อย่างผมเองจบสายช่าง-วิศวะ มา อย่างแรก สิ่งที่ผมพบกับผมเอง เพื่อนร่วมงาน หรือน้องๆ ที่ฝึกงานก็คือ การกล้าที่จะแสดงความเห็นของคนไทย ทำให้เราดูจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ค่อยมีอะไรใหม่ๆ อันนี้ต้องปรับอย่างหนักสำหรับเด็กไทย เพราะเราฝึกให้ยอมรับมากกว่าจะเสนออะไรใหม่ๆ มาตั้งแต่เด็กๆ ถ้าไปทำกิจกรรมกลุ่มกับต่างชาติ คนไทยเราจะนำเสนออะไรหลังๆ เสมอ
อย่างที่สองก็คงเรื่องภาษา เราเรียนภาษากันมาหลายปีดีดัก แต่เรียนเพื่อสอบ ไม่ได้เรียนเพื่อพูดสื่อสาร มีเยอะมากที่เรียนกันได้ A B ที่พูดจริงทำไม่ได้
อย่างที่สาม การนำเสนอข้อมูล รายงานด้านหน้าห้อง น้อยคนจริงๆ ที่จะออกไปแล้วพูดได้คล่องแคล่ว นำเสนอได้ดี ต้องทำงานมานานเลยกว่าจะทำได้ ซึ่งเมื่อเทียบกับชาติอื่นๆ เรายังด้อยมาก บางครั้งข้อมูลที่เขาออกไปนำเสนอ เป็นข้อมูลที่เราก็รู้ ดูง่ายๆ แต่เขาก็เรียบเรียงและกล้าที่จะออกไปนำเสนอได้
อย่างที่สี่สำหรับสายวิศวะ ก็คือการลงไม้ลงมือ อยากให้หลักสูตรเอาจริงเอาจังกับ แลป งานโปรเจ็คต่างๆ อย่างน้อยก็เพื่อฝึกการลงมือปฏิบัติจริง กับความรับผิดชอบในงาน เหมือนระยะหลังจะด้อยลงไป วิศวะจบมาน่าจะทำอะไรได้จริงๆ จังๆ ด้วย
อย่างที่ห้า ก็คืออยากให้ปรับหลักสูตรการสื่อสาร ที่สมัยเรียนดูเป็นวิชาการมาก ลงมาให้เป็นแบบการเรียนเพื่อให้เข้ากับคนในสังคมได้ง่าย เช่นการพูดเล่น ออกไปร้องรำทำเพลงด้านหน้า มีอะไรตลกๆ มานำเสนอด้านหน้า คือเป็นวิชาสื่อสารแบบสันทนาการ มากกว่าที่จะเรียนการสื่อสารแบบเฉพาะในตำรา
คิดเห็นกันยังไงครับ ถ้าไปบอกคนเขียนหลักสูตร คนที่จัดการเรียนการสอน จะไปบอกอะไรเพื่อเด็กรุ่นใหม่ๆ มาบ้าง
แต่ผมดีใจอย่างที่เด็กจบสายช่าง วิศวะ ไม่ค่อยเจอคนที่ฟุ้มเฟ้ออะไรมาก กินอยู่ง่ายๆ คล้ายๆ กัน
> ถ้าได้กลับไปบอกที่ มหา'ลัย-วิทยาลัย ที่เรียนมา อะไรคือสิ่งที่คุณจะบอกเพื่อให้เขาปรับหลักสูตรหรือการเรียนการสอน <
อย่างที่สองก็คงเรื่องภาษา เราเรียนภาษากันมาหลายปีดีดัก แต่เรียนเพื่อสอบ ไม่ได้เรียนเพื่อพูดสื่อสาร มีเยอะมากที่เรียนกันได้ A B ที่พูดจริงทำไม่ได้
อย่างที่สาม การนำเสนอข้อมูล รายงานด้านหน้าห้อง น้อยคนจริงๆ ที่จะออกไปแล้วพูดได้คล่องแคล่ว นำเสนอได้ดี ต้องทำงานมานานเลยกว่าจะทำได้ ซึ่งเมื่อเทียบกับชาติอื่นๆ เรายังด้อยมาก บางครั้งข้อมูลที่เขาออกไปนำเสนอ เป็นข้อมูลที่เราก็รู้ ดูง่ายๆ แต่เขาก็เรียบเรียงและกล้าที่จะออกไปนำเสนอได้
อย่างที่สี่สำหรับสายวิศวะ ก็คือการลงไม้ลงมือ อยากให้หลักสูตรเอาจริงเอาจังกับ แลป งานโปรเจ็คต่างๆ อย่างน้อยก็เพื่อฝึกการลงมือปฏิบัติจริง กับความรับผิดชอบในงาน เหมือนระยะหลังจะด้อยลงไป วิศวะจบมาน่าจะทำอะไรได้จริงๆ จังๆ ด้วย
อย่างที่ห้า ก็คืออยากให้ปรับหลักสูตรการสื่อสาร ที่สมัยเรียนดูเป็นวิชาการมาก ลงมาให้เป็นแบบการเรียนเพื่อให้เข้ากับคนในสังคมได้ง่าย เช่นการพูดเล่น ออกไปร้องรำทำเพลงด้านหน้า มีอะไรตลกๆ มานำเสนอด้านหน้า คือเป็นวิชาสื่อสารแบบสันทนาการ มากกว่าที่จะเรียนการสื่อสารแบบเฉพาะในตำรา
คิดเห็นกันยังไงครับ ถ้าไปบอกคนเขียนหลักสูตร คนที่จัดการเรียนการสอน จะไปบอกอะไรเพื่อเด็กรุ่นใหม่ๆ มาบ้าง
แต่ผมดีใจอย่างที่เด็กจบสายช่าง วิศวะ ไม่ค่อยเจอคนที่ฟุ้มเฟ้ออะไรมาก กินอยู่ง่ายๆ คล้ายๆ กัน