Paradise on the ground.
///// LEH LADAKH /////

พร้อมเสิร์ฟแล้ว! สำหรับทริปที่นับว่ารสชาติดีงามที่สุด
อร่อยเลิศ ราคาบรรเจิดแตะต้องได้
และกำลังเป็นที่ยอดฮิตในหมู่คนไทยมากๆ
ใครที่ไม่ลองมาชิมเองนั้น.. จะถือว่า พ ล า ด แล้วจ้า!

สวิสเซอร์แลนด์แห่งดินแดนเอเชีย!!!
ซึ่งการที่เราจะเดินทางไปได้นั้น คือไม่มีบินตรงจากกรุงเทพ
เราจะต้องบินรูท กรุงเทพ - เดลี - เลห์ (ทั้งไปและกลับ)
ช่วงที่เราไปคือต้นเดือน พ.ค. (ที่ยังคงมีหิมะประปรายอยู่)

**อย่าหลับเพลิน เพราะตอนเครื่องลดระดับลง กรุณาเปิดหน้าต่างขึ้นซะ
พูดจริง.. ยังไม่ทันถึงพื้นเลยก็กรี้ดแล้ว สวยมากกกกกกกกกก **

พบกับ Road trip ที่โคตรมันส์ โคตรสนุก
เลาะภูเขาไปพร้อมๆกับข้างทางเป็นเหว!
กับแวดล้อมที่สวยจนไม่สามารถวางกล้องลงได้
และภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดทุกๆ 2 ชั่วโมง
พายุหิมะ / ภูเขาหิน / ทะเลทราย / ดงหญ้าสีทอง

ไม่เห็นกับตาไม่รู้สึกจริงๆ
ในรูปตระการตาขนาดไหน ของจริงคูณ 1,000,000 เข้าไปอีก
รายละเอียดทั้งหมด + ค่าใช้จ่ายทั้งมวล อยู่ที่นี่แล้ว
01 Leh

Leh Ladakh!! (Little Tibet)
ข้อมูลคร่าวๆคือเลห์เนี่ย เป็นเมืองหลวงของแคว้นลาดักส์ อยู่เขตแคชเมียร์
ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย และส่วนใหญ่เค้าจะเรียกกันว่าลิตเติ้ลทิเบต
เพราะได้รับวัฒนธรรมของทิเบตมาเยอะ

มีระดับความสูงประมาณ 3,500 - 5,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล

คำถามยอดฮิตคือ..
อยู่ลำบากมั้ย?
คำตอบคือตอนอยู่เลห์ การกินอยู่ในโรงแรมสบายมาก
ออกมาเที่ยวรอบๆก็มี Market ให้เดินหาของกินสบาย
การเดินทางไปเที่ยวที่ใกล้ๆ ก็นั่งรถตลอด มีคนมารับมาส่ง
(อันนี้ติดต่อทัวร์กับโรงแรม เค้าจะจัดการให้เลย)
แต่ระหว่างทาง!!!! แนะนำว่าใครปวดหนักปวดเบา
ก็ข้างทางไปเล้ยยย สบายใจกว่าเข้าห้องน้ำที่แบบ..
@#%*#(%+^+ อีกกกกกกกกก .

ผู้คนเป็นอย่างไร?
คนเค้าโคตรน่ารัก ใจดีมาก ใจเย็นด้วย มีชีวิตแบบ Slow Life
อยู่กับธรรมชาติโบกมือทักทายว่า Julley (จู-เล) ตลอด
ทั้งนี้ผู้คนที่นั่นก็จะไม่ได้มีใบหน้าคมกริ้บเหมือนคนอินเดียที่เราคิดกัน
เพราะเค้าได้รับการผสมผสานกับหลายเชื้อชาติ แขกดำ / แขกขาว / คนจีน เป็นต้น

ที่ปิดปากเพราะว่า กลิ่นห้องน้ำไม่ไหวล้าววววววววววว .


สัญลักษณ์ของธงสีๆนี้ที่เลห์เค้าจะเปรียบเสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านเรา
นิยมแขวนไว้เหนือลม เพราะมีความเชื่อว่า
เมื่อลมพัดผ่านธงเหล่านี้จะนำพาบทสวดไปตามสายลม
ทำให้ผู้ที่ได้รับลมนั้นได้รับพรจากบทสวดนั้นไปด้วย
ซึ่งธงแต่ละผืนจะมีตัวหนังสือถูกเขียนอยู่ พออ่านรวมกันแล้วจะกลายเป็น 1 บทสวดนั่นเอง


my driver!
my buddy!

คุณพี่ท่านนี้เค้าชื่อนีหม่ะ เป็นคนที่พาพวกเราไปสู่การ Road trip อันสมบุกสมบันในครั้งนี้
บุคคลที่ขับรถอึดที่สุดในโลกกกก ขับยาวนานเป็น 10ๆ ชม.
เลาะหินดินทรายก็แล้ว ล้อฟรีติดหิมะก็ไม่บ่นซ๊ากกกคำ
อยากให้จอดตรงไหนก็จอดให้ทุกที่ ฟังเราบ่นเป็นไทยแบบไม่รู้เรื่องนางก็ขำตามนะเออ 55555555

02 Nubra
การได้ขี่อูฐท่ามกลางทะเลทราย แล้วนั่งเป็นราชินีอยู่หลังอูฐที่ปูด้วยพรมสียิปซีๆ
นับว่าเป็นเรื่องที่อินสุดๆเรื่องนึงเชียวนะสำหรับการได้มาเยือนที่แห่งนี้

Nubra เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ในทัศนียภาพท่ามกลางธรรมชาติหลายแบบเหมือนกัน
ไม่ได้มีแค่ทะเลทรายอย่างเดียว หินดินหญ้าแห้งสีพาสเทลอะไรมีหมด
ระยะทางห่างจากเลห์ประมาณ 150 กิโลเมตร

แน่นอนว่าจุดหมายย่อมเป็นสิ่งที่เรารอคอยที่สุด
แต่สิ่งที่ประทับใจที่สุดก่อนจะมาถึงที่นี่คือ การได้ Road trip ข้ามเขาวนเขาเกือบร้อยลูกได้
ถ้าหลับบนรถนี่ถือว่าขาดทุนอย่างแรง
จะให้บรรยายออกมาเป็นคำพูดก็ไม่เท่าของจริงที่อยู่ตรงหน้าจริงๆ


03 Pangong Lake
ใช่! ทุกคนรู้กันดีว่าเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลก
แต่รู้หรือไม่ว่าน่าจะเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่สวยที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน!
และเป็นด่านที่ยากที่สุดสำหรับการมาเลห์ลาดักส์ในครั้งนี้
เนื่องด้วยระดับความสูงของที่นี่อยู่ที่ 4,350 เมตร++ ซึ่งอากาศก็จะเบาบางมาก
อ๊อกซิเจนก็จะน้อยลง แถมหนาวเหน็บเจ็บกระดูกสุด
แต่พอได้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า พูดเลยว่า “ลืม” อาการเหล่านั้นได้อย่างสนิท
แต่อยากให้ทุกคนเตรียมร่างกายก่อนมาให้พร้อมด้วยเด้อออ อย่าประมาทเชียว :3






(เล่าต่อในคอมเม้นท์)
v
v
v