Despicable Me 3 (Kyle Balda, Pierre Coffin, 2017) คะแนน C+
By Form Corleone
"หนังมีความน่ารักผนวกความสร้างสรรค์เหมือนเคยเพียงแต่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำ" ถ้าจะหวังเพียงความสนุกเพียงอย่างเดียวภาคนี้คงจะตอบโจทย์ความสนุกได้ไม่ยาก ตัวหนังเองสามารถรับชมได้อย่างเพลิดเพลินไม่มีพิษมีภัยใดๆอยู่แล้ว ความบ้าบอหรือความวุ่นวายของเหล่า 'มินเนี่ยน' น่าจะเป็นส่วนที่สร้างสรรค์หรือแปลกใหม่ที่สุดของเรื่องซึ่งมันเล่นใหญ่จนขโมยซีนทุกอย่างไปแบบไม่ต้องสงสัย ทำให้ช่วงเวลาระหว่างความสัมพันธ์ของตัวละครถูกลดทอนลงไปค่อนข้างเยอะ และน่าเสียดายที่ตัวหนังเลือกที่จะเล่าความสัมพันธ์พี่น้องหรือความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวได้จืดมากทั้งๆที่มีประเด็นที่น่าสนใจมาก และแม้ว่าตัวละครจะเป็นตัวร้ายหรือวายร้ายที่กลับใจเป็นคนดีแต่เราไม่รู้สึกอินหรือชอบในมุมนั้น จนทำให้เรานึกถึงหนังการ์ตูนอีกเรื่องคือ 'Megamind' หนังการ์ตูนคนละค่ายที่เราชอบมากกว่าแต่ตัวหนังดันไม่ประสบความสำเร็จเท่า ‘Despicable Me’ สำหรับภาคนี้ตัวหนังมีอะไรคล้ายกันจนทำให้เรานึกถึง ทั้งตัวร้ายที่ไม่มีคนดีคอยต่อกรหรือวายร้ายที่กลับใจเป็นคนดี รวมไปถึงเพลงประกอบอีกด้วย แต่ก็ไม่ได้เหมือนเสียทั้งหมดหนังยังคงมีไอเดียใหม่ๆหรืออะไรแปลกๆให้เราได้เห็นอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของ 'Despicable Me 3' ยังคงตอบโจทย์ความสนุกสนาน ความน่ารักน่าชังของตัวละคร ความคิดสร้างสรรค์ในหลายๆฉากของเหล่ามินเนี่ยนน่าจะทำให้ใครหลายๆคนรู้สึกเพลินๆได้ไม่ยาก แม้มุขตลกจะมีโดนบ้างฝืดบ้างแต่ก็พอรับได้ ถึงแม้ว่าตัวเหล่ามินเนี่ยนจะโชว์ของกันมากแค่ไหนก็ตาม ตัวหนังก็ยังคงมีบทภาพยนตร์ที่พอใช้รองรับไม่ให้ออกนอกทะเลไปไกล ด้วยการวางโครงเรื่องเอาไว้ค่อนข้างดีจึงทำให้หนังยังคงอยู่ในลู่ทางที่ควรจะเป็น ประเด็นที่ชื่นชอบคือการหยิบเอาดาราวัยเด็กที่โตขึ้นมาแล้วถูกคนลืมจนกลายเป็นตัวร้าย สะท้อนถึงตัวดาราวัยเด็กหลายๆคนที่กลายเป็นแบบตัวละครในเรื่องเมื่อเติบโตขึ้น จึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากๆที่จะใส่ข้อมูลบางอย่างให้กับเด็กๆหรือพยายามทำให้เด็กโด่งดังโดยอาศัยความน่ารักและความไร้เดียงสาจนถึงวันที่พวกเขาโตขึ้น หน้าตาเริ่มมีสิว เสียงเริ่มแตกหนุ่ม คุณค่าว่าน่ารักในวัยเด็กก็ถูกโยนทิ้งและกลายสภาพเป็นคนที่ไม่ถูกนิยมอีกต่อไปซึ่งผลกระทบจะตกอยู่ที่ใครถ้าไม่ใช่ตัวเด็กเอง พวกเขาไม่ได้รับโอกาสเหมือนตอนเป็นเด็กอีกแล้ว รวมไปถึงครอบครัวของ กรู ที่มีน้องชายฝาแฝดที่แบกรับความกดดันในการเป็นวายร้ายให้ได้เหมือนพ่อ ทั้งหมดจึงสะท้อนถึงการเลี้ยงดูของผู้ปกครองได้อย่างแยบยล สำหรับเราแอบเสียดายที่หนังไม่ได้เจาะจงเล่นประเด็นนี้มากเท่าที่ควร ดังนั้นแล้ว ตัวหนังจึงเป็นเพียงความสนุกที่แฝงอะไรไว้เล็กๆแต่ไม่ถึงกับน่าจดจำแต่อย่างใดครับ
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ตัวอย่างหนัง
ฝากกด like page ด้วยนะครับ
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: Despicable Me 3 (Kyle Balda, Pierre Coffin, 2017) เขียนโดย Form Corleone
By Form Corleone
"หนังมีความน่ารักผนวกความสร้างสรรค์เหมือนเคยเพียงแต่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำ" ถ้าจะหวังเพียงความสนุกเพียงอย่างเดียวภาคนี้คงจะตอบโจทย์ความสนุกได้ไม่ยาก ตัวหนังเองสามารถรับชมได้อย่างเพลิดเพลินไม่มีพิษมีภัยใดๆอยู่แล้ว ความบ้าบอหรือความวุ่นวายของเหล่า 'มินเนี่ยน' น่าจะเป็นส่วนที่สร้างสรรค์หรือแปลกใหม่ที่สุดของเรื่องซึ่งมันเล่นใหญ่จนขโมยซีนทุกอย่างไปแบบไม่ต้องสงสัย ทำให้ช่วงเวลาระหว่างความสัมพันธ์ของตัวละครถูกลดทอนลงไปค่อนข้างเยอะ และน่าเสียดายที่ตัวหนังเลือกที่จะเล่าความสัมพันธ์พี่น้องหรือความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวได้จืดมากทั้งๆที่มีประเด็นที่น่าสนใจมาก และแม้ว่าตัวละครจะเป็นตัวร้ายหรือวายร้ายที่กลับใจเป็นคนดีแต่เราไม่รู้สึกอินหรือชอบในมุมนั้น จนทำให้เรานึกถึงหนังการ์ตูนอีกเรื่องคือ 'Megamind' หนังการ์ตูนคนละค่ายที่เราชอบมากกว่าแต่ตัวหนังดันไม่ประสบความสำเร็จเท่า ‘Despicable Me’ สำหรับภาคนี้ตัวหนังมีอะไรคล้ายกันจนทำให้เรานึกถึง ทั้งตัวร้ายที่ไม่มีคนดีคอยต่อกรหรือวายร้ายที่กลับใจเป็นคนดี รวมไปถึงเพลงประกอบอีกด้วย แต่ก็ไม่ได้เหมือนเสียทั้งหมดหนังยังคงมีไอเดียใหม่ๆหรืออะไรแปลกๆให้เราได้เห็นอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของ 'Despicable Me 3' ยังคงตอบโจทย์ความสนุกสนาน ความน่ารักน่าชังของตัวละคร ความคิดสร้างสรรค์ในหลายๆฉากของเหล่ามินเนี่ยนน่าจะทำให้ใครหลายๆคนรู้สึกเพลินๆได้ไม่ยาก แม้มุขตลกจะมีโดนบ้างฝืดบ้างแต่ก็พอรับได้ ถึงแม้ว่าตัวเหล่ามินเนี่ยนจะโชว์ของกันมากแค่ไหนก็ตาม ตัวหนังก็ยังคงมีบทภาพยนตร์ที่พอใช้รองรับไม่ให้ออกนอกทะเลไปไกล ด้วยการวางโครงเรื่องเอาไว้ค่อนข้างดีจึงทำให้หนังยังคงอยู่ในลู่ทางที่ควรจะเป็น ประเด็นที่ชื่นชอบคือการหยิบเอาดาราวัยเด็กที่โตขึ้นมาแล้วถูกคนลืมจนกลายเป็นตัวร้าย สะท้อนถึงตัวดาราวัยเด็กหลายๆคนที่กลายเป็นแบบตัวละครในเรื่องเมื่อเติบโตขึ้น จึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากๆที่จะใส่ข้อมูลบางอย่างให้กับเด็กๆหรือพยายามทำให้เด็กโด่งดังโดยอาศัยความน่ารักและความไร้เดียงสาจนถึงวันที่พวกเขาโตขึ้น หน้าตาเริ่มมีสิว เสียงเริ่มแตกหนุ่ม คุณค่าว่าน่ารักในวัยเด็กก็ถูกโยนทิ้งและกลายสภาพเป็นคนที่ไม่ถูกนิยมอีกต่อไปซึ่งผลกระทบจะตกอยู่ที่ใครถ้าไม่ใช่ตัวเด็กเอง พวกเขาไม่ได้รับโอกาสเหมือนตอนเป็นเด็กอีกแล้ว รวมไปถึงครอบครัวของ กรู ที่มีน้องชายฝาแฝดที่แบกรับความกดดันในการเป็นวายร้ายให้ได้เหมือนพ่อ ทั้งหมดจึงสะท้อนถึงการเลี้ยงดูของผู้ปกครองได้อย่างแยบยล สำหรับเราแอบเสียดายที่หนังไม่ได้เจาะจงเล่นประเด็นนี้มากเท่าที่ควร ดังนั้นแล้ว ตัวหนังจึงเป็นเพียงความสนุกที่แฝงอะไรไว้เล็กๆแต่ไม่ถึงกับน่าจดจำแต่อย่างใดครับ
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ตัวอย่างหนัง
ฝากกด like page ด้วยนะครับ
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/