เนื่องจากวันนี้ผมได้ไปสัมภาษณ์วีซ่าประเภท B1/B2. ที่สถานทูตอเมริกามา แล้วเค้าให้ผมไม่ผ่าน ซึ่งคำถามที่เค้าถามก็จะประมาณนี้
ปล.คุยเป็นภาษาอังกฤษนะครับ
กงสุล : ไปอเมริกาทำไม
ผม : ท่องเที่ยวครับ
กงสุล : ที่ไหน
ผม : บอสตันและนิวยอร์คครับ
กงสุล : มีคนรู้จักที่นั่นไหม
ผม : ในบอสตันและนิวยอร์ค? ไม่มีครับ แต่มีเพื่อนที่ไปเวิร์คแอนด์ทราเวลอยู่ที่ลอสแองเจลิส
กงสุล : นัดเจอกับพวกเขาเหรอ?
ผม : เปล่าครับ ไม่ได้นัดกัน
กงสุล : ตอนนี้ทำอาชีพอะไร
ผม : นักศึกษาครับ
กงสุล : มหาวิทยาลัยอะไร คณะอะไร
ผม : xxxxx
กงสุล : ใครเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้
ผม : พ่อแม่ครับ
กงสุล : ไหนขอดูใบรับรองทางการเงินหน่อย
ผมก็ยื่นให้
กงสุล : เคยไปประเทศไหนมาบ้าง
ผม : เคยไปเดนมาร์กและสวีเดนครับ
กงสุล : ไปทำไม
ผม : เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนครับ
กงสุล : ขอโทษด้วย วีซ่าคุณไม่ผ่าน
หน้าชาเลยครับ แล้วก็เดินออกมาเงียบๆ
ทีนี้ผมอยากทราบว่า ถ้าจะไปยื่นอีกครั้งในช่วงเวลาเร็วๆนี้ให้เร็วที่สุดจะมีโอกาสถูกปฏิเสธอีกครั้งมากน้อยขนาดไหนครับ เพราะปีที่สามารถไปเที่ยวได้ในฐานะนักศึกษาก็เหลือแค่ปีนี้ เพราะปีหน้าต้องฝึกงาน ปีต่อไปก็ต้องทำงานแล้ว
ขออยากให้ช่วยวิเคราะห์สาเหตุเกี่ยวกับการถูกปฏิเสธวีซ่าอเมริกาครับ
ปล.คุยเป็นภาษาอังกฤษนะครับ
กงสุล : ไปอเมริกาทำไม
ผม : ท่องเที่ยวครับ
กงสุล : ที่ไหน
ผม : บอสตันและนิวยอร์คครับ
กงสุล : มีคนรู้จักที่นั่นไหม
ผม : ในบอสตันและนิวยอร์ค? ไม่มีครับ แต่มีเพื่อนที่ไปเวิร์คแอนด์ทราเวลอยู่ที่ลอสแองเจลิส
กงสุล : นัดเจอกับพวกเขาเหรอ?
ผม : เปล่าครับ ไม่ได้นัดกัน
กงสุล : ตอนนี้ทำอาชีพอะไร
ผม : นักศึกษาครับ
กงสุล : มหาวิทยาลัยอะไร คณะอะไร
ผม : xxxxx
กงสุล : ใครเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้
ผม : พ่อแม่ครับ
กงสุล : ไหนขอดูใบรับรองทางการเงินหน่อย
ผมก็ยื่นให้
กงสุล : เคยไปประเทศไหนมาบ้าง
ผม : เคยไปเดนมาร์กและสวีเดนครับ
กงสุล : ไปทำไม
ผม : เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนครับ
กงสุล : ขอโทษด้วย วีซ่าคุณไม่ผ่าน
หน้าชาเลยครับ แล้วก็เดินออกมาเงียบๆ
ทีนี้ผมอยากทราบว่า ถ้าจะไปยื่นอีกครั้งในช่วงเวลาเร็วๆนี้ให้เร็วที่สุดจะมีโอกาสถูกปฏิเสธอีกครั้งมากน้อยขนาดไหนครับ เพราะปีที่สามารถไปเที่ยวได้ในฐานะนักศึกษาก็เหลือแค่ปีนี้ เพราะปีหน้าต้องฝึกงาน ปีต่อไปก็ต้องทำงานแล้ว