Solo Trip: แบกกล้อง 9 วัน บุกเที่ยวอินโด [Pond.KB]

สวัสดีคร้าบบบ ขอแนะนำตัวกันอีกครั้งเนอะ ผมชื่อ ปอนด์ เรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำลังจะขึ้นปี 3 ครับ
ชื่นชอบการถ่ายภาพและการผจญภัยเป็นพิเศษครับ

อย่างแรกจะขอเกริ่นที่มาของ Solo trip ในครั้งนี้ก่อนนะครับ พอดีผมเองมีช่วงเวลาเที่ยวเล่นอยู่สั้นๆ 9-10 วัน ก่อนเปิดเรียนซัมเมอร์
ตอนแรกตั้งใจว่าอยากไปประเทศในแถบอาเซียนเพื่อจะได้รู้สภาพแวดล้อมเพื่อนบ้านเราด้วย สุดท้ายจิ้มไปจิ้มมา
มาลงที่ประเทศอินโดนีเซียครับ ไอทีแรกก็ชวนเพื่อนไปนะ แต่เผอิญเพื่อนบอกไม่ใช่สายธรรมชาติลุยๆ เราก็เอาวะไปคนเดียวก็ได้
ถือว่าฝึกสกิลการใช้ชีวิตเอาตัวรอดในต่างแดนไปในตัวด้วย ว่ากันขนาดนี้ก็ลุยเลยละกันครับ!!

รูปภาพทั้งหมดนี้ถูกถ่ายด้วย
Canon 5D Mark IV
EF 16-35 f/4 IS
EF 24-105 f/4 IS
EF 70-200 f/2.8
IRIX firefly f/2.4


เวลาทั้งหมดที่ใช้ในการเดินทางครั้งนี้รวมอยู่ที่ 9 วันครับ
แบ่งเป็น Lombok-> Java-> Bali ตามลำดับการเดินทาง

[ Lombok (Day 1-4) ]

มาเริ่มต้นที่เกาะแรกเลยครับ มาที่นี่เพราะเป้าหมายคือ Mount.Rinjani เลยครับ
Rinjani เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของ Indonesia (3,726 m จากระดับน้ำทะเล) สูงกว่าดอยอินทนนท์บ้านเราอีกคับ 55

DAY 1

ผมเริ่มเดินทางจากดอนเมืองโดยสายการบิน AirAsia มาลงที่ Bali ก่อนแล้วต่อเครื่องบิน Wings Air ไปลงที่ Lombok
วันแรกเดินทางล้วนๆครับ ต้องต่อรถจากสนามบิน Lombok ไปที่ที่พักบริเวณ Senaru ใช้เวลานั่งรถ 4 ชั่วโมงได้ครับ

DAY 2

เริ่มเดินทางสู่ Mount.Rinjani ครับ ผมใช้บริการ Rinjani Trekking Center บอกเลยว่าบริการดีมากๆ
ส่วนตัวรู้สึกว่าได้ไกด์ดีด้วยแหละ ชื่อ Adi เหมือน Adidas ครับ 555 ตรงนี้เราไปคนเดียวก็โดนชาร์จแพงหน่อย
อันนี้ต้องยอมรับเพราะไม่มีตัวหารครับ ผมซื้อแพคเกจ 3 Days 2 Nights เริ่มเดินขึ้นเขาจริงๆเวลาประมาณ 9:00
วันแรกก็เดินเอาอย่างเดียวเลย เป้าหมายของเราวันนี้คือจุดกางเต้นท์ครับ


ระหว่างทางจะเห็นเป็นเชิงเขาประมาณนี้เป็นเหมือนฐานของภูเขาคับ


ระหว่างทางที่ผมไปเจอเมฆครึ้มๆ เลยตั้งใจทำภาพออกมาดาร์กๆ Dramatic หน่อยๆ


ลูกหาบที่นี่แข็งแกร่งมากครับ เดินเร็วมาก ทางเดินที่นี่ค่อนข้างชันพวกเขาก็ไม่หวั่นไหวครับ 55
trekking ครั้งนี้ trekking pole สำคัญมากๆครับ เพราะมันชันมาก มันจะช่วยคุณได้เยอะจริงๆ


เดินไปจนถึงจุดกางเต้นท์เวลาประมาณ 16:00 วันแรกก็เหนื่อยฉิบเป๋งแล้วครับ 555
พอค่ำๆก็ขอถ่ายดาวสักหน่อย ภาพนี้ผมใช้ เลนส์ IRIX firefly f/2.4 ถ่ายครับ
ส่วนตัวชอบเลนส์ตัวนี้มาก Distortion น้อย ภาพก็คมมาก แต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในไทยเท่าไร
อาจติดขอบมืดบ้างตอนเปิด live view แต่สามารถแก้ได้หมดจดบนคอมครับ


DAY 3

ออกเดินทางตั้งแต่ 02:00 ผมใช้เวลาเดินทางถึง summit ประมาณ 4 ชั่วโมงนิดๆ
ทันเวลาพระอาทิตย์ขึ้นพอดีครับ เส้นทางจากจุดกางเต้นท์นี่ ขอบอกเลยว่า ” มัน โหด มาก “
ใครที่คิดจะมาอยากให้เตรียมตัวทั้งความอึดทั้งกายและใจครับ

ถึงยอดแล้วเย้ !!!


วิวช่วงพระอาทิตย์ขึ้นเป็นรางวัลของผู้ชนะใจตนเองครับ เงาพีระมิดแห่ง Rinjani จะมีเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น


ระหว่างทางเดินลงจะเห็นว่ามีทั้งหินที่เราเห็นทั่วไปกับหินภูเขาไฟปะปนกันไป
เก็บมาสักก้อนเป็นที่ระลึกก็ดีนะครับ แฮร่ ยิ้ม


พอเดินลงมาถึงจุดกางเต้นท์ก็พักสักเล็กน้อย แล้วออกเดินทางสู่ Lake ครับ เป็นทางเดินลงแต่มีชันๆบ้าง
ปกติคนเขาจะไปอาบน้ำกันที่นี่ แต่ส่วนตัวไม่แนะนำนะครับ เพราะขยะเต็มไปหมด
จะมีส่วนของน้ำพุร้อนอีกด้านนึงน่าจะดูดีกว่าคับ

หมอกเยอะไปหน่อยแต่ก็เก็บบรรยากาศจาก Lake มาครับ


พักผ่อนที่ Lake เสร็จแล้วก็เดินทางต่อไปที่จุดกางเต้นท์ 2 ครับ เส้นทางจาก Lake ไป จุดกางเต้นท์ 2 ก็ชันเหมือนกันครับ
แต่เป็นทางเดินขึ้นไม่ใช่ลง 555 วันที่สองของ trekking นิหนักสุดละครับ ถึงที่หมายก็เย็นพอดีครับ

DAY 4

ตื่นมาเก็บแสงเช้าจากจุดกางเต้นท์ครับ


ตรงนี้เป็นบริเวณฝั่งด้านหลังของจุดกางเต้นท์ครับ


พอสัก 8:00 ก็เริ่มเดินลงครับ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
ช่วงแรกจะชันๆตามไหล่เขา ช่วงหลังก็จะเริ่มราบขึ้นตามฐานเขา มาลงที่ Sembalun ครับ
พอกลับมาที่พักก็แวะไปเก็บภาพน้ำตกแถวที่พักหน่อย ชื่อ Tiu Kelep Waterfall ครับ น้ำที่นี่ใสมากๆครับ



[ JAVA (Day 5-7.5) ]

เป้าหมายของที่นี่ คือ ภูเขาไฟ Mount.Bromo และ Kawah Ijen ครับ

DAY 5

เริ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้าไปขึ้นเครื่องต่อไปเกาะ Java ครับ ผมไปในส่วนของ Surabaya ซึ่งเป็นทางฝั่งตะวันออกของ Java
ที่นี่ผมใช้บริการของ ARIF SETIAWAN ได้ไกด์ชื่อ Willy ครับ พี่แกดูซื่อๆครับ ใจดีมาก ไม่เคยบ่นสักคำ
วันแรกก็เดินทางทั้งวันครับ ถึงที่พักก็เย็นพอดี พักผ่อนกันไปตามระเบียบ 55

DAY 6

ตื่นตั้งแต่ 02:00 เตรียมขึ้นรถ JEEP ไปจุดชมวิวครับ แต่ไกด์ของเรา Willy มีจุดชมวิวลับอยู่บริเวณ Kingkong hill
มันจะมีเส้นทางเดินที่เขาถางหญ้าไว้อยู่ต้องสังเกตดีๆถึงจะเห็นครับ

ที่จุดชมวิวนี้ไม่มีอะไรกั้นเลย คนก็แทบไม่มี ในขณะที่ จุดชมวิว Penanjakan คนเต็มไปหมด


เห็นหมู่บ้านชัดเจนมากครับ


พอเริ่มสายๆก็เดินขึ้นไปปล่องภูเขาไฟกันครับ

“ Someone goes up, someone goes down ”


ระหว่างทางเดินขึ้น จะเห็นลายหินเป็น layer ลวดลายต่างๆดูแปลกตาดีครับ


ทำเป็นภาพขาว-ดำ แล้วดูเหมือนเหล็กไหลเป็นคลื่นเลยครับ


มาถึงปากปล่องละครับ

“ Breathing ”


นี่เป็นวิวแบบ Panorama จากปากปล่อง Bromo ครับ เห็นได้ชัดว่าเราเดินมาไกลพอสมควร


พอลงจากปากปล่องก็ไปทุ่งสะวันนาด้านหลังของ Bromo ก็สวยดีเหมือนกันครับ


เสร็จแล้วก็เข้าที่พัก ทานอาหารแล้ว Check-out ครับ จากนั้นก็เริ่มเดินทางไป Banjuwangi กันครับ
ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง ได้หลับกันเต็มอิ่มเลยทีเดียว 555
ถึงที่พักก็ค่ำพอดี ต้องรีบพักผ่อนเพราะ วันต่อมาต้องตื่นเช้ากว่าปกติ

DAY 7

เริ่มตื่นเที่ยงคืนเข้าวันใหม่พอดีครับ เพื่อออกเดินทางไปขึ้น Kawah Ijen แต่โชคร้ายหน่อย ตอนผมไปฝนตกตลอดทางเลย
แต่ไม่ได้หนักมาก ทางเดินเป็นทางเรียบ แต่ก็ชันระดับนึงเลยครับ
พอมาถึงยอดตอนตี 3 ก็เห็น Blue flame เล็กนิดเดียว ไกด์เราบอกว่าสามารถเห็นได้ถึง 5:00 เท่านั้น
ช่วงที่ผมไปเขาไม่อนุญาตให้เดินลงไปชม เนื่องจากอันตรายจาก Sulfur

ภาพแสงเช้าจากปากปล่อง Kawah Ijen ครับ


[ Bali (Day 7.5-9) ]

เป้าหมายของที่นี่ คือ พักผ่อนและสัมผัสวัฒนธรรมครับ

DAY 7.5

สายๆก็เริ่มเดินลงแล้วไปเก็บของที่ที่พักแล้ว Check-out ต่อไปขึ้น Ferry เพื่อไป Bali ครับ
ที่ Bali ผมใช้บริการของ Gustubalidriver ครับ ได้ไกด์ชื่อ Gusti เป็นคนเอนเตอร์เทน ชิวๆดีครับ
มาถึงก็ไปแวะ Landmark ของ Bali ก่อนเลย จากนั้นถึงเข้าที่พัก

“Ulun Danu Beratan"


DAY 8

เริ่มออกจากที่พักสายๆหน่อยแล้วเที่ยวสถานที่ต่างๆบริเวณ Ubud ลงไปจบที่ Ngurah Rai ครับ
ที่แรกไปที่นี่เลยครับ Jatiluwih rice terraces แนะนำให้เดินเท้าเปล่า เพราะมันเป็นนา
รองเท้าผ้าใบก็จะเลอะเยอะหน่อย รองเท้าแตะก็จมเลยครับ 555


มาดูวิถีชีวิตของชาวนาที่บาหลีครับ


จากนั้นแวะไป Royal Temple หรือ Taman Ayun Temple นั่นเองครับ เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของบาหลีเลยทีเดียว


จากนั้นก็มาต่อที่ Thana lot ในช่วงเที่ยงๆ ที่นี่คนจะแน่นมากๆในช่วงเย็นครับ


เสร็จจาก Thana lot ก็ ไปเข้าที่พัก Novotel-Ngurah Rai Airport Hotel
เป็นที่พักในสนามบิน สะดวกต่อการเดินทางวันต่อมาดี ไม่เสียค่ารถเพิ่มด้วยครับ

DAY 9

หลังจากพักผ่อนเต็มที่ก็เริ่มเดินทางกลับประเทศไทยครับ บินไฟลท์ตรงจากบาหลีไปดอนเมืองด้วยสายการบิน AirAsia เช่นเคยครับ

จบแล้วครับสำหรับการผจญภัยในต่างแดนสไตล์โซโล่ครั้งแรกของผม ได้ประสบการณ์มากมายทั้งดีและไม่ดีครับ หากมีคำติชมใดๆ สามารถแนะนำได้เลยนะครับ สามารถอ่านผลงานเก่าๆของผมได้ที่นี่ครับ
ลุยเดี่ยว!! เที่ยวดอยหลวงเชียงดาว 2 วัน 1 คืน => https://ppantip.com/topic/36023670
หรือ เข้ามาพูดคุยเรื่องถ่ายภาพรวมถึงการเดินทางต่างๆได้ที่ FB ของผมครับ
https://www.facebook.com/Pond.KB

ขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านมาถึงจุดนี้ ถ้าชอบรบกวนช่วยกด + ด้วยน้าาา แล้วเจอกันโอกาสหน้าครับ ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่