ดงละคร มิติแห่ง เมืองลับแล



ดงละคร....มิติแห่งเมืองลับแล นครนายก

เสียงดนตรี"ปี่ไฉน"คล้ายความฝัน
เหล่าคนธรรพ์มาบรรเลงเพลงหรือนี่
วณิพกฤาจักเปรียบเทียบไม่มี
คล้ายที่นี่คือแผ่นดิน"อจิณไตย"

ยินสำเนียงเสียงเพลงวังเวงแว่ว
ทำนองแผ่วโหยหาอาวรณ์ไหว
สะท้อนทรวงห่วงหามาแต่ไกล
ขับกล่อมให้ชาวดินได้ยินยล

นางละครสวยสะพรั่งในวังหลวง
เหมือนติดบ่วงลวงตาพาฉงน
นี่คือภาพมิติหนึ่งตรึงใจคน
ดั่งต้องมนต์สิบห้าค่ำยามจันทร์เพ็ญ

คือสองภพมาเชื่อมเหลื่อมกันอยู่
ครั้นอยากดูอยากเห็นแต่ไม่เห็น
ด้วยกระแสบุญกรรมทำให้เป็น
จึงยอกย้อนซ่อนเร้นเป็น"นิวรณ์"

ต้น"บุญนาค"สูงทะมึนยืนเสียดฟ้า
กำแพงเมืองเก่าชรามาซุกซ่อน
คือแผ่นดินยืนยง"ดงละคร"
เแต่กาลก่อนลือเลื่อง"เมืองลับแล"

มาเยือนถิ่นแผ่นดินนี้อีกกี่ครั้ง
ศรัทธายังฝังใจไว้แน่วแน่
ฝากโบราณสถานไว้ให้ดูแล
มอบไว้แด่ลูกหลานเราชาวนครฯ(นายก)

"กมล"
๑๘ มิถุนายน๒๕๖๐
เครดติภาพ: จากอินเตอเนต

ป.ล. เคยเขียนไว้ในห้องกลอนปีกว่ามาแล้ว  เมื่อวานได้มีโอกาสกลับมาเยือนดงละครอีกครั้ง
ยังคิดถึงภาพเก่าๆและบรรยาการเดิมๆ ขออนุญาตนำบทกลอนชิ้นนี้กลับมาฝากสมาชิกห้องนักเขียน
อีกครั้ง ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่