สวัสดีท่านสมาชิกทุกท่านผมมีเรื่องรบกวนปรึกษาท่านผู้รู้เกี่ยวกับ “การบังคับคดี”
เนื่องจาก จขกท.เป็นโจทย์ยื่นฟ้องจำเลยเรื่องผิดสัญญารับสภาพหนี้โดยได้ขึ้นศาลเมื่อ เดือน เมษายน 2559 ในชั้นนี้ศาลได้ให้ไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ จาก 116000.- เหลือ 75000.- บาท โดยจำเลยต้องผ่อนจ่ายเดือนละ 5000 บาท จนครบจำนวน
แต่ปรากฎว่าจำเลยมิได้ชำระหนี้ตามที่ได้สัญญาไว้ จขกท.จึงได้ทำเรื่องแต่งตั้งเจ้าพนักงานเพื่อบังคับคดีเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2559 แต่ก่อนที่จะทำเรื่องบังคับคดี
จขกท.ได้ทำการสืบทรัพย์ทำให้ทราบว่า จำเลยเป็นพนักงานของบริษัทหนึ่ง(ไม่ขอเอ่ยนาม..)จากสำนักงานประ.....ซึ่งก็ตรงกับความเป็นจริงที่จำเลยทำงานที่นั่น ต่อมาหลังจากที่ทำเรื่องบังคับคดีปรากฎว่าบริษัทที่จำเลยทำงานอยู่ไม่ได้นำส่งเงินมาที่สำนักงานบังคับคดี กระทั่งเดือน กุมภาพันธ์ สำนักงานบังคับคดีได้ทำหนังสือทวงถามไปยังบริษัทของจำเลย ต่อมามีหนังสือตอบกลับจากบริษัทของจำเลยปฎิเสธการเป็นนายจ้างจำเลย
ซึ่ง จขกท.มีความมั่นใจว่าบริษัทเจตนาปกปิดข้อมูลของลูกจ้าง มูลเหตุที่ทำให้คิดเช่นนี้เพราะว่า
1.ก่อนบังคับคดี จขกท.ได้สืบทรัพย์พบว่าจำเลยใด้ทำงานบริษัทนี้จริงจากสำนักงาน......
2.จำเลยยังคงไปทำงานทุกวันใส่ชุดนิฟอร์มของบริษัทนั้น(โจทย์และจำเลยเป็นญาติกันทำให้ทราบได้)
3.ในข้อมูลของสำนักงาน....จำเลยยังส่งเงินสมทบทุกเดือนโดยมียอดส่งที่สม่ำเสมอจนถึงปัจจุบัน
4.จำเลยมีหนี้กับบริษัทที่ทำงานอยู่แต่ไม่เป็นคดีความ โดยบริษัทหักเงินเดือนทุกเดือน สาเหตุนี้อาจทำให้บริษัทช่วยเหลือ
คำถามคือ จขกท. จะหาข้อมูลอะไรไปยืนยันกับสำนักงานบังคับคดีได้บ้างว่าจำเลยเป็นลูกจ้างของบริษัทนี้จริง
ในความคิดของ จขกท.คิดว่า จะนำหนังสือแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีไปขอข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคมซึ่งมีนายจ้างส่งเงินสมทบอยู่ได้หรือไม่ หรือมีวิธีการใดโปรดแนะนำด้วยครับ
ขอขอบคุณทุกความเห็นครับ
รบกวนถามผู้รู้เกี่ยวกับการบังคับคดีครับ
เนื่องจาก จขกท.เป็นโจทย์ยื่นฟ้องจำเลยเรื่องผิดสัญญารับสภาพหนี้โดยได้ขึ้นศาลเมื่อ เดือน เมษายน 2559 ในชั้นนี้ศาลได้ให้ไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ จาก 116000.- เหลือ 75000.- บาท โดยจำเลยต้องผ่อนจ่ายเดือนละ 5000 บาท จนครบจำนวน
แต่ปรากฎว่าจำเลยมิได้ชำระหนี้ตามที่ได้สัญญาไว้ จขกท.จึงได้ทำเรื่องแต่งตั้งเจ้าพนักงานเพื่อบังคับคดีเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2559 แต่ก่อนที่จะทำเรื่องบังคับคดี
จขกท.ได้ทำการสืบทรัพย์ทำให้ทราบว่า จำเลยเป็นพนักงานของบริษัทหนึ่ง(ไม่ขอเอ่ยนาม..)จากสำนักงานประ.....ซึ่งก็ตรงกับความเป็นจริงที่จำเลยทำงานที่นั่น ต่อมาหลังจากที่ทำเรื่องบังคับคดีปรากฎว่าบริษัทที่จำเลยทำงานอยู่ไม่ได้นำส่งเงินมาที่สำนักงานบังคับคดี กระทั่งเดือน กุมภาพันธ์ สำนักงานบังคับคดีได้ทำหนังสือทวงถามไปยังบริษัทของจำเลย ต่อมามีหนังสือตอบกลับจากบริษัทของจำเลยปฎิเสธการเป็นนายจ้างจำเลย
ซึ่ง จขกท.มีความมั่นใจว่าบริษัทเจตนาปกปิดข้อมูลของลูกจ้าง มูลเหตุที่ทำให้คิดเช่นนี้เพราะว่า
1.ก่อนบังคับคดี จขกท.ได้สืบทรัพย์พบว่าจำเลยใด้ทำงานบริษัทนี้จริงจากสำนักงาน......
2.จำเลยยังคงไปทำงานทุกวันใส่ชุดนิฟอร์มของบริษัทนั้น(โจทย์และจำเลยเป็นญาติกันทำให้ทราบได้)
3.ในข้อมูลของสำนักงาน....จำเลยยังส่งเงินสมทบทุกเดือนโดยมียอดส่งที่สม่ำเสมอจนถึงปัจจุบัน
4.จำเลยมีหนี้กับบริษัทที่ทำงานอยู่แต่ไม่เป็นคดีความ โดยบริษัทหักเงินเดือนทุกเดือน สาเหตุนี้อาจทำให้บริษัทช่วยเหลือ
คำถามคือ จขกท. จะหาข้อมูลอะไรไปยืนยันกับสำนักงานบังคับคดีได้บ้างว่าจำเลยเป็นลูกจ้างของบริษัทนี้จริง
ในความคิดของ จขกท.คิดว่า จะนำหนังสือแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีไปขอข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคมซึ่งมีนายจ้างส่งเงินสมทบอยู่ได้หรือไม่ หรือมีวิธีการใดโปรดแนะนำด้วยครับ
ขอขอบคุณทุกความเห็นครับ