คุณคิดว่าสิ่งที่เรียกว่า ‘จิตใจ’ ที่เวียนว่ายตายเกิดมีอยู่จริงไหม ? หรือ เชื่อว่าตายแล้วสูญสิ้นไปเลย!
หลายคนไม่แน่ใจในประเด็นเรื่องเหล่านี้ เพราะล้วนแต่มีประสบการณ์ร่วมแบบเดียวกันทั้งโลก คือ..
“ก็ไม่เคยตายนี่หว่า.. แล้วจะไปรู้ได้ไง ?”
แท้ที่จริงแล้ว.. เรื่องพวกนี้พอจะรู้ได้ครับ เหมือนกับการที่เรารู้ว่า ‘อะตอม’ มีอยู่จริง หรือ ‘พลังแม่เหล็ก’ มีอยู่จริงโดยเราไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่านั่นล่ะ..
“แล้วเราจะรู้ได้ไง ?”
ตอบว่า.. อุปมาเหมือนเราเดินทางออกไปนอกโลก ไปเจอดาวโลกอีกโลกหนึ่ง ซึ่งเราถือเป็นมะนาวต่างดุ๊ด..เอ้ย.. เป็นมนุษย์ต่างดาวของโลกนั้น
บังเอิญเราไปเห็นคนในโลกใหม่ เล่นกีฬาคล้ายๆ การตีเทนนิสของบ้านเรา แต่เรามองไม่เห็นลูกเทนนิส เห็นเพียงแต่ว่า เหมือนเขาวิ่งวุ่นตีอากาศไปมา.. และมีคนดูที่หันหน้าไปมา ซ้ายทีขวาที มองตามอะไรบางอย่าง
คุณคิดว่า คุณจะเดาได้ไหม ว่าสิ่งนั้นอาจจะมีลักษณะเหมือนลูกเทนนิส ? เพียงแต่เป็นพลังงานซึ่งเรามองไม่เห็นเท่านั้นเอง..
เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน.. อะไรที่เรามองไม่เห็น ใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง!
แต่เราสามารถใช้กระบวนการตั้งสมมติฐาน เหมือนที่นักฟิสิกส์ใช้อธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ของธรรมชาติบนโลกนี้ได้ นั่นคือ.. การแทนค่าพลังงานที่เราไม่เห็นนั้นเป็นลูกบอลเล็กๆ เหมือนลูกเทนนิสนั่นล่ะ ก็จะทำให้เราสามารถตอบคำถามเกมกีฬาของคนในโลกใบนั้นได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนลงตัวที่สุด เหมือนการต่อจิ๊กซอว์จนกลายเป็นภาพรวมขนาดใหญ่ ที่มีส่วนสมบูรณ์ครบถ้วนในทุกๆ ด้าน
เรื่องจิตใจ และการเวียนว่ายตายเกิดก็สามารถรู้ได้ โดยการใช้วิธีการเดียวกันนี่ละ!! โดยที่เราไม่จำเป็นต้องมีหูทิพย์ตาทิพย์ หรือ พลังสมาธิวิเศษใดๆ มาก่อนเลยก็ได้
คนที่ศึกษาพระพุทธศาสนามาสักระยะหนึ่ง จะเริ่มเห็นได้ชัดว่า หากขาดความรู้เรื่องการมีอยู่ของ ‘จิต’ และ ความเชื่อเรื่อง ‘การเวียนว่ายตายเกิด’ คำสอนต่างๆ ของพระพุทธเจ้าจะไม่สมบูรณ์ ; พระไตรปิฎก คัมภีร์ อรรถกา ฎีกา ครูบาอาจารย์ที่เราเคารพกราบไหว้บูชา จะสอนขัดแย้งกันไปเสียทั้งหมด.. เพราะทุกสิ่งจะไม่ลงตัวสอดคล้องกัน.. เหมือนกับภาพจิ๊กซอว์ที่มีบางส่วนขาดหายไป!
-----------------------------------------------------
ถึงแม้นว่าเหตุผลเพียงเท่านี้ จะไม่ทำให้หลายๆ คนเชื่อว่า จิต และการเวียนว่ายตายเกิดมีอยู่จริง ซึ่งคุณก็ได้ทำถูกต้องแล้วตามหลัก ‘กาลามสูตร’ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้ (หลักความเชื่อแบบเป็นวิทยาศาสตร์ของศาสนาพุทธ)
แต่ทั้งนี้ก็อยากจะชักชวน ให้ได้ลงมาศึกษาพระพุทธศาสนาด้วยตัวเอง นำตัวเองมาเป็นหนูทดลอง และปฏิบัติธรรม ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนไว้..
แล้ววันนั้น คำตอบจะปรากฏขึ้นแก่ใจของคุณเอง!
-----------------------------------------------------
วรวิทย์
(001 : 10 / 02 / 58 )
จิต และการเวียนว่ายตายเกิด!
คุณคิดว่าสิ่งที่เรียกว่า ‘จิตใจ’ ที่เวียนว่ายตายเกิดมีอยู่จริงไหม ? หรือ เชื่อว่าตายแล้วสูญสิ้นไปเลย!
หลายคนไม่แน่ใจในประเด็นเรื่องเหล่านี้ เพราะล้วนแต่มีประสบการณ์ร่วมแบบเดียวกันทั้งโลก คือ..
“ก็ไม่เคยตายนี่หว่า.. แล้วจะไปรู้ได้ไง ?”
แท้ที่จริงแล้ว.. เรื่องพวกนี้พอจะรู้ได้ครับ เหมือนกับการที่เรารู้ว่า ‘อะตอม’ มีอยู่จริง หรือ ‘พลังแม่เหล็ก’ มีอยู่จริงโดยเราไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่านั่นล่ะ..
“แล้วเราจะรู้ได้ไง ?”
ตอบว่า.. อุปมาเหมือนเราเดินทางออกไปนอกโลก ไปเจอดาวโลกอีกโลกหนึ่ง ซึ่งเราถือเป็นมะนาวต่างดุ๊ด..เอ้ย.. เป็นมนุษย์ต่างดาวของโลกนั้น
บังเอิญเราไปเห็นคนในโลกใหม่ เล่นกีฬาคล้ายๆ การตีเทนนิสของบ้านเรา แต่เรามองไม่เห็นลูกเทนนิส เห็นเพียงแต่ว่า เหมือนเขาวิ่งวุ่นตีอากาศไปมา.. และมีคนดูที่หันหน้าไปมา ซ้ายทีขวาที มองตามอะไรบางอย่าง
คุณคิดว่า คุณจะเดาได้ไหม ว่าสิ่งนั้นอาจจะมีลักษณะเหมือนลูกเทนนิส ? เพียงแต่เป็นพลังงานซึ่งเรามองไม่เห็นเท่านั้นเอง..
เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน.. อะไรที่เรามองไม่เห็น ใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง!
แต่เราสามารถใช้กระบวนการตั้งสมมติฐาน เหมือนที่นักฟิสิกส์ใช้อธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ของธรรมชาติบนโลกนี้ได้ นั่นคือ.. การแทนค่าพลังงานที่เราไม่เห็นนั้นเป็นลูกบอลเล็กๆ เหมือนลูกเทนนิสนั่นล่ะ ก็จะทำให้เราสามารถตอบคำถามเกมกีฬาของคนในโลกใบนั้นได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนลงตัวที่สุด เหมือนการต่อจิ๊กซอว์จนกลายเป็นภาพรวมขนาดใหญ่ ที่มีส่วนสมบูรณ์ครบถ้วนในทุกๆ ด้าน
เรื่องจิตใจ และการเวียนว่ายตายเกิดก็สามารถรู้ได้ โดยการใช้วิธีการเดียวกันนี่ละ!! โดยที่เราไม่จำเป็นต้องมีหูทิพย์ตาทิพย์ หรือ พลังสมาธิวิเศษใดๆ มาก่อนเลยก็ได้
คนที่ศึกษาพระพุทธศาสนามาสักระยะหนึ่ง จะเริ่มเห็นได้ชัดว่า หากขาดความรู้เรื่องการมีอยู่ของ ‘จิต’ และ ความเชื่อเรื่อง ‘การเวียนว่ายตายเกิด’ คำสอนต่างๆ ของพระพุทธเจ้าจะไม่สมบูรณ์ ; พระไตรปิฎก คัมภีร์ อรรถกา ฎีกา ครูบาอาจารย์ที่เราเคารพกราบไหว้บูชา จะสอนขัดแย้งกันไปเสียทั้งหมด.. เพราะทุกสิ่งจะไม่ลงตัวสอดคล้องกัน.. เหมือนกับภาพจิ๊กซอว์ที่มีบางส่วนขาดหายไป!
-----------------------------------------------------
ถึงแม้นว่าเหตุผลเพียงเท่านี้ จะไม่ทำให้หลายๆ คนเชื่อว่า จิต และการเวียนว่ายตายเกิดมีอยู่จริง ซึ่งคุณก็ได้ทำถูกต้องแล้วตามหลัก ‘กาลามสูตร’ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้ (หลักความเชื่อแบบเป็นวิทยาศาสตร์ของศาสนาพุทธ)
แต่ทั้งนี้ก็อยากจะชักชวน ให้ได้ลงมาศึกษาพระพุทธศาสนาด้วยตัวเอง นำตัวเองมาเป็นหนูทดลอง และปฏิบัติธรรม ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนไว้..
แล้ววันนั้น คำตอบจะปรากฏขึ้นแก่ใจของคุณเอง!
-----------------------------------------------------
วรวิทย์
(001 : 10 / 02 / 58 )