เรื่องที่เราจะเล่าเกิดจากความรู้สึกส่วนตัวจากการเห็นและมองดูการรับน้องมาหลายรุ่น
โดนส่วนตัวเป็นคนที่แอนตี้การรับน้องแบบโซตัสพอสมควร แต่ไม่ใช่แอนตี้การรับน้องไปหมดซะทีเดียว
ในมหาลัยนี้มีการรับน้องในระบบที่เรียกกันว่ารับรุ่นแทบทุกคณะสาขาวิชา ซึ่งการรับรุ่นนี้นี่แหละที่เรามองว่ามันเกินความจำเป็น ซึ่งก็มีเด็กบางส่วนที่คิดเหมือนเราแล้วเลือกออกจากรุ่นมาก็มี แต่ผลที่ตามมาจากการไม่เอารุ่นก็มี เช่น สังคมเพื่อน เพราะมีการแบ่งแยกชัดเจนระหว่างพวกเอารุ่นและไม่เอารุ่น อย่างการมีเสื้อช้อปของคณะนึง ถ้าช้อปนั้นมีการปักชื่อสาขาคือคนนั้นรับรุ่น แต่ถ้าไม่ได้ปักคือคนนั้นไม่เอารุ่น เราว่ามันเป็นการแบ่งแยกที่ค่อนข้างไม่สมควรและไม่ควรมี การรับรุ่นที่ว่ามีตั้งแต่การว้ากธรรมดา การลงโทษรุ่นน้อง รวมไปถึงการเรียกน้องไปตามหอรุ่นพี่ในยามวิกาล ทางม.ก็มีการออกกฏอย่างชัดเจนแต่ก็ยังมีการแอบรับกันเรื่อยมา การเรียกน้องไปกินเหล้าที่หอรุ่นพี่นั้นมีแทบทุกสาขาและเรียกกันแทบทุกวันปล่อยน้องกับตีสองตีสาม บางครั้งก็เช้า ก็แอบสงสัยว่ารุ่นน้องเอาเวลาที่ไหนเตรียมพร้อมไปเรียนไปสอบ เรียกซ่อมยิ่งแล้วใหญ่น้องร้องเพลงไม่ได้ มาสาย โดนลงโทษกอดคอกันลุกนั่งเป็นร้อยยกจนบางคนปวดขาแทบเดินไม่ไหว นี่ยังไม่รวมการรับรุ่นระบบช่างที่บางสาขามีเฉพาะตัว เช่น การดิ่ง การแทค ที่รุ่นน้องอาจมีการเจ็บตัว บางสาขามีการประทับตราเป็นแผลบนตัวอันนี้น่าจะความสมัครใจแต่เราก็ว่ามันเกินสมควร และอีกหลายๆสาขาที่มีการพาน้องไปลุยโคลน หรือทำกิจกรรมในพื้นที่เกษตรของชาวบ้าน เนื่องจากมีน้องๆที่หอสามารถเห็นเหตุการณ์มาเล่าให้ฟัง การไปทำแบบนั้นในพื้นที่หากินต่างๆของชาวบ้านนี่สมควรแล้วหรอ? ที่ยกตัวอย่างมามีหลายกลุ่มมากที่ทำ เราสงสารเจ้าของที่ที่ไม่รู้ว่ามีอะไรเสียหายรึป่าวเพราะเราก็ไม่รู้ว่ารุ่นพี่เอารุ่นน้องไปทำอะไร
เรื่องทั้งหมดเคยมีรุ่นน้องหลายคนแจ้งผู้ปกครองเพื่อให้แจ้งกับทางมหาลัยหลายครั้ง แทบจะทุกปีก็ว่าได้ ทางมหาลัยก็จะมีการเรียกอาจารย์ภาคให้เรียกเด็กมาตักเตือน ซึ่งผลที่ได้ก็คือการที่รุ่นพี่จะควานหาตัวรุ่นน้องที่บอกและให้ออกจากรุ่นไปตามระเบียบ อาจารย์ในภาคส่วนใหญ่ก็นิ่งเฉยเพราะรู้อยู่แล้วว่ามีการรับน้องแต่ไม่แน่ใจว่าอาจารย์รับรู้ถึงขั้นไหนนะ อันนี้นักศึกษาที่รับรุ่นหลายคนพูด อาจจะพูดแค่เพราะทะนงตัวก็ได้เราก็ไม่รู้ และแน่นอนว่าการรับรุ่นยังมีต่อไปแบบไม่สะทกสะท้าน ถึงแม้ว่าจะมีการขึ้นทัณฑ์บน หรือพักการเรียนเป็นกฏชัดเจนก็ตาม เพราะพอมีการเรียกสอบสวน ปีหนึ่งก็จะไม่กล้าพูด รุ่นพี่ยิ่งแล้วใหญ่ แต่พอมีการลงโทษจริงๆ การรับรุ่นก็จะถูกเปลี่ยนจากปีสองรับ เป็นรุ่นพี่ปีสูงรับแทนทันที
ที่มาตั้งกระทู้ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อสถานศึกษาหรือนักศึกษาแต่อย่างใด แต่ต้องการกระตุ้นให้สถานศึกษากล้าลงโทษและดูแลให้ดีกว่านี้ กับการรับน้องแบบรุ่นที่รุนแรงขึ้นทุกปี เพราะถ้ามหาลัยไม่มีการตรวจสอบที่แน่ชัดแบบนี้ ก็จะมีการรับน้องที่ส่งผลกระทบต่อการเรียน สุขภาพกาย สุขภาพจิตของนักศึกษาต่อไป
กฏหมู่ไม่ควรอยู่เหนือกฏสถานศึกษาใช่รึป่าว?
ถ้ากฏสถานศึกษาใช้ไม่ได้ควรนำกฏหมายเข้ามาหรือไม่?
โปรดใช้สติอย่าใช้อารมณ์ในการเม้นท์
การรับน้องเกินความจำเป็นของมหาลัยชื่อดังย่านคลองหก
โดนส่วนตัวเป็นคนที่แอนตี้การรับน้องแบบโซตัสพอสมควร แต่ไม่ใช่แอนตี้การรับน้องไปหมดซะทีเดียว
ในมหาลัยนี้มีการรับน้องในระบบที่เรียกกันว่ารับรุ่นแทบทุกคณะสาขาวิชา ซึ่งการรับรุ่นนี้นี่แหละที่เรามองว่ามันเกินความจำเป็น ซึ่งก็มีเด็กบางส่วนที่คิดเหมือนเราแล้วเลือกออกจากรุ่นมาก็มี แต่ผลที่ตามมาจากการไม่เอารุ่นก็มี เช่น สังคมเพื่อน เพราะมีการแบ่งแยกชัดเจนระหว่างพวกเอารุ่นและไม่เอารุ่น อย่างการมีเสื้อช้อปของคณะนึง ถ้าช้อปนั้นมีการปักชื่อสาขาคือคนนั้นรับรุ่น แต่ถ้าไม่ได้ปักคือคนนั้นไม่เอารุ่น เราว่ามันเป็นการแบ่งแยกที่ค่อนข้างไม่สมควรและไม่ควรมี การรับรุ่นที่ว่ามีตั้งแต่การว้ากธรรมดา การลงโทษรุ่นน้อง รวมไปถึงการเรียกน้องไปตามหอรุ่นพี่ในยามวิกาล ทางม.ก็มีการออกกฏอย่างชัดเจนแต่ก็ยังมีการแอบรับกันเรื่อยมา การเรียกน้องไปกินเหล้าที่หอรุ่นพี่นั้นมีแทบทุกสาขาและเรียกกันแทบทุกวันปล่อยน้องกับตีสองตีสาม บางครั้งก็เช้า ก็แอบสงสัยว่ารุ่นน้องเอาเวลาที่ไหนเตรียมพร้อมไปเรียนไปสอบ เรียกซ่อมยิ่งแล้วใหญ่น้องร้องเพลงไม่ได้ มาสาย โดนลงโทษกอดคอกันลุกนั่งเป็นร้อยยกจนบางคนปวดขาแทบเดินไม่ไหว นี่ยังไม่รวมการรับรุ่นระบบช่างที่บางสาขามีเฉพาะตัว เช่น การดิ่ง การแทค ที่รุ่นน้องอาจมีการเจ็บตัว บางสาขามีการประทับตราเป็นแผลบนตัวอันนี้น่าจะความสมัครใจแต่เราก็ว่ามันเกินสมควร และอีกหลายๆสาขาที่มีการพาน้องไปลุยโคลน หรือทำกิจกรรมในพื้นที่เกษตรของชาวบ้าน เนื่องจากมีน้องๆที่หอสามารถเห็นเหตุการณ์มาเล่าให้ฟัง การไปทำแบบนั้นในพื้นที่หากินต่างๆของชาวบ้านนี่สมควรแล้วหรอ? ที่ยกตัวอย่างมามีหลายกลุ่มมากที่ทำ เราสงสารเจ้าของที่ที่ไม่รู้ว่ามีอะไรเสียหายรึป่าวเพราะเราก็ไม่รู้ว่ารุ่นพี่เอารุ่นน้องไปทำอะไร
เรื่องทั้งหมดเคยมีรุ่นน้องหลายคนแจ้งผู้ปกครองเพื่อให้แจ้งกับทางมหาลัยหลายครั้ง แทบจะทุกปีก็ว่าได้ ทางมหาลัยก็จะมีการเรียกอาจารย์ภาคให้เรียกเด็กมาตักเตือน ซึ่งผลที่ได้ก็คือการที่รุ่นพี่จะควานหาตัวรุ่นน้องที่บอกและให้ออกจากรุ่นไปตามระเบียบ อาจารย์ในภาคส่วนใหญ่ก็นิ่งเฉยเพราะรู้อยู่แล้วว่ามีการรับน้องแต่ไม่แน่ใจว่าอาจารย์รับรู้ถึงขั้นไหนนะ อันนี้นักศึกษาที่รับรุ่นหลายคนพูด อาจจะพูดแค่เพราะทะนงตัวก็ได้เราก็ไม่รู้ และแน่นอนว่าการรับรุ่นยังมีต่อไปแบบไม่สะทกสะท้าน ถึงแม้ว่าจะมีการขึ้นทัณฑ์บน หรือพักการเรียนเป็นกฏชัดเจนก็ตาม เพราะพอมีการเรียกสอบสวน ปีหนึ่งก็จะไม่กล้าพูด รุ่นพี่ยิ่งแล้วใหญ่ แต่พอมีการลงโทษจริงๆ การรับรุ่นก็จะถูกเปลี่ยนจากปีสองรับ เป็นรุ่นพี่ปีสูงรับแทนทันที
ที่มาตั้งกระทู้ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อสถานศึกษาหรือนักศึกษาแต่อย่างใด แต่ต้องการกระตุ้นให้สถานศึกษากล้าลงโทษและดูแลให้ดีกว่านี้ กับการรับน้องแบบรุ่นที่รุนแรงขึ้นทุกปี เพราะถ้ามหาลัยไม่มีการตรวจสอบที่แน่ชัดแบบนี้ ก็จะมีการรับน้องที่ส่งผลกระทบต่อการเรียน สุขภาพกาย สุขภาพจิตของนักศึกษาต่อไป
กฏหมู่ไม่ควรอยู่เหนือกฏสถานศึกษาใช่รึป่าว?
ถ้ากฏสถานศึกษาใช้ไม่ได้ควรนำกฏหมายเข้ามาหรือไม่?
โปรดใช้สติอย่าใช้อารมณ์ในการเม้นท์