยะและชัดเจนมากไม่ต้องกลัวหลง
เก็บภาพพอแล้ววันนี้ กลับที่พักอาบน้ำอาบท่า ก่อนที่จะออกไปหาอะไรกิน แต่อย่างว่าทุ่มนึงแล้วฝนยังไม่มีท่าทีว่าจะแล้งเลย เเละในชั่วโมงแห่งความหิวโหย สายตาก็เหลือบไปเห็นโปรชัวร์ของโรงแรม ปุฟเฟต์สเต็ก 199 บาท จะรออะไรล่ะ ความหิวไม่เคยปราณีใคร เราสองคนแฟนจัดสเต็กปลาไป10ชิ้นเบาๆ นี่ยังไม่รวมอาหารอื่นนะ (โอ้วแม่เจ้า คนหรือนี่ที่กิน หุหุ)
เราขับรถตรงไปทางน้ำตกหงาว ก่อนถึงน้ำตกก็จะเป็นบ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง ซึ่งมีค่าเข้าอุทยานคนละ 20 บาทซื้อหนึ่งครั้งเข้าไปทั้งที่นี่และน้ำตกเลย
หาอะไรใส่ท้องก่อนเดินทางกลับ