สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ประชดเขาทำไม
เขาก็ออกแล้วนั่นไง
เราว่าเขาดีออก รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
รู้แล้วก็ไม่ฝืนตัวเอง
เขาก็ออกแล้วนั่นไง
เราว่าเขาดีออก รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
รู้แล้วก็ไม่ฝืนตัวเอง
นัทธมน ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2951263 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1838798 ถูกใจ, มารอวตาร ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1561985 ถูกใจ, -APEM ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3288953 ถูกใจ, แทยอนของน้อง ถูกใจ, Saint_666_13 ถูกใจ, Be-Be xox ถูกใจรวมถึงอีก 28 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 10
คนบางคนไม่เหมาะกับการเป็นพนักงานบริษัทไม่ได้หมายความว่าชีวิตเค้าจะล้มเหลวนะครับ เค้าอาจอยู่สบายกว่าไอพวกที่คอยเหน็บเค้าด้วยซ้ำ
เห็นสตรีมไปเที่ยวไป ส่วนไอคนด่ายังนั่งทำงานโดนจิกกบาลไปวันๆ
เห็นสตรีมไปเที่ยวไป ส่วนไอคนด่ายังนั่งทำงานโดนจิกกบาลไปวันๆ
นัทธมน ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2951263 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1838798 ถูกใจ, มารอวตาร ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1561985 ถูกใจ, -APEM ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3288953 ถูกใจ, แทยอนของน้อง ถูกใจ, Saint_666_13 ถูกใจ, Be-Be xox ถูกใจรวมถึงอีก 25 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
นักแสดง
ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ (สเตฟาน)
สเตฟาน ฐสิษฐ์ เปิดใจออกจากวงการ เบื่อชีวิตเป็นดารา-ไม่ได้หยุดวันแม่
สเตฟาน ฐสิษฐ์ เผยทุกเม็ด สาเหตุออกมาจากวงการบันเทิง ยอมรับเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ไม่อยากให้ใครมาสั่ง บงการชีวิต ตอนอยู่ในวงการแทบนับวันหยุดได้ ถึงขั้นฉุนจัดด่ากราดคนในกองเพราะไม่ได้หยุดวันแม่
หากจะย้อนกลับไปเมื่อช่วง 10 ปีก่อน หนึ่งในพระเอกที่งานชุกและเป็นขวัญใจคอละครมาตลอด นั่นก็คือ สเตฟาน ฐสิษฐ์ แต่ในระยะหลัง คลื่นลูกใหม่ก็ได้เข้ามา บวกกับงานที่น้อยลง ทำให้สเตฟานหายไปจากวงการ ซึ่งล่าสุด (22 มิถุนายน 2560) สเตฟานก็ได้ออกมาเปิดเผยหมดเปลือกว่า ทำไมตนเองถึงได้หายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิง
ทั้งนี้ สเตฟาน เผยว่า ในตอนแรกที่ตนเข้าวงการบันเทิงนั้น เป็นเพราะมีคนชวนไปถ่ายโฆษณา ทำงานไม่นานได้เงินแสนกว่าบาท มันคุ้ม พอทำไปเรื่อย ๆ ก็มีคนชวนไปเล่นละคร และพอได้เงินเยอะก็เล่น ซึ่งที่ผ่านมา ตนไม่คิดว่าตัวเองคือดาราหรือพระเอก ไปไหนต้องมีสิทธิ์มากกว่าคนอื่น ตนแค่คนธรรมดาที่อยากทำงาน 8 โมงเช้าเลิกงาน 5 โมงเย็น ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่เป็นไปไม่ได้ ตนมีความสุขกับการเล่นละคร แต่ไม่มีความสุขกับการเป็นดารา เพราะตนเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ตนเหนื่อยและเบื่อที่ต้องทำตามคนอื่น ตนอยากทำอะไรที่อยากทำ ตนกลัวการถูกกักขัง กลัวไม่มีอิสระ และอยากใช้ชีวิตที่อยากใช้
ตนเล่นละครมาทั้งหมด 10 ปี แต่วันหยุดนี่นับได้เลย ถึงวันสงกรานต์ตนจะได้หยุด แต่ไม่เคยได้หยุดวันพ่อวันแม่เหมือนคนอื่น มีครั้งหนึ่งในวันแม่ ตนถ่ายละครถึง 8 โมงเช้า คิดว่าจะได้กลับบ้านแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ ทีมงานให้ตนไปอาบน้ำแล้วกลับมาตอน 11 โมงเพื่อถ่ายต่อ จนตนวีนแตกว่า ไม่มีแม่เหรอ ไอ้สั_ว์ วันนี้วันแม่นะเว้ย ยังให้กูทำงานอีกเหรอ
แม้ระยะเวลา 10 ปีในวงการเหมือนจะนาน แต่จริง ๆ มันไม่นาน ตนถ่ายละคร 1 เรื่องใช้เวลา 4-5 เดือน ตอนนั้นก็คิดว่า ก้มหน้าก้มตาถ่ายให้จบ แต่พอจบก็มีเรื่องใหม่ตามมาอีก ตนก้มหน้าอย่างนั้น 10 ปีจนรู้ตัวอีกทีก็อายุ 30 ปีแล้ว แล้วกว่าจะรู้ตัว ตนก็กลายเป็นทาสสังคม มีสังคมเป็นผู้พิพากษาที่มองมาที่เรา ตัดสินเรา ซึ่งตนไม่ชอบ ตนอยากทำในสิ่งที่อยากทำ และไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองตนอย่างไร ตนไม่ชอบที่คนอื่นมาสั่ง มาสอน มาบอกว่าเราควรใช้ชีวิตอย่างไร เราอยู่ในครอบครัวของเรา เรามีความสุข คนอื่นไม่มีสิทธิ์ยุ่ง
นอกจากนี้ สเตฟานยังบอกอีกว่า อีกสาเหตุที่ตนเลิกทำงานในวงการ เนื่องจากคุณแม่ป่วย และตนต้องการใช้เวลาอยู่กับคุณแม่ให้เต็มที่ ตนรักแม่มาก ตอนนั้นแม่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน หัวใจ โรคไต ซึ่งในตอนนั้นคุณแม่เองดื่มน้ำได้เพียงวันละ 350 มิลลิลิตรต่อวัน ตนจึงบอกแม่ว่า เวลาที่เหลือขอให้ใช้อย่างมีความสุข ซึ่งหลังจากแม่เสีย ตนก็ย้ายมาอยู่กับพ่อและน้องสาวคนเล็ก ตอนนี้คุณพ่ออายุ 76 ปี อยู่กับตนได้อีกไม่นาน แต่ตนอยากจะอยู่กับพ่อให้นานที่สุด ตนไม่ใช่ลูกที่ดี ตนยอมรับ ไม่เคยกราบพ่อแม่ อาจจะขึ้นเสียงกันบ้าง แต่ก็อยากจะอยู่กับท่านให้มีความสุข
ส่วนชีวิตในปัจจุบันตอนนี้ สเตฟาน เผยว่า ตนผันตัวมาเป็นนักสตรีมเกม เงินอาจจะไม่มากเหมือนเมื่อก่อนแต่มีความสุขมากกว่าสมัยเป็นดารา แต่ก่อนตนเล่นละคร 1 เรื่องได้เงินล้าน โชว์ตัว 1 ชั่วโมงได้เงินแสน ดื่มเหล้าวันละ 5 หมื่นบาท อยากได้รถก็ซื้อเงินสดเลย แต่ตอนนี้หันมาสตรีมเกมเพราะชอบเล่นเกม เล่นแล้วมีความสุขมาก