ก่อนอื่น อยากชวนเปิดเพลงนี้ เพื่อฟังประกอบบทความ
ออกตัวก่อนว่า เพิ่งรู้จักวงนี้ได้ไม่นานมากนัก โดยมารู้จักจากกระทู้ในพันทิป
https://ppantip.com/topic/36056544
แต่รู้สึกชอบเพลงที่ฟังแล้วดูมีกำลังใจแปลกๆ
โดยส่วนตัวแล้วก็ชื่นชอบเพลงญี่ปุ่นมาโดยตลอด เช่น L'Arc en Ciel, Kuraki Mai, Depapepe, AKB48
ก็รู้แหละว่ามีภาพยนตร์เรื่องนี้ เข้าฉายที่ญี่ปุ่น แต่ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครนำเข้ามาฉายในประเทศไทย
แต่ก็มีเข้ามา ถึงจะเป็นการจำกัดโรงแค่ 3 ที่ทั่วประเทศก็ตามเถอะ แต่แค่นี้ก็ฟินในระดับหนึ่งแล้ว
เมื่อวานเลยลาก คุณแฟน ที่ไม่ได้ชอบหนังแนวนี้สักเท่าไหร่ ไปดูด้วย (แค่นี้นางก็แซวว่าเป็นโอตาคุ) ซะแล้ว
ซึ่งโดยส่วนตัวที่ พอจะอ่านข้อมูลของวง GREEEEN มาก่อน ก็คาดหวังไว้ว่า อาจจะได้เจอช่วงสำคัญๆ ของวง แต่...น้อยมาก
พูดถึงข้อดีของเรื่องก่อน จินหล่อมาก ริกะสวยเงียบๆ ดี เพลงเพราะใช้ได้เลย ใครที่ได้มาดูคงได้มาเป็นแฟนคลับของวงนี้ได้ไม่ยาก
เสน่ห์ของหนังญี่ปุ่นอีกอย่าง ในการแสดงของนักแสดง การสร้างช่วงนิ่ง ถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน แต่ที่อยากมาเล่า ในเชิงคาดหวังไว้
คือ เรื่องของบท ที่ยังไม่สุด ยังไม่ดีพอ
1. จุดที่วง GREEEEN ต่างออกไปจากวงอื่นๆ คือ การไม่ขายหน้าตา (หรือจะเรียกว่า ปกปิดตัวตน) ตลอด 10 ปีกว่า ยังไม่มีใครรู้ตัวตนของพวกเขาเลย
ซึ่งการที่ค่ายเพลงตัดสินใจเลือกทางนี้ มันคงเป็นอะไรที่พิเศษเอามากๆ แต่ในเรื่อง...มีพูดถึงอยู่ จิ๊ดนึง ทั้งที่ถ้าเอามาเป็นประเด็นในการต่อสู้ ว่าทำไมถึงปิดบัง มันสามารถดึงความเข้าใจได้มากกว่า "ถ้าพ่อรู้คงเอามีดกระซวกแน่เลย"
เอาจริง จำลองการไปออกสัมภาษณ์ครั้งแรกของพวกเขา แบบปิดหน้า ให้ดูสักนิดยังได้เลย
2. นอกจากฮิเดะ จิน ริกะ เชื่อว่าหลายคนจำชื่อของสมาชิกในวงอีก 3 คนแทบไม่ได้เลย
คืออย่างที่รู้กัน GREEEEN เป็นวงที่ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน แต่ในเรื่องนอกจาก ฮิเดะ และครอบครัว แล้ว อีก 3 คนแทบไม่ได้รับการแบ่งบทอะไรให้เลย ถ้าไม่รวมช่วงร้องเพลง บทพูดของทั้ง 3 คนรวมกัน ยังไม่ถึง A4 สักแผ่นเลยมั้ง (สมาชิกอีก 3 คนมีชื่อตามนี้ คนใส่แว่น นาวี คนใส่หมวก คุนิ และคนสูงๆ โซ)
เรื่องควรเพิ่มบทของทั้ง 3 คนไปให้มากกว่านี้ไหม แต่ในเรื่องแทบจะก่อให้เกิดความรู้สึก 3 คนเป็นแค่ตัวประกอบ ไหลเลยตามเลย ไม่มีความรู้สึกเป็นของตัวเองเลย จะร้องเพลงก็ตาม จะแสดง Live สด ก็ตามเลย จะออก CD ก็ตามเลย จะไม่ออกก็ตามเลย จะยุบวงก็ตามเลย
มันลดเสน่ห์ลงไปเยอะเลย
3. จุดพีคของเรื่อง...คือตรงไหน
เป็นธรรมดาของภาพยนตร์ ที่เปิดเรื่อง กลางเรื่อง จุดพีค และจบ สำหรับเรื่องนี้ จุดพีค น่าจะเป็นช่วงเวลาที่คะแนนสอบ "น่าจะไม่ดี" จนสร้างแรงกดดัน แรงเครียด ให้กับ ฮิเดะ จน...หายเอง
อ้าวเฮ้ย?
ทั้งที่สามารถใส่ประเด็น ความรักพี่น้อง มิตรภาพ ความรักในครอบครัว เข้ามาในเรื่องได้แต่ไม่มี และเราแทบไม่เข้าใจถึงความเครียด ความกดดันของฮิเดะได้เลย (ในมุมการถ่ายทำ สามารถใช้เทคนิคหลายอย่างให้คนดูรู้สึกตามไปกับตัวละครได้ ยกตัวอย่าง "ฉลาดเกมส์โกง" ที่เราจะรู้สึกไปด้วย) แต่ในเรื่องนี้ เราแทบจะไม่ได้รู้สึกร่วมไปกับ ฮิเดะ เลย
เอาจริง สำหรับคนที่ตามข้อมูลของวงนี้มา ผมอยากเสนอช่วงพีคจริงๆ ของเรื่องควรเป็นช่วงประกาศพักงาน หลังจากที่สมาชิกในวง มีคนที่สอบใบประกอบวิชาชีพไม่ผ่าน (สำหรับวงที่ไม่เปิดเผยหน้าตา การหายไปสักปีมันส่งผลกระทบมากๆ) มันคงเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญเลย และนำเสนอภาพของมิตรภาพในวงได้ดีกว่านี้
4. ความขัดแย้งในครอบครัว สลายลงได้ใน...ตอนไหน?
เป็นประเด็นที่นำเสนอมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ถึงประเด็นความไม่พอใจในครอบครัว ที่พ่อไม่เห็นด้วยกับการเล่นดนตรี ที่มองว่าดนตรีเอาชนะหมอไม่ได้ เพราะรักษาคนไม่ได้ ซึ่งโดนมาตั้งแต่รุ่นพี่ จนถึงน้อง ซึ่งก็มีการปะทะกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสำหรับคนดู จะเห็นว่า พ่อรู้สึกเพลงช่วยเยียวยาจิตใจคนไข้ได้ แต่ยังไงเสียพ่อก็ไม่รู้ว่า GREEEEN คือใคร และจบเรื่องในมุมที่พ่อยอมรับลูก ก็...ไม่รู้ว่าไปยอมรับจากสาเหตุไหน?
โดยรวมของเรื่อง ชอบนะ แฟนคลับที่ติดตามแล้วคงฟิน คนที่ไม่ใช่แฟนคลับก็ดูได้ อบอุ่นดี เพลงเพราะ ได้คำแปลก็ช่วยสร้างความรู้สึกดีๆ ได้อีกมาก แนะนำให้ไปดูกัน แต่ส่วนติ ก็ความคิดเห็นส่วนตัว ที่คิดว่า ฟินนะแต่ไม่อิ่ม มันไปได้ดีกว่านี้เยอะเลย
Kiseki หนังดีๆ เพลงเพราะๆ เรื่องราวอบอุ่น แต่ยังฟินไม่เต็มอิ่ม และควรไปต่อได้อีก [Spoil]
ออกตัวก่อนว่า เพิ่งรู้จักวงนี้ได้ไม่นานมากนัก โดยมารู้จักจากกระทู้ในพันทิป https://ppantip.com/topic/36056544
แต่รู้สึกชอบเพลงที่ฟังแล้วดูมีกำลังใจแปลกๆ
โดยส่วนตัวแล้วก็ชื่นชอบเพลงญี่ปุ่นมาโดยตลอด เช่น L'Arc en Ciel, Kuraki Mai, Depapepe, AKB48
ก็รู้แหละว่ามีภาพยนตร์เรื่องนี้ เข้าฉายที่ญี่ปุ่น แต่ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครนำเข้ามาฉายในประเทศไทย
แต่ก็มีเข้ามา ถึงจะเป็นการจำกัดโรงแค่ 3 ที่ทั่วประเทศก็ตามเถอะ แต่แค่นี้ก็ฟินในระดับหนึ่งแล้ว
เมื่อวานเลยลาก คุณแฟน ที่ไม่ได้ชอบหนังแนวนี้สักเท่าไหร่ ไปดูด้วย (แค่นี้นางก็แซวว่าเป็นโอตาคุ) ซะแล้ว
ซึ่งโดยส่วนตัวที่ พอจะอ่านข้อมูลของวง GREEEEN มาก่อน ก็คาดหวังไว้ว่า อาจจะได้เจอช่วงสำคัญๆ ของวง แต่...น้อยมาก
พูดถึงข้อดีของเรื่องก่อน จินหล่อมาก ริกะสวยเงียบๆ ดี เพลงเพราะใช้ได้เลย ใครที่ได้มาดูคงได้มาเป็นแฟนคลับของวงนี้ได้ไม่ยาก
เสน่ห์ของหนังญี่ปุ่นอีกอย่าง ในการแสดงของนักแสดง การสร้างช่วงนิ่ง ถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน แต่ที่อยากมาเล่า ในเชิงคาดหวังไว้
คือ เรื่องของบท ที่ยังไม่สุด ยังไม่ดีพอ
1. จุดที่วง GREEEEN ต่างออกไปจากวงอื่นๆ คือ การไม่ขายหน้าตา (หรือจะเรียกว่า ปกปิดตัวตน) ตลอด 10 ปีกว่า ยังไม่มีใครรู้ตัวตนของพวกเขาเลย
ซึ่งการที่ค่ายเพลงตัดสินใจเลือกทางนี้ มันคงเป็นอะไรที่พิเศษเอามากๆ แต่ในเรื่อง...มีพูดถึงอยู่ จิ๊ดนึง ทั้งที่ถ้าเอามาเป็นประเด็นในการต่อสู้ ว่าทำไมถึงปิดบัง มันสามารถดึงความเข้าใจได้มากกว่า "ถ้าพ่อรู้คงเอามีดกระซวกแน่เลย"
เอาจริง จำลองการไปออกสัมภาษณ์ครั้งแรกของพวกเขา แบบปิดหน้า ให้ดูสักนิดยังได้เลย
2. นอกจากฮิเดะ จิน ริกะ เชื่อว่าหลายคนจำชื่อของสมาชิกในวงอีก 3 คนแทบไม่ได้เลย
คืออย่างที่รู้กัน GREEEEN เป็นวงที่ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน แต่ในเรื่องนอกจาก ฮิเดะ และครอบครัว แล้ว อีก 3 คนแทบไม่ได้รับการแบ่งบทอะไรให้เลย ถ้าไม่รวมช่วงร้องเพลง บทพูดของทั้ง 3 คนรวมกัน ยังไม่ถึง A4 สักแผ่นเลยมั้ง (สมาชิกอีก 3 คนมีชื่อตามนี้ คนใส่แว่น นาวี คนใส่หมวก คุนิ และคนสูงๆ โซ)
เรื่องควรเพิ่มบทของทั้ง 3 คนไปให้มากกว่านี้ไหม แต่ในเรื่องแทบจะก่อให้เกิดความรู้สึก 3 คนเป็นแค่ตัวประกอบ ไหลเลยตามเลย ไม่มีความรู้สึกเป็นของตัวเองเลย จะร้องเพลงก็ตาม จะแสดง Live สด ก็ตามเลย จะออก CD ก็ตามเลย จะไม่ออกก็ตามเลย จะยุบวงก็ตามเลย
มันลดเสน่ห์ลงไปเยอะเลย
3. จุดพีคของเรื่อง...คือตรงไหน
เป็นธรรมดาของภาพยนตร์ ที่เปิดเรื่อง กลางเรื่อง จุดพีค และจบ สำหรับเรื่องนี้ จุดพีค น่าจะเป็นช่วงเวลาที่คะแนนสอบ "น่าจะไม่ดี" จนสร้างแรงกดดัน แรงเครียด ให้กับ ฮิเดะ จน...หายเอง อ้าวเฮ้ย?
ทั้งที่สามารถใส่ประเด็น ความรักพี่น้อง มิตรภาพ ความรักในครอบครัว เข้ามาในเรื่องได้แต่ไม่มี และเราแทบไม่เข้าใจถึงความเครียด ความกดดันของฮิเดะได้เลย (ในมุมการถ่ายทำ สามารถใช้เทคนิคหลายอย่างให้คนดูรู้สึกตามไปกับตัวละครได้ ยกตัวอย่าง "ฉลาดเกมส์โกง" ที่เราจะรู้สึกไปด้วย) แต่ในเรื่องนี้ เราแทบจะไม่ได้รู้สึกร่วมไปกับ ฮิเดะ เลย
เอาจริง สำหรับคนที่ตามข้อมูลของวงนี้มา ผมอยากเสนอช่วงพีคจริงๆ ของเรื่องควรเป็นช่วงประกาศพักงาน หลังจากที่สมาชิกในวง มีคนที่สอบใบประกอบวิชาชีพไม่ผ่าน (สำหรับวงที่ไม่เปิดเผยหน้าตา การหายไปสักปีมันส่งผลกระทบมากๆ) มันคงเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญเลย และนำเสนอภาพของมิตรภาพในวงได้ดีกว่านี้
4. ความขัดแย้งในครอบครัว สลายลงได้ใน...ตอนไหน?
เป็นประเด็นที่นำเสนอมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ถึงประเด็นความไม่พอใจในครอบครัว ที่พ่อไม่เห็นด้วยกับการเล่นดนตรี ที่มองว่าดนตรีเอาชนะหมอไม่ได้ เพราะรักษาคนไม่ได้ ซึ่งโดนมาตั้งแต่รุ่นพี่ จนถึงน้อง ซึ่งก็มีการปะทะกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสำหรับคนดู จะเห็นว่า พ่อรู้สึกเพลงช่วยเยียวยาจิตใจคนไข้ได้ แต่ยังไงเสียพ่อก็ไม่รู้ว่า GREEEEN คือใคร และจบเรื่องในมุมที่พ่อยอมรับลูก ก็...ไม่รู้ว่าไปยอมรับจากสาเหตุไหน?
โดยรวมของเรื่อง ชอบนะ แฟนคลับที่ติดตามแล้วคงฟิน คนที่ไม่ใช่แฟนคลับก็ดูได้ อบอุ่นดี เพลงเพราะ ได้คำแปลก็ช่วยสร้างความรู้สึกดีๆ ได้อีกมาก แนะนำให้ไปดูกัน แต่ส่วนติ ก็ความคิดเห็นส่วนตัว ที่คิดว่า ฟินนะแต่ไม่อิ่ม มันไปได้ดีกว่านี้เยอะเลย