หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของโลกเราพัฒนาอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะหลังปี ค.ศ. 2000
เรียกว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแทบก้าวกระโดด สินค้าเทคโนโลยีอะไรที่ออกต้นปี กลางปีหรือปลายปีก็ตกรุ่นแล้ว
ผมลองคิดเล่นๆว่า ถ้าเราย้อนเวลาแล้วนำเอาเทคโนโลยีที่เหมาะสมไปให้มนุษย์ในอดีตใช้ก่อนกาล
เช่นถ้านำไฟไปให้และสอนวิธีการใช้ให้กับมนุษย์ยุคโบราณ ป่านนี้เราอาจใช้พลังงานสะอาดทดแทนหมดทั้งโลกแล้ว
นำเทคโนโลยีไปให้ดาวินชี ป่านนี้เราอาจจะมีรถที่ไม่ต้องมีล้อหรือรถยนต์บินได้
นำเทคโนโลยีไปให้กาลิเลโอ ป่านนี้เราอาจจะศึกษาดาราศาสตร์ไปจนสุดขอบจักรวาลแล้ว
นำเทคโนโลยีไปในช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ป่านนี้เราอาจไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร
นำหลอดไฟไปให้เอดิสัน ป่านนี้เราอาจจะใช้อย่างอื่นแทนหลอดไฟ
นำเทคโนโลยีไปให้ไอน์สไตน์ ป่านนี้เราอาจมียานอวกาศที่เดินทางด้วยความเร็วแสง
นำสมาร์ทโฟนไปก่อนหน้านี้สัก 20-30ปี ป่านนี้สมาร์ทโฟนอาจจะฉายเป็นภาพสามมิติเป็นต้น
คิดว่าถ้าความเป็นจริงสามารถทำได้คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเราในยุคปัจจุบันเจริญกว่านี้ไหมครับ
สมมุติว่าถ้าเรานำเทคโนโลยีไปให้มนุษย์ในอดีตใช้จะทำให้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเราปัจจุบันเจริญกว่านี้ไหม
เรียกว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแทบก้าวกระโดด สินค้าเทคโนโลยีอะไรที่ออกต้นปี กลางปีหรือปลายปีก็ตกรุ่นแล้ว
ผมลองคิดเล่นๆว่า ถ้าเราย้อนเวลาแล้วนำเอาเทคโนโลยีที่เหมาะสมไปให้มนุษย์ในอดีตใช้ก่อนกาล
เช่นถ้านำไฟไปให้และสอนวิธีการใช้ให้กับมนุษย์ยุคโบราณ ป่านนี้เราอาจใช้พลังงานสะอาดทดแทนหมดทั้งโลกแล้ว
นำเทคโนโลยีไปให้ดาวินชี ป่านนี้เราอาจจะมีรถที่ไม่ต้องมีล้อหรือรถยนต์บินได้
นำเทคโนโลยีไปให้กาลิเลโอ ป่านนี้เราอาจจะศึกษาดาราศาสตร์ไปจนสุดขอบจักรวาลแล้ว
นำเทคโนโลยีไปในช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ป่านนี้เราอาจไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร
นำหลอดไฟไปให้เอดิสัน ป่านนี้เราอาจจะใช้อย่างอื่นแทนหลอดไฟ
นำเทคโนโลยีไปให้ไอน์สไตน์ ป่านนี้เราอาจมียานอวกาศที่เดินทางด้วยความเร็วแสง
นำสมาร์ทโฟนไปก่อนหน้านี้สัก 20-30ปี ป่านนี้สมาร์ทโฟนอาจจะฉายเป็นภาพสามมิติเป็นต้น
คิดว่าถ้าความเป็นจริงสามารถทำได้คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเราในยุคปัจจุบันเจริญกว่านี้ไหมครับ