10 วิธีการท่องเที่ยวในยุโรปให้สนุกและประหยัด
ไม่ได้มาโพสกระทู้นานเลย คราวนี้ผมได้รวบรวมวิธีการเตรียมตัวก่อนเดินทางไปยุโรปในแบบสั้นๆของผม
ที่จะทำให้ทริปยุโรปสนุกและไม่แพงอย่างที่คิดครับ จะมีอะไรบ้างลองไปดูกันครับ
1. จองตั๋วรถไฟล่วงหน้า
80% ของการเดินทางในยุโรปมักจะเป็นการเดินทางด้วยรถไฟ และการจองตั๋วรถไฟเพื่อเดินทางระหว่างเมืองในยุโรปนั้น ส่วนใหญ่จะจองได้ก่อนเดินทางประมาณ 90 วัน ซึ่งในช่วงแรกๆราคาตั๋วรถไฟจะยังไม่สูงมากนัก แต่ราคาจะปรับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆเมื่อใกล้วันเดินทาง สำหรับคนที่มีแผนการเดินทางที่แน่นอนแล้ว ผมก็แนะนำให้รีบจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าก่อนได้เลยครับเพราะจะทำให้ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้มากทีเดียว
2. เดินทางเป็นกลุ่มมักประหยัดกว่า
ประเทศในในยุโรปมักสนับสนุนการเดินทางพร้อมกันหลายคน
ยกตัวอย่างเช่นตั๋วรถไฟ German Rail Pass ของเยอรมัน ถ้าซื้อแบบเดินทางพร้อมกัน 2 คน จะประหยัดกว่าซื้อแยกกันถึง 25% ครับประหยัดไปได้หลายพันบาท หรือการซื้อตั๋วรถไฟแบบหลายเที่ยวในบางประเทศแล้วแบ่งกันใช้กับเพื่อน ก็จะประหยัดกว่าซื้อตั๋วทีละใบเกือบครึ่ง ก่อนเดินทางจึงแนะนำให้ศึกษาตั๋วรถไฟของประเทศที่เราจะเดินทางให้ดีครับ
3. ใช้การเดินทางด้วยเครื่องบินโลว์คอส
ในบางครั้งการเดินทางด้วยรถไฟอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด ให้เราลองเช็คราคาเครื่องบินของสายการบินแบบโลว์คอสต่างๆด้วยเช่น EasyJet, Germanwings, Norwegian Air เพราะในบางครั้งการเดินทางด้วยเครื่องบินก็จะประหยัดเงินและเวลากว่าการเดินทางด้วยรถไฟ
4. จองที่พักกับ www.airbnb.com
สำหรับโรงแรมที่พักในยุโรปราคาจะค่อนข้างสูงครับ แต่การจองที่พักกับ airbnb ราคาจะถูกกว่ากันมากแถมยังพักได้หลายคน ก็ประหยัดไปได้อีก ทำเลก็อยู่ที่งบประมาณของเราครับ ผมเคยพักที่พักซึ่งอยู่ใกล้กับ Louvre Museum ในปารีสเป็นบ้านทั้งหลัง มี 2 ชั้น ราคาวันละประมาณไม่ถึง 6000 บาท พักได้ 4 คน ก็ประหยัดไปได้เยอะมากถ้าเทียบกับโรงแรมที่มีทำเลที่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวและรถไฟใต้ดินแบบนี้ครับ
*** การจองห้องพักกับ airbnb ในยุโรปอาจจะมี host ”บางส่วน” ปฏิเสธผู้เข้าพักแถบเอเชียอย่างเราๆครับ อาจจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ครับ จึงทำให้เสียเวลาในการหาที่พักซักนิด ผมแนะนำว่าให้ลองหาที่พักที่มีคนเอเชียรีวิวไว้หรือเป็นเลือกเป็นแบบ Instant Book ก็จะทำให้เราได้ที่พักง่ายขึ้นครับ การจองที่พักกับ airbnb นั้นก็เหมือนกับการจองโรงแรมทั่วไป มีทั้ง host ที่ดีและไม่ดี ข้อแนะนำในการเลือกที่พักของที่นี่ก็คือ “ให้ดูรีวิวจากผู้เข้าพักก่อนหน้า ยิ่งมีรีวิวทางบวกเยอะๆจะยิ่งน่าเชื่อถือได้มากครับ” ซึ่งจากที่ผมเข้าพักมาไม่ต่ำกว่า 10 ครั้งก็มีปัญหาน้อยมากๆครับ ***
5. หลีกเลี่ยงช่วงไฮซีซั่น(ฤดูร้อน)ในยุโรป
ช่วงไฮซีซั่นของยุโรปจะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจะเยอะเป็นพิเศษ การขึ้นรถไฟ ต่อคิวเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อาจทำให้เราหงุดหงิดกับอากาศที่ร้อนและคิวที่ยาวได้ รวมถึงในบางประเทศในรถไฟและโรงแรมส่วนใหญ่จะไม่มีแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ เพราะในยุโรปจะนิยมใช้กันเฉพาะฮีทเตอร์ครับ มันจะทรมานมากสำหรับคนไทยอย่างเรา
6. ซื้อของกินและน้ำดื่มแบบคนพื้นที่ (Eat like a local)
ร้านค้าหรือร้านอาหารส่วนใหญ่ตามสถานที่ท่องเที่ยวอาหารและเครื่องดื่มราคาจะค่อนข้างแพง และบางครั้งก็ไม่อร่อยเอาซะเลย เพื่อนผมคนนึงชอบพูดร้านแบบนี้เป็น Tourist Trap
เวลาที่ผมเดินทางมักจะมองหาร้านค้าหรือร้านอาหารที่เป็นคนพื้นที่ใช้บริการกันเพราะนอกจากจะรสชาติดีแล้ว ราคาก็มักจะไม่สูงมากครับ อีกเรื่องคือน้ำดื่มผมแนะนำว่าควรซื้อตามซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ ราคาจะถูกกว่าร้านตามข้างถนนมากๆ(อารมณ์เหมือนซื้อน้ำแบบแพ็คตาม BigC หรือ Lotus จะถูกกว่าซื้อในเซเว่น) และควรซื้อเป็นขวดใหญ่จะยิ่งถูกกว่าแบบขวดเล็ก แต่ระวังจะซื้อผิดเป็นน้ำโซดานะครับ เพราะที่ยุโรปเค้าจะนิยมดื่มน้ำโซดากันมากๆ ผมก็พลาดมาหลายครั้งแล้ว ฮา
7. ใช้รูปเป็นตัวช่วยในการสื่อสาร
สำหรับในบางประเทศที่ไม่นิยมใช้ภาษาอังกฤษ อาจจะเป็นสำเนียงที่ฟังยาก หรือเราอาจจะอ่านคำสะกดได้ไม่ถูกต้อง การสื่อสารย่อมเป็นเรื่องที่ยากครับ และสำหรับคนที่ไม่เก่งภาษาแนะนำให้ถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร หรือแม้กระทั่งเอกสารสำคัญพวกหน้า passport, ใบจองรถไฟหรือโรงแรมต่างๆเผื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉินครับ
8. เลือกซื้อซิมสำหรับใช้ internet ให้เหมาะกับการใช้งาน
การสื่อสารและการใช้ internet ก็เป็นอีกเรื่องที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้ อย่างทริปล่าสุดผมลงทุนซื้อ Pocket Wifi ไว้ใช้เองในราคาประมาณ 1600 บาท กับซิมยุโรปซึ่งสามารถใช้ได้เกือบทุกประเทศราคา 999 บาท (Data 12GB ใช้ได้ 30 วันเป็นซิมของ 3UK ซึ่งมีขายในไทย) สามารถแชร์กันใช้ได้ถึง 10 เครื่อง ส่วนตัวเครื่อง Pocket Wifi ก็สามารถเก็บไว้ใช้ในทริปต่อๆไปได้อีกครับ
แต่สำหรับคนที่เดินทางคนเดียว จะใช้พวก Sim2Fly ของ ais ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ส่วนการใช้ Data Roaming จากเมืองไทยราคาค่อนข้างจะสูง จึงไม่แนะนำครับ หรือถ้าเดินทางไปประเทศเดียวไม่ได้เข้าออกหลายประเทศ ก็แนะนำให้ใช้เป็นซิมของประเทศนั้นๆไปเลยครับ ราคาจะค่อนข้างถูกทีเดียว
9. ใช้แอปปลิเคชั่นบนมือถือให้เป็นประโยชน์
นอกจากแอปปลิเคชั่นที่ใช้ดูพวกสถานีรถไฟ, แผนที่, สภาพอากาศ ยังสามารถใช้สื่อสารหรือแปลภาษาได้อีกครับ แอปปลิเคชั่นที่ผมใช้ประจำก็จะมีพวก Google Maps, Maps.me, Google Translate, Weather
ในหลายครั้งผมมักใช้ Google Translate ในการแปลภาษาบนฉลากของกินที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
และนอกจากนั้นผมยังใช้ Youtube เซฟรายการที่ชอบไว้ดูแบบ offline เพื่อแก้เบื่อในทริปที่ต้องเดินทางนานๆ โดยไม่ต้องใช้ internet ได้ด้วยครับ
10. ค้นหาร้านอาหารยอดนิยมในจาก www.tripadvisor.com
แน่นอนที่สุด กองทัพต้องเดินด้วยท้องการกินย่อมเป็นเรื่องสำคัญ ก่อนเดินทางผมมักจะหาร้านอาหารที่คนแนะนำจากเวปนี้ เพราะนอกจากจะหาง่ายแล้วยังสามารถตั้งงบประมาณสำหรับค้นหาร้านอาหารในพื้นที่ที่ต้องการได้ ทำให้ผมชอบใช้เวปนี้เวลาจะหาร้านอร่อยๆ ทุกครั้งที่เดินทาง นอกจากร้านอาหารยังสามารถหาโรงแรมยอดนิยม หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำจากนักเดินทางทั่วโลกผ่านเวปนี้ได้อีกด้วยครับ
สำหรับครั้งหน้าจะมีทริปหรือเทคนิคอะไรอย่าลืมติดตามกันอีกนะครับ
หรือสามารถพูดคุยกันได้ที่
https://www.facebook.com/OrpheusJourney
แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดีครับ
10 วิธีการท่องเที่ยวในยุโรปให้สนุกและประหยัด
10 วิธีการท่องเที่ยวในยุโรปให้สนุกและประหยัด
ไม่ได้มาโพสกระทู้นานเลย คราวนี้ผมได้รวบรวมวิธีการเตรียมตัวก่อนเดินทางไปยุโรปในแบบสั้นๆของผม
ที่จะทำให้ทริปยุโรปสนุกและไม่แพงอย่างที่คิดครับ จะมีอะไรบ้างลองไปดูกันครับ
1. จองตั๋วรถไฟล่วงหน้า
80% ของการเดินทางในยุโรปมักจะเป็นการเดินทางด้วยรถไฟ และการจองตั๋วรถไฟเพื่อเดินทางระหว่างเมืองในยุโรปนั้น ส่วนใหญ่จะจองได้ก่อนเดินทางประมาณ 90 วัน ซึ่งในช่วงแรกๆราคาตั๋วรถไฟจะยังไม่สูงมากนัก แต่ราคาจะปรับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆเมื่อใกล้วันเดินทาง สำหรับคนที่มีแผนการเดินทางที่แน่นอนแล้ว ผมก็แนะนำให้รีบจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าก่อนได้เลยครับเพราะจะทำให้ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้มากทีเดียว
2. เดินทางเป็นกลุ่มมักประหยัดกว่า
ประเทศในในยุโรปมักสนับสนุนการเดินทางพร้อมกันหลายคน
ยกตัวอย่างเช่นตั๋วรถไฟ German Rail Pass ของเยอรมัน ถ้าซื้อแบบเดินทางพร้อมกัน 2 คน จะประหยัดกว่าซื้อแยกกันถึง 25% ครับประหยัดไปได้หลายพันบาท หรือการซื้อตั๋วรถไฟแบบหลายเที่ยวในบางประเทศแล้วแบ่งกันใช้กับเพื่อน ก็จะประหยัดกว่าซื้อตั๋วทีละใบเกือบครึ่ง ก่อนเดินทางจึงแนะนำให้ศึกษาตั๋วรถไฟของประเทศที่เราจะเดินทางให้ดีครับ
3. ใช้การเดินทางด้วยเครื่องบินโลว์คอส
ในบางครั้งการเดินทางด้วยรถไฟอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด ให้เราลองเช็คราคาเครื่องบินของสายการบินแบบโลว์คอสต่างๆด้วยเช่น EasyJet, Germanwings, Norwegian Air เพราะในบางครั้งการเดินทางด้วยเครื่องบินก็จะประหยัดเงินและเวลากว่าการเดินทางด้วยรถไฟ
4. จองที่พักกับ www.airbnb.com
สำหรับโรงแรมที่พักในยุโรปราคาจะค่อนข้างสูงครับ แต่การจองที่พักกับ airbnb ราคาจะถูกกว่ากันมากแถมยังพักได้หลายคน ก็ประหยัดไปได้อีก ทำเลก็อยู่ที่งบประมาณของเราครับ ผมเคยพักที่พักซึ่งอยู่ใกล้กับ Louvre Museum ในปารีสเป็นบ้านทั้งหลัง มี 2 ชั้น ราคาวันละประมาณไม่ถึง 6000 บาท พักได้ 4 คน ก็ประหยัดไปได้เยอะมากถ้าเทียบกับโรงแรมที่มีทำเลที่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวและรถไฟใต้ดินแบบนี้ครับ
*** การจองห้องพักกับ airbnb ในยุโรปอาจจะมี host ”บางส่วน” ปฏิเสธผู้เข้าพักแถบเอเชียอย่างเราๆครับ อาจจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ครับ จึงทำให้เสียเวลาในการหาที่พักซักนิด ผมแนะนำว่าให้ลองหาที่พักที่มีคนเอเชียรีวิวไว้หรือเป็นเลือกเป็นแบบ Instant Book ก็จะทำให้เราได้ที่พักง่ายขึ้นครับ การจองที่พักกับ airbnb นั้นก็เหมือนกับการจองโรงแรมทั่วไป มีทั้ง host ที่ดีและไม่ดี ข้อแนะนำในการเลือกที่พักของที่นี่ก็คือ “ให้ดูรีวิวจากผู้เข้าพักก่อนหน้า ยิ่งมีรีวิวทางบวกเยอะๆจะยิ่งน่าเชื่อถือได้มากครับ” ซึ่งจากที่ผมเข้าพักมาไม่ต่ำกว่า 10 ครั้งก็มีปัญหาน้อยมากๆครับ ***
5. หลีกเลี่ยงช่วงไฮซีซั่น(ฤดูร้อน)ในยุโรป
ช่วงไฮซีซั่นของยุโรปจะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจะเยอะเป็นพิเศษ การขึ้นรถไฟ ต่อคิวเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อาจทำให้เราหงุดหงิดกับอากาศที่ร้อนและคิวที่ยาวได้ รวมถึงในบางประเทศในรถไฟและโรงแรมส่วนใหญ่จะไม่มีแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ เพราะในยุโรปจะนิยมใช้กันเฉพาะฮีทเตอร์ครับ มันจะทรมานมากสำหรับคนไทยอย่างเรา
6. ซื้อของกินและน้ำดื่มแบบคนพื้นที่ (Eat like a local)
ร้านค้าหรือร้านอาหารส่วนใหญ่ตามสถานที่ท่องเที่ยวอาหารและเครื่องดื่มราคาจะค่อนข้างแพง และบางครั้งก็ไม่อร่อยเอาซะเลย เพื่อนผมคนนึงชอบพูดร้านแบบนี้เป็น Tourist Trap
เวลาที่ผมเดินทางมักจะมองหาร้านค้าหรือร้านอาหารที่เป็นคนพื้นที่ใช้บริการกันเพราะนอกจากจะรสชาติดีแล้ว ราคาก็มักจะไม่สูงมากครับ อีกเรื่องคือน้ำดื่มผมแนะนำว่าควรซื้อตามซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ ราคาจะถูกกว่าร้านตามข้างถนนมากๆ(อารมณ์เหมือนซื้อน้ำแบบแพ็คตาม BigC หรือ Lotus จะถูกกว่าซื้อในเซเว่น) และควรซื้อเป็นขวดใหญ่จะยิ่งถูกกว่าแบบขวดเล็ก แต่ระวังจะซื้อผิดเป็นน้ำโซดานะครับ เพราะที่ยุโรปเค้าจะนิยมดื่มน้ำโซดากันมากๆ ผมก็พลาดมาหลายครั้งแล้ว ฮา
7. ใช้รูปเป็นตัวช่วยในการสื่อสาร
สำหรับในบางประเทศที่ไม่นิยมใช้ภาษาอังกฤษ อาจจะเป็นสำเนียงที่ฟังยาก หรือเราอาจจะอ่านคำสะกดได้ไม่ถูกต้อง การสื่อสารย่อมเป็นเรื่องที่ยากครับ และสำหรับคนที่ไม่เก่งภาษาแนะนำให้ถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร หรือแม้กระทั่งเอกสารสำคัญพวกหน้า passport, ใบจองรถไฟหรือโรงแรมต่างๆเผื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉินครับ
8. เลือกซื้อซิมสำหรับใช้ internet ให้เหมาะกับการใช้งาน
การสื่อสารและการใช้ internet ก็เป็นอีกเรื่องที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้ อย่างทริปล่าสุดผมลงทุนซื้อ Pocket Wifi ไว้ใช้เองในราคาประมาณ 1600 บาท กับซิมยุโรปซึ่งสามารถใช้ได้เกือบทุกประเทศราคา 999 บาท (Data 12GB ใช้ได้ 30 วันเป็นซิมของ 3UK ซึ่งมีขายในไทย) สามารถแชร์กันใช้ได้ถึง 10 เครื่อง ส่วนตัวเครื่อง Pocket Wifi ก็สามารถเก็บไว้ใช้ในทริปต่อๆไปได้อีกครับ
แต่สำหรับคนที่เดินทางคนเดียว จะใช้พวก Sim2Fly ของ ais ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ส่วนการใช้ Data Roaming จากเมืองไทยราคาค่อนข้างจะสูง จึงไม่แนะนำครับ หรือถ้าเดินทางไปประเทศเดียวไม่ได้เข้าออกหลายประเทศ ก็แนะนำให้ใช้เป็นซิมของประเทศนั้นๆไปเลยครับ ราคาจะค่อนข้างถูกทีเดียว
9. ใช้แอปปลิเคชั่นบนมือถือให้เป็นประโยชน์
นอกจากแอปปลิเคชั่นที่ใช้ดูพวกสถานีรถไฟ, แผนที่, สภาพอากาศ ยังสามารถใช้สื่อสารหรือแปลภาษาได้อีกครับ แอปปลิเคชั่นที่ผมใช้ประจำก็จะมีพวก Google Maps, Maps.me, Google Translate, Weather
ในหลายครั้งผมมักใช้ Google Translate ในการแปลภาษาบนฉลากของกินที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
และนอกจากนั้นผมยังใช้ Youtube เซฟรายการที่ชอบไว้ดูแบบ offline เพื่อแก้เบื่อในทริปที่ต้องเดินทางนานๆ โดยไม่ต้องใช้ internet ได้ด้วยครับ
10. ค้นหาร้านอาหารยอดนิยมในจาก www.tripadvisor.com
แน่นอนที่สุด กองทัพต้องเดินด้วยท้องการกินย่อมเป็นเรื่องสำคัญ ก่อนเดินทางผมมักจะหาร้านอาหารที่คนแนะนำจากเวปนี้ เพราะนอกจากจะหาง่ายแล้วยังสามารถตั้งงบประมาณสำหรับค้นหาร้านอาหารในพื้นที่ที่ต้องการได้ ทำให้ผมชอบใช้เวปนี้เวลาจะหาร้านอร่อยๆ ทุกครั้งที่เดินทาง นอกจากร้านอาหารยังสามารถหาโรงแรมยอดนิยม หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำจากนักเดินทางทั่วโลกผ่านเวปนี้ได้อีกด้วยครับ
สำหรับครั้งหน้าจะมีทริปหรือเทคนิคอะไรอย่าลืมติดตามกันอีกนะครับ
หรือสามารถพูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/OrpheusJourney
แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดีครับ