[CR] [ Lost in Chiangmai ] นั่งรถไฟฟรีเที่ยวเชียงใหม่ง่ายๆแบบไม่มีรถส่วนตัว

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวพันทิปทุกคน
ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่านี่เป็นกระทู้รีวิวกระทู้แรกของเรา ซึ่งตอนแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาเขียนรีวิวเลยไม่ได้ถ่ายรูปจิปาถะทั่วไปเท่าไหร่ รูปส่วนใหญ่จะเน้นบรรยากาศ แล้วก็จะมีรูปของเราปะปนบ้างนะคะเผื่อเป็นไกด์ไลน์สำหรับคนที่ไปเที่ยวและบ้ากล้อง 5555555 หากมีข้อผิดพลาดอะไรต้องขออภัยด้วยนะคะ


ในกระทู้นี้เราจะรีวิวการไปเที่ยวเชียงใหม่โดยไม่ต้องมีรถส่วนตัว(เราไปมาช่วงเดือนมกราคม 2017)
และด้วยวัยที่ยังหารายได้เองไม่ได้ก็อยากจะไปเที่ยวแบบชิวๆ ไม่ลำบากตัวเอง ไม่ลำบากครอบครัว และสุดท้ายก็ได้เลือกไปเที่ยวที่เชียงใหม่ด้วยงบไม่เกินคนละ 5000 บาท ที่สรุปแล้วก็เสียไม่ถึง 5000 บาทจริงๆด้วย โดยในทริปนี้จะมีเราและเพื่อนเราอีกหนึ่งคน ยิ้ม

เส้นทางที่เราแพลนไว้ก็คือ ดอยชัวร์ญ่า(ดอยอินทนนท์/กิ่วแม่ปาน) - ดอยหลวงเชียงดาว - ดอยอ่างขาง - ในตัวเมืองเชียงใหม่

และวิธีการเดินทางไปยังเชียงใหม่ที่พวกเราเลือกก็คือ " รถไฟฟรี " (บวกกับเช่ามอไซค์แว้นเที่ยวเอง)
ซึ่งการจะไปจองตั๋วรถไฟฟรีก็ต้องไปตั้งแต่เช้ามืดพร้อมกับบัตรประชาชนของตนเองที่สถานีหัวลำโพง
หลังจากได้ตั๋วแล้วก็กลับห้องไปนอนพักผ่อน เตรียมความพร้อมสำหรับการนั่งรถไฟจากกรุงเทพ(หัวลำโพง) - เชียงใหม่ จะเริ่มออกเดินทาง 12.45 น. - 04.05 น. (ประมาณ 16 ชั่วโมงกว่าๆตามกำหนด) ซึ่งรถไฟรอบเราก็ได้ออกเดินทางตรงเวลาเป๊ะๆ 12.45 น. (แต่ไม่เสมอไปนะที่รถไฟจะออกตรงเวลา)

บนรถไฟก็จะบรรยากาศชิวๆ ไม่มีแอร์ ต้องเปิดหน้าต่างเพื่อให้ลมพัดเข้ามาตลอดการเดินทาง เรียกได้ว่ากว่าจะไปถึงเชียงใหม่ก็หวีผมไม่ได้แล้วเพราะผมเหนียวและพันกันเป็นก้อน สำหรับผญผมยาวแนะนำให้มัดผมให้เรียบร้อยจะได้ไม่เป็นปัญหา บนรถไฟอากาศไม่ร้อนและมีของกินเทียวมาขายเรื่อยๆ ไม่ต้องเตรียมของขึ้นไปทาน ไม่ต้องกลัวอดเลยค่ะ เพราะอาหารที่แม่ค้านำมาขายก็อร่อยและมีให้เลือกหลากหลายและเหมาะกับช่วงเวลาที่ขายมากๆ ฮาๆ อย่างในช่วงบ่ายๆเย็นๆจะมีซาลาเปา น้ำหวาน ข้าวเหนียวหมูทอด ลูกชิ้น ฯลฯ ช่วงดึกๆมีโอวัลติน โจ๊ก มาม่า บลาๆๆ ขายกันทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว (ควรกำหนดงบสำหรับการซื้ออาหารบนรถไฟด้วยนะคะ เพราะถ้าไม่กำหนดงบไว้ก็จะใช้เงินบานปลายมากเพราะจะกินตลอด และราคาของก็แพงกว่าร้านค้าทั่วไปอยู่หน่อยๆค่าา)

สำหรับคนที่ไปช่วงฤดูหนาวแนะนำว่าให้พกผ้าห่มหรือเสื้อกันหนาวขึ้นไปตอนนั่งรถไฟด้วยนะคะ เพราะช่วงดึกๆอากาศจะค่อนข้างหนาว บวกกับลมพัดเย็นๆจากนอกหน้าต่างแล้วอาจจะทำให้ไม่สบายเอาได้ หรือถ้าไม่อยากสูดอากาศเอาฝุ่นเอามลภาวะเข้าไปก็พกแมสใส่ปิดปากกับจมูกไว้ก็ได้ค่า



อันนี้ก็เป็นภาพวิวจากบนรถไฟที่ถ่ายโดยกล้องฟิล์มนะคะ วิวข้างทางก็จะสวยเป็นช่วงๆ แต่ส่วนใหญ่เราหลับเลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเก็บไว้เลย 5555555555
    
ช่วงดึกๆประมาณตี 3 เพื่อนเราบอกว่ารถไฟมีปัญหา เหมือนตกลางหรือลางมีปัญหาอะไรซักอย่างทำให้ถึงเชียงใหม่ดีเลย์ 4 ชั่วโมง ซึ่งเราก็ถึงเชียงใหม่ประมาณ 8 โมงหน่อยๆ (สรุปแล้วนั่งรถไฟเป็น 20 ชั่วโมง!!!!!!)

พอออกจากสถานีรถไฟเชียงใหม่ เดินออกมาก็จะเจอเหล่ารถแดงที่คอยให้บริการผู้โดยสารทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งค่าบริการโดยปกติแล้วจะไปบริเวณคูเมืองเชียงใหม่จะไม่เกิน 30 บาท แต่เรากับเพื่อนเหมือนจะโดนราคาเรทนักท่องเที่ยวไป เลยได้ไป “ประตูเชียงใหม่” ในราคาคนละ 80 บาท!!!!
[ แนะนำให้ตกลงราคากับคนขับรถก่อนขึ้นโดยสารนะคะ แล้วก็เช็คราคาปกติทุกครั้งก่อนขึ้นรถแดงด้วย แล้วก็ทางที่ดีพูดภาษาเหนือเลยค่ะ เค้าจะคิดว่าเป็นคนพื้นที่ ราคาจะถูกลง ]

------------------------------------------------------------------------------------

DAY : 1
LOCATION : ดอยชัวร์ญ่า (มันอยู่ใกล้ๆดอยอินทนนท์กับกิ่วแม่ปานค่าา)

เมื่อมาถึงประตูเชียงใหม่แล้วนะคะ ก็แวะหาอะไรกินให้อิ่มก่อนเริ่มเดินทางค่ะ แถวนั้นจะเป็นฟีลตลาดๆ มีร้านขายข้าว ก๋วยเตี๋ยว มี 7-11 ด้วยนะ รีบไปจัดก่อนออกเดินทางได้เลยค่ะ

เมื่ออิ่มท้องแล้วนะคะเราก็เดินออกมาแถวๆถนน หารถ 2 แถวสีเหลือง ที่เขียนว่า “เชียงใหม่-จอมทอง”
นั่งยาวๆไปเลยค่ะ 2-3 ชั่วโมง จำค่าโดยสารไม่ได้แต่คนละไม่ถึง 100 บาทแน่นอน

หลังจากนั้นเค้าจะพามาลงที่ วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร บริเวณนั้นจะมี 7-11 ให้ซื้อขนมตุนไว้เพราะขึ้นไปบนดอยจะหาร้านยากแล้วนะคะ สำหรับเพื่อนๆที่อยากไปไหว้พระก่อนออกเดินทางก็ได้นะคะ (ช่วงนี้จะไม่ค่อยมีรูปเลยเพราะอึนจากการนั่งรถไฟ 20ชั่วโมงอยู่)

ถ้าพร้อมจะออกเดินทางแล้ว แนะนำอย่าขึ้นรถหน้าวัดนะคะ !!! เพราะเรทมันแพงมว้ากกแนะนำให้หันหน้าออกจากวัด และเดินไปทางซ้ายมือเรื่อยๆ จะเห็นต้นไม้ใหญ่ ร้านฝั่งตรงข้ามจะมีร้านชื่อเกรียงไกรตัวใหญ่ๆป้ายสีน้ำเงินตัวหนังสือสีขาวอยู่ค่ะ แล้วจะเจอป้ายบอกรอบเวลารถออกจาก จอมทอง - แม่แจ่ม แถวๆนั้นจะมีรถเหลืองจอดอยู่ด้วยค่ะ

สำหรับคืนแรกนะคะเราจะไปนอนที่ “ดอยชัวร์ญ่า” จริงๆแล้วแถวนั้นมีสถานที่สำหรับกางเต้นท์นอนเยอะเลย แต่พวกเราเลือกมานอนที่นี่เพราะอ่านรีวิวมานะคะ5555555

สำหรับเพื่อนๆที่จะไปบริเวณนี้ สามารถดูแมปที่เราแปะไว้และนำไปปรับใช้ได้ตามสะดวกเลยค่ะ


รอบรถจะมีดังนี้นะคะ
คิวที่ 1 รถออก 9.30 น.
คิวที่ 2 รถออก 11.30 น.    
คิวที่ 3 รถออก 13.30 น.
คิวที่ 4 รถออก 15.30 น.
คิวที่ 5 รถออก 17.30 น.
(ทั้งหมดนี้ถ้าคนเต็มรถก่อนออกก่อนค่ะ)

เราได้รถรอบ 13.30 น. ค่ะ แต่เต็มก่อนเลยออกก่อน แล้วก็บอกเค้าจะไป ​“ ดอยชัวร์ญ่า” นะคะ ซึ่งรถมันจะไม่ผ่านไปทางนั้น ถ้าจะไปนอนที่นี่ต้องเดินขึ้นเองค่ะ แต่กระทู้ที่เราอ่านมาพี่คนขับเค้าใจดีวนขับไปส่งให้ แต่!!!!! เราไม่ได้โชคดีอย่างนั้นไงคะ จะเดินทางตามกระทู้พันทิปก็อย่าคิดว่าจะโชคดีเหมือนคนอื่นเค้านะคะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยแบกของเดินขึ้นเนินเขาร้อนๆแบบเรากับเพื่อน 555555 เดินเองก็ไกลอยู่อะค่ะ เป็นโลๆเลยแต่กะไม่ได้ว่ากี่โลหรือจริงๆแล้วไม่ถึงโล แต่ที่แย่ก็คือเป็นช่วงบ่ายที่อากาศร้อน + ของที่เตรียมมาหนักมาก เสื้อผ้าสำหรับอยู่เชียงใหม่หลายวัน ไดร์เป่าผม ครีมอาบนำแชมพูบลาๆๆ และเต้นท์อีก 1 หลัง เดินขึ้นเนินไปก็หลังเดาะเอาเหมือนกันค่ะ

และแล้วก็ไปถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ(พร้อมเหงื่อเป็นลิตร) ก็เข้าไปติดต่อขอจองที่กางเต้นท์ได้เลยย

สำหรับที่กางเต้นท์ที่นี่ก็จะเป็นขั้นๆค่ะ วิวงามอยู่ แล้วก็มีห้องน้ำแยกหญิงชาย มีเต้นท์ มีเครื่องนอนให้เช่า เรากับเพื่อนที่เอาเต้นท์มาเองก็นอนเต้นท์ตัวเองและเช่าหมอน ผ้าห่ม ฟูกกันเองค่ะ ราคาอย่างละ 50 บาท สมมติหมอน 2 ใบก็ 100 บาทค่ะ + 50 ไปเรื่อยๆ (นอนสบายก็แพงหน่อยนะ 555555)

เมื่อได้ที่หลับที่นอนแล้วก็ถึงเวลามาเดินสำรวจบริเวณดอยชัวร์ญ่ากันน !!!!


อันนี้บรรยากาศรอบๆที่กางเต้นท์นะคะ จะเป็นแบบนี้เลย วิวดีมากกกก


ที่กางเต้นท์เลือกได้เองเลยนะคะ แต่ถ้ามาถึงเย็นก็จะมีที่เหลือให้เลือกน้อย แนะนำให้มาเวลาประมาณเราก็ได้ค่ะ


มองออกไปจากที่พักตัวเอง ลองซูมกล้องด้วยเลนส์ซุม 250 mm. จะเจอน้ำตกบนภูเขาแบบนี้ !!!!


นี่ก็เป็นวิวอีกด้านของที่พักค่ะ เหมือนจะเป็นไร่อะไรสักอย่าง อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน 55555


ถ่ายวิวแล้ว ถ่ายคนกันบ้างดีกว่า เลือกที่ที่เหมาะ แสงที่เหมาะแล้วลุยโลดดด


นอกจากจะมีวิวเป็นไร่และน้ำตกแล้ว ช่วงฤดูหนาวที่ดอยชัวร์ญ่ามีดอกพญาเสือโคร่งด้วยยยยย




พอเดินๆถ่ายรูปเล่นกันจนหนำใจแล้วก็เย็นๆแล้วค่ะ อากาศเริ่มหนาวเย็นตั้งแต่ตอนเย็นเลย จึงขอแวะไปอาบน้ำแต่งตัวและออกมาหาอะไรทาน ที่นี่เองก็มีร้านหมูกระทะอยู่ใกล้ๆ รู้สึกว่าจะราคาชุดละประมาณ 500-600 บาท แต่ตอนนั้นเพื่อนยื้อไว้บอกว่าให้รอไปทานที่อื่น ร้านขายของชำก็จะมีมาม่าคัพ โจ๊กคัพ ขนมขบเคี้ยว น้ำดื่ม นม อะไรประมาณนี้ค่ะ ราคาก็จะแพงกว่า 7-11 แต่เราคงไม่สามารถหอบทุกอย่างจากข้างล่างเพื่อขึ้นมาได้ ก็ต้องยอมเสียในราคาที่แพงกว่า วันนั้นเลยกินมาม่าคัพไปค่ะ รู้สึกจะคัพละ 25 บาท แต่ฟินมากเพราะว่าอากาศเย็นมากก

แล้วก็แถวๆนั้นมีร้านเหล้าด้วยนะคะ ติดกับที่พักเลย ชื่อร้าน “สบายดี สี่องศา” ชาร์จไม่แพงด้วย ถูกกว่ากทมหลายๆร้าน ชุดเล็ก 360 บาท ชุดใหญ่ 500 บาท มีน้ำเปล่ากับน้องแข็งให้ จะนั่งกินที่ร้านหรือสั่งให้เค้าไปส่งที่เต้นท์ก็ได้ค่ะ (แต่เราไม่ได้กินนะะ)

ด้วยความเพลียในวันนั้นก็ทำให้นอนเร็วมาก หลังจากกินมาม่าไปนอนๆเล่นในเต้นท์ก็หลับแบบไม่รู้เรื่องเลยค่ะ พี่ๆเต้นท์อื่นที่เอารถส่วนตัวมาส่วนใหญ่ก็จะนำของมาทำอาหารข้างๆเต้นท์ตัวเองกัน


---------------------------------------------------------------------------------------

DAY : 2
LOCATION : กิ่วแม่ปาน - ดอยหลวงเชียงดาว

ตื่นเช้ามาก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนดีเพราะไม่มีรถ พอลองไปถามกับทางที่พักว่ามีบริการเรียกรถมั้ยก็แพงมาก จนถอดใจไปละว่ามาที่นี่คงไม่ได้ไปกิ่วแม่ปาน คงไม่ได้ไปดอยอินทนนท์ แต่ด้วยความใจกล้าของเพื่อนเราก็ไปถามพี่เต้นท์ข้างๆว่าวันนี้พี่เค้าจะไปเที่ยวมั้ย จะได้ขอติดรถไปด้วย ถึงแม้ว่าตอนขาขึ้นเราจะไม่โชคดีแบบกระทู้ในพันทิปแต่ว่าตอนนี้เราก็โชคดีได้ติดรถพี่ๆเค้าขึ้นไปกิ่วแม่ปานด้วยนะจ๊าา

พี่เค้ามากัน 2 คนเป็นแฟนกันรวมกับพวกเราก็ 4 คน นั่งกันบนรถสบายๆ พี่ก็ชวนคุย ถามนู่นถามนี่ไปเรื่อยๆจนถึงกิ่วแม่ปาน

“กิ่วแม่ปาน” หรือ “เส้นทางศึกษา กิ่วแม่ปาน” มีระยะทางทั้งหมดประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดิน 2-3 ชั่วโมง

จะมีเจ้าหน้าที่นำทาง โดยมีค่าใช้จ่าย 200 บาท/กลุ่ม อย่างพวกเราไปกัน 4 คนงี้ก็เสียคนละแค่ 50 บาทเท่านั้น ระหว่างเดินจะมีจุดให้แวะพักเป็นจุดๆไม่ได้เดินยาวทีเดียว โดยพี่ที่นำทางก็จะแล้วแต่เราว่าจะพักนานมั้ย จะแวะถ่ายรูปมั้ย คือเค้าจะไม่ทิ้งเราเลย อยู่กับพวกเราตลอดจนจบการเดินทาง ระหว่างทางก็มีดอกไม้ต้นไม้สวยๆแปลกๆหายากอยู่มากมาย ทางเดินก็ไม่ได้เดินลำบากมาก แล้วก็ควรพกน้ำขวดเล็กๆไปด้วยเพราะระหว่างทางจะหิวน้ำค่ะ แล้วก็อากาศเย็นสบายตลอดสายเลย พูดง่ายๆคือเหนื่อยเมื่อยแต่เหงื่อไม่ค่อยออก ฮาๆ

ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเล้ยยย!


ระหว่างทางก็จะประมาณนี้ มีต้นไม้เยอะมาก ดอกไม้สวยๆเพียบเลย



ทางเดินจะมีช่วงที่เป็นร่มๆบ้าง บางช่วงก็ต้องออกแดดกันหน่อย







เมื่อมาถึงจุดสูงสุดแล้วจะเจอวิวที่สวยงามตระการตามากๆ สามารถแวะไปถ่ายรูปกันได้เลย


ชื่อสินค้า:   ภาพถ่าย ท่องเที่ยว ป่า เขา ทะเล ชีวิต อิสระ ธรรมชาติ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่