เรื่องเล่า...ของวัยเก๋า

กระทู้สนทนา
เรื่องราวในครอบครัวเล็กๆแต่อบอุ่นของเรา
กับเรื่องราวของ 4 รุ่น 4 เจนเนอร์เรชั่น
ปู่จ๋า ย่าจ๋า ของเรา
พ่อจ๋า แม่จ๋า ของเรา
พี่สาวและเราเองที่เป็นรุ่นหลาน เจนเนอร์เรชั่นที่ 3
และรุ่นเหลน เจนเนอร์เรชั่นที่ 4

2 ท่านนี้เลยค่ะรุ่นเก๋าที่สุดของบ้านเรา

สิ่งที่เราภูมิใจเสมอตลอดมาและยังคงตลอดไป
คือ “การกราบเท้าขอพรจากผู้ใหญ่ ร่มโพธิ์ร่มไทรของวงศ์ตระกูล คือ ปู่ ย่า และ พ่อ แม่"


นับวัฒนธรรมครอบครัวที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ไม่เคยขาดหาย
เป็นสิ่งดีที่ทรงคุณค่าและควรรักษาไว้อย่างภาคภูมิ สะท้อนภาพเพื่อสอนรุ่นต่อรุ่น
หัวใจเรื่อง “ความกตัญญู”หัวใจ
สอนด้วยการกระทำดังกว่าคำพูดแน่นอนค่ะ

ตอนเราเป็นเด็กน้อย เราเห็นพ่อกับแม่ทำสิ่งเหล่านี้ทุกๆปี
โดยจะเป็นได้ชัดช่วงงานสงกรานต์วันรวมญาติ ลุง ป้า น้า อา มารวมกันที่บ้านปู่กับย่าเราทุกปี
เพื่อรวบรวมผู้สูงอายุในแถบละแวกบ้านมากทำพิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และไม่ลืมที่จะสรงน้ำพระพระพุทธรูปปางต่างๆด้วย
นานาก่อทราย
พ่อของเราจะเป็นหนุ่มเครื่องไฟ ขนตู้ลำโพงมาเปิดเพลงที่บ้านปู่ทุกปีๆ เหมือนงานประจำหมู่บ้าน ซึ่งแถวนั้นเป็นญาติกันหมดเลยค่ะ
ผู้คนจะทยอยกันมารดน้ำขอพรผู้สูงอายุที่มาร่วมงาน พูดภาษาชาวบ้านว่า “อาบน้ำคนแก่”
ส่วนเด็กน้อยก็เล่นน้ำกันไปอย่างสนุกสนาน ผู้ใหญ่เต้นรำกันบ้าง
นานาเล่นน้ำ

ช่วง “อาบน้ำคนแก่” จะใช้เวลาไม่นาน เพราะกลัวแต่ละท่านหนาวค่ะ บางปียังเคยเห็นแอบตัวสั่นๆ
ผู้สูงอายุแต่ละท่านจะมานั่งเรียงกัน ส่วนลูกหลานหลังสรงน้ำพระและจะทยอยคลานเข่าเข้ามาพร้อมขันเงิน
ซึ่งบรรจุน้ำปรุง น้ำอบ ลอยดอกมะลิ กลิ่นหอมชื่นใจ
จากนั้นจะขออนุญาตผู้สูงอายุรดน้ำในอุ้งมือที่ถือพวงมาลัย บ้างก็รดบ่าท่านบ้าง
ช่วงนี้บ้างก็ขอขมาลาโทษผู้สูงอายุ บ้างก็ได้รับพร วนจนครบทุกท่าน

หลังช่วง“อาบน้ำคนแก่” แล้วจะมีชุดผ้าใหม่ คุณปู่ คุณตาก็จะได้เสื้อผ้าฝ้ายสีพื้น กางเกงฝ้าย และผ้าขาวม้า
ส่วน คุณย่า คุณยาย ก็จะได้เสื้อคอกระเช้า เสื้อสวยสีหวานที่คล้ายลายลูกไม้สำหรับผู้สูงอายุ กับผ้าถุงเนื้อดี
แล้วสำหรับลูกหลานคนไหนต้องการให้สิ่งของมีค่าใดก็ตามแต่ความตั้งใจของแต่ละคน

จากนั้น จะมีกราบเท้าขอพรจากผู้ใหญ่ ร่มโพธิ์ร่มไทรของวงศ์ตระกูล และมีพิธีผูกสายสินที่ข้อมือ
โดยจะมีบทสวดของผู้สูงอายุ ทุกคนสวดกันเก่งและคล่องมาก สายสินถูกตระเตรียมไว้อย่างดีสำหรับลูกหลานทุกคน
ทยอยกันไปขอพรท่านอีกครั้ง วนหลานท่านจนสายสินเต็มข้อมือเราเลยค่ะ

นานามาลัยเหล่านี้คือภาพความทรงจำวัยเด็กของเราค่ะ

สิ่งเหล่านั้นส่งผลต่อเรามากจนถึงทุกวันนี้
เราเคารพคำอวยพรของปู่ ย่า มาก เหมือนท่านมีวาจาสิทธิ์เลยค่ะ
กล่าวอวยพรให้ลูกหลานเจริญๆ ทั้งในหน้าที่การงาน การเงิน และปิดท้ายว่า

พลุ“ไม่เจ็บไม่จน ไม่ต่ำกว่าใคร โชคดีนะ โชคดี”พลุ

ปู่กับย่าจะมีบทสวดมนต์ที่ยาวมาก (ตอนนี้นับว่าเก่งมากสำหรับผู้สูงอายุระดับ 92 ปี และ 82 ปี)
จากนั้นท่านจะเป่าเสกคาถาที่กระหม่อมลูกหลาน ให้ความรู้สึกปลอดภัยจากความชั่วร้าย
นี่เหละค่ะที่เขาเรียกว่าพรพ่อแม่ นั่นคือความรู้สึกขลังที่เราจะรู้สึกได้เองเวลาที่เรารับพรจากบุคคลที่เรารักและท่านรักเอ็นดูเรา
แล้วรู้สึกว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ แต่เราต้องเป็นคนดีและกตัญญูค่ะ

ถึงตอนนี้ท่านทั้งสองเป็นผู้สูงอายุ 92 ปี และ 82 ปีแล้ว ความเสื่อมตามวัยตามมา
คุณปู่ หูท่านเริ่มตึง ตาท่านรับการผ่าตัดต้อกระจกทั้งสองข้างมาแล้ว
คุณย่า สุขภาพท่านโดยรวมแข็งแรงดี อาจมีโรคเวียนศีรษะตามประสาผู้สูงอายุบ้าง
เรื่องเคี้ยวหมากเป็นเอกลักษณ์ของย่าค่ะ เคยขอให้ท่านเตรียมหมากให้ดู ท่านก็ตำหมากละเอียดมาก ใช้เวลากว่า 5 นาทีกว่าจะได้กิน
เข้าใจเลยคำว่า "หมากกระเด็น" แล้วเราได้มีโอกาสสูดกลิ่นสีผึ้งป้ายปากของย่าด้วย หอมชื่นใจจริงๆ
ย่าบอกว่าถ้าไม่สีปากด้วยสีผึ้งหมากก็จะไม่หอมอร่อยด้วย นี่แหละความรู้ใหม่ ลิปสติกสมัยใหม่ยังอาย

ท่านทั้งสองยังแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว เป็น ร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลานจริงๆ
และการที่เราได้ไปหาท่านไปกราบท่าน เป็นการสอนเหลนรุ่นต่อไปให้ได้ทำในสิ่งที่เป็น
“วัฒนธรรมครอบครัวที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ไม่เคยขาดหาย” ด้วย
และไม่ลืมที่จะกล่าวถึงคุณพ่อคุณแม่เราด้วยค่ะ ตอนนี้เป็นผู้สูงอายุ รุ่น 60 ปี กันไปแล้วทั้งคู่

สิ่งที่อยากบอกกับรุ่นต่อๆไปนะคะคือ
ถึงนอกบ้านเราจะเป็นผู้ใหญ่หรือระดับหัวหน้างาน หรือจะยิ่งใหญ่มากแค่ไหน
แต่พอเรากลับไปที่บ้าน เราจะกลายเป็นเด็กๆในสายตาท่านอยู่ดีค่ะ

พ่อกับแม่เราก็ถูกเรียกว่า "หนูอย่างนั้น หนูอย่างนี้" ตอนที่อยู่กับปู่กับย่า น่ารักมากค่ะ
อบอุ่นนะคะ ความรู้สึกนี้

รักและนี่คือบันทึกเรื่องราวน่ารักของท่านผู้สูงอายุครอบครัวเราที่เรารักและรักเราที่สุดค่ะรัก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่