ดงละคร....มิติแห่งเมืองลับแล นครนายก
เสียงดนตรี"ปี่ไฉน"คล้ายความฝัน
เหล่าคนธรรพ์มาบรรเลงเพลงหรือนี่
วณิพกฤาจักเปรียบเทียบไม่มี
คล้ายที่นี่คือแผ่นดิน"อจิณไตย"
ยินสำเนียงเสียงเพลงวังเวงแว่ว
ทำนองแผ่วโหยหาอาวรณ์ไหว
สะท้อนทรวงห่วงหามาแต่ไกล
ขับกล่อมให้ชาวดินได้ยินยล
นางละครสวยสะพรั่งในวังหลวง
เหมือนติดบ่วงลวงตาพาฉงน
นี่คือภาพมิติหนึ่งตรึงใจคน
ดั่งต้องมนต์สิบห้าค่ำยามจันทร์เพ็ญ
คือสองภพมาเชื่อมเหลื่อมกันอยู่
ครั้นอยากดูอยากเห็นแต่ไม่เห็น
ด้วยกระแสบุญกรรมทำให้เป็น
จึงยอกย้อนซ่อนเร้นเป็น"นิวรณ์"
ต้น"บุญนาค"สูงทะมึนยืนเสียดฟ้า
กำแพงเมืองเก่าชรามาซุกซ่อน
คือแผ่นดินยืนยง"ดงละคร"
เแต่กาลก่อนลือเลื่อง"เมืองลับแล"
มาเยือนถิ่นแผ่นดินนี้อีกกี่ครั้ง
ศรัทธายังฝังใจไว้แน่วแน่
ฝากโบราณสถานไว้ให้ดูแล
มอบไว้แด่ลูกหลานเราชาวนครฯ(นายก)
"กมล"
22/09/59
เครดิตภาพ:ขอบคุณภาพจากเฟสบุ๊ค
ดงละคร....มิติแห่งเมืองลับแล นครนายก
เสียงดนตรี"ปี่ไฉน"คล้ายความฝัน
เหล่าคนธรรพ์มาบรรเลงเพลงหรือนี่
วณิพกฤาจักเปรียบเทียบไม่มี
คล้ายที่นี่คือแผ่นดิน"อจิณไตย"
ยินสำเนียงเสียงเพลงวังเวงแว่ว
ทำนองแผ่วโหยหาอาวรณ์ไหว
สะท้อนทรวงห่วงหามาแต่ไกล
ขับกล่อมให้ชาวดินได้ยินยล
นางละครสวยสะพรั่งในวังหลวง
เหมือนติดบ่วงลวงตาพาฉงน
นี่คือภาพมิติหนึ่งตรึงใจคน
ดั่งต้องมนต์สิบห้าค่ำยามจันทร์เพ็ญ
คือสองภพมาเชื่อมเหลื่อมกันอยู่
ครั้นอยากดูอยากเห็นแต่ไม่เห็น
ด้วยกระแสบุญกรรมทำให้เป็น
จึงยอกย้อนซ่อนเร้นเป็น"นิวรณ์"
ต้น"บุญนาค"สูงทะมึนยืนเสียดฟ้า
กำแพงเมืองเก่าชรามาซุกซ่อน
คือแผ่นดินยืนยง"ดงละคร"
เแต่กาลก่อนลือเลื่อง"เมืองลับแล"
มาเยือนถิ่นแผ่นดินนี้อีกกี่ครั้ง
ศรัทธายังฝังใจไว้แน่วแน่
ฝากโบราณสถานไว้ให้ดูแล
มอบไว้แด่ลูกหลานเราชาวนครฯ(นายก)
"กมล"
22/09/59
เครดิตภาพ:ขอบคุณภาพจากเฟสบุ๊ค