ควรระวัง จัดฟันกับคลีนิค......ที่เราเจอ
เล่าประสบการณ์ส่วนตัว เพื่อเป็นอุทาหรณ์แล้วข้อควรระวังให้กับคนที่คิดจะจัดฟันค่ะ.
(ซึ่งเคสแบบนี้คงมีคนเจอกันมาไม่น้อยแล้ว )
เริ่มจากหลังจากจัดฟันมาเป็นเวลานานมาก ถึง 5 ปี
แต่ด้วยความคิดที่ว่าตัวเราเองไม่ได้ไปครบทุกครั้งที่หมอนัดเลยคิดไปเองว่า คงยังไม่ครบกำหนดเลยยังจัดไปเสร็จ. ตัวเองก็ไม่เคยจดบันทึกจำนวนครั้งที่ไปหาหมอ เลยไม่คิดมาก และก็ไว้ใจคลีนิครวมถึงหมอ ว่า......วันนึงคงจะเสร็จ แบบตามที่ตกลงกันไว้
ซึ่งเหตุเกิดขึ้นในวันที่นัดเข้าไปปรับเครื่องมือครั้งล่าสุด 10/06/2560 ระหว่างนั่งรอคิวเข้าพบหมอ
ได้ยินพนักงานอธิบายแพคแกจการจัดฟันให้คนไข้ใหม่. ที่สนใจจะเข้ามาจัดฟัน.
ว่า ราคา อยู่ที่ 39000 บาทค่ะ
แบ่งจ่ายเป็น 3 งวดแรก เดือนละ 3000
หลังจากนั้นก็จ่ายเดือน ละ 1000 จนครบ 39000
***ถ้าหากฟันคนไข้ยังมีปัญหา หรือยังไม่เสร็จคุณหมอก็จะ***ไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ****
ในหัวก็คิด เอ๊ะๆๆๆๆ....ใช่ซิ. เราก็เลือกแพคเกจแบบนี้นี่!!!! (เพราะจัดฟันแบบโลหะของคลีนิคนี้ ราคาสูงสุดก็ 39000 นี่แหละค่ะไม่มีแพคแกจแพงกว่านี้)
ใช่!!! เอ๊ะ...แล้วเรารักษามากี่ครั้งแล้วนะ คำถามเกิดในหัวล่ะ???
จากนั้นเราก็เข้าไปปรับเครื่องมือ
ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที เสร็จ!!! (นั่งรอยังนานกว่ามากๆ)
***พอเรียกเก็บเงิน ก็คุยกับพนักงานค่ะ
--วันนี้คนไข้มีค่าใช้จ่าย 1,000 บาทค่ะ(ตามสเต็ป)
--เราก็เลยบอกพนักงาน "" ช่วยนับให้หน่อยได้มั๊ยค่ะ ว่าเข้ามาปรับเครื่องมือไปกี่ครั้งแล้วค่ะ.
--ได้ค่ะๆ... ระหว่างนับไปเรื่อยๆ สังเกตุหน้าพนักงานเริ่มงงๆ (เราคิดเองว่าเค้าดูแปลกใจ)
แต่ก็ต้องนับต่อ เพราะเราเองก็กำลังรออยู่
ผลที่ได้มา >>>
---คนไข้มาปรับเครื่องมือไป 48 ครั้งค่ะ---48 ---48!!
แต่...(พนักงานรีบมีแต่มาเลย)
คุณหมอระบุไว้ว่า ของคนไข้เป็นแบบ No limit นะคะ.....!!!! No limit โนลิมิต!!!!
คืออะไรค่ะ..? เราถามพนักงานไป
พนักงานบอกว่า คุณหมอน่าจะแจ้งคนไข้แล้วนะคะ...ระบุไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว!!!
(ถ้านับย้อนไป หมายถึงตอนที่ระบุ ว่าโนลิมิต คือ ช่วงที่จ่ายเงินครบ 39000 ค่ะ นับดูล่ะ)
นั่นหมายความว่า ที่ระบุ คือ เพื่อบอกพนักงานเก็บเงิน ว่า ของคนนี้เก็บต่อไปเรื่อยๆ นะ ไม่มีลิมิต ชีวิตเกินร้อย+++ไง
อืม....เราก็ตอบว่า....ถ้าหมอแจ้งแล้วจะไม่สงสัยอยู่แบบนี้นะคะ!!
เงียบ---!!??-- ไม่เป็นไรค่ะนัดคราวหน้าจะขอคุยกับหมอเองค่ะ
พนักงาน...ได้ค่ะ เดียวจะมาร์คไว้ให้นะคะ
.... เราก็กลับด้วยความรู้สึก...!!!!?? งง...โกรธ...ไม่พอใจ...ถูกเอาเปรียบ...ไม่เคยตกลงนะ
...กุไม่เคยรับรู้ว่าครบแล้ว...เกินค่ารักษานานแล้ว...กุกลายเป็นแบบโนลิมิตแล้ว...กลายเป็นหมูให้คลีนิคเชียดไป 18 งวด ปีกว่า 18,000 บาท
ฟันไม่มีทีท่าจะจัดเสร็จ. ถามหมอ หมอก็บอกว่ากำหนดไม่ได้. ไม่มีกำหนด ....ใช่ซินะ
---กุ...แบบโนลิมิตนี่.... กลับมาบ้านแล้วทนไม่ไหวค่ะ.
ความคิดมันวนอยู่ในหัวว่า ถูกเอาเปรียบแบบนี้ได้ไง
วันรุ่งขึ้นโทรไปขอนัดหมอ...เพื่อเข้าไปคุย...
ขอคิวยากเย็นค่ะ
แจ้งพนักงานว่าจะขอนัดเข้าไปปรึกษาปัญหาเรื่องจัดฟันค่ะ
.--พนักงานตอบว่าคุณหมอไม่รับปรึกษาปัญหาเรื่องจัดฟันค่ะ
---เลยตอบกลับไปว่า เป็นคนไข้มา5 ปีจะเข้าไปคุยเรื่องจัดฟันไม่ได้เลยเหรอ? ต้องทำนัดแค่เข้าไปปรับเครื่องมือเท่านั้นเหรอ??!!!
---พนักงานเลย อ่อๆค่ะ เดี๋ยวเช็คหาคิวให้ค่ะ.
สรุปได้นัด วันที่ 22/06/60
รอค่ะ. 1 อาทิตย์ ถึงจะได้เข้าไปคุยกับหมอ ...
รอฟังคำตอบกันค่ะ ตอนนี้ความรู้สึกอยู่ในหัววนไป
จะไม่ยอมโดนเอาเปรียบอีกค่ะ. ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม......
ที่ให้ไปมากพอแล้ว
ถ้าคิดจะจัดฟัน
สำคัญเลยคือเรื่องค่าใช่จ่าย ***ก็คงต้องรอบคอบ จดบันทึกประวัติการไปรักษา การจ่ายเงินของตัวเองไว้นะคะ
หวังจะให้คลีนิคซื่อสัตย์มาแจ้งว่า ครบวงเงินแล้วเดือนหน้าไม่ต้องจ่ายแล้วนะคะ คงเป็นไปไม่ได้ค่ะ
อาศัยช่องว่าง สำหรับคนที่ไม่จู้จี้ ไม่ได้นับจำนวนครั้งไว้ ก็เก็บเงินยาวไปเรื่อยๆ....ก็แบบนี้ซินะ คลีนิคจัดฟัน.....
แชร์ประสบการณ์จัดฟัน ที่ไม่อยากให้คนอื่นเจอ และตัวก็ไม่อยากเจอ แต่ก็เจออยู่เนี่ย!!!!
เล่าประสบการณ์ส่วนตัว เพื่อเป็นอุทาหรณ์แล้วข้อควรระวังให้กับคนที่คิดจะจัดฟันค่ะ.
(ซึ่งเคสแบบนี้คงมีคนเจอกันมาไม่น้อยแล้ว )
เริ่มจากหลังจากจัดฟันมาเป็นเวลานานมาก ถึง 5 ปี
แต่ด้วยความคิดที่ว่าตัวเราเองไม่ได้ไปครบทุกครั้งที่หมอนัดเลยคิดไปเองว่า คงยังไม่ครบกำหนดเลยยังจัดไปเสร็จ. ตัวเองก็ไม่เคยจดบันทึกจำนวนครั้งที่ไปหาหมอ เลยไม่คิดมาก และก็ไว้ใจคลีนิครวมถึงหมอ ว่า......วันนึงคงจะเสร็จ แบบตามที่ตกลงกันไว้
ซึ่งเหตุเกิดขึ้นในวันที่นัดเข้าไปปรับเครื่องมือครั้งล่าสุด 10/06/2560 ระหว่างนั่งรอคิวเข้าพบหมอ
ได้ยินพนักงานอธิบายแพคแกจการจัดฟันให้คนไข้ใหม่. ที่สนใจจะเข้ามาจัดฟัน.
ว่า ราคา อยู่ที่ 39000 บาทค่ะ
แบ่งจ่ายเป็น 3 งวดแรก เดือนละ 3000
หลังจากนั้นก็จ่ายเดือน ละ 1000 จนครบ 39000
***ถ้าหากฟันคนไข้ยังมีปัญหา หรือยังไม่เสร็จคุณหมอก็จะ***ไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ****
ในหัวก็คิด เอ๊ะๆๆๆๆ....ใช่ซิ. เราก็เลือกแพคเกจแบบนี้นี่!!!! (เพราะจัดฟันแบบโลหะของคลีนิคนี้ ราคาสูงสุดก็ 39000 นี่แหละค่ะไม่มีแพคแกจแพงกว่านี้)
ใช่!!! เอ๊ะ...แล้วเรารักษามากี่ครั้งแล้วนะ คำถามเกิดในหัวล่ะ???
จากนั้นเราก็เข้าไปปรับเครื่องมือ
ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที เสร็จ!!! (นั่งรอยังนานกว่ามากๆ)
***พอเรียกเก็บเงิน ก็คุยกับพนักงานค่ะ
--วันนี้คนไข้มีค่าใช้จ่าย 1,000 บาทค่ะ(ตามสเต็ป)
--เราก็เลยบอกพนักงาน "" ช่วยนับให้หน่อยได้มั๊ยค่ะ ว่าเข้ามาปรับเครื่องมือไปกี่ครั้งแล้วค่ะ.
--ได้ค่ะๆ... ระหว่างนับไปเรื่อยๆ สังเกตุหน้าพนักงานเริ่มงงๆ (เราคิดเองว่าเค้าดูแปลกใจ)
แต่ก็ต้องนับต่อ เพราะเราเองก็กำลังรออยู่
ผลที่ได้มา >>>
---คนไข้มาปรับเครื่องมือไป 48 ครั้งค่ะ---48 ---48!!
แต่...(พนักงานรีบมีแต่มาเลย)
คุณหมอระบุไว้ว่า ของคนไข้เป็นแบบ No limit นะคะ.....!!!! No limit โนลิมิต!!!!
คืออะไรค่ะ..? เราถามพนักงานไป
พนักงานบอกว่า คุณหมอน่าจะแจ้งคนไข้แล้วนะคะ...ระบุไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว!!!
(ถ้านับย้อนไป หมายถึงตอนที่ระบุ ว่าโนลิมิต คือ ช่วงที่จ่ายเงินครบ 39000 ค่ะ นับดูล่ะ)
นั่นหมายความว่า ที่ระบุ คือ เพื่อบอกพนักงานเก็บเงิน ว่า ของคนนี้เก็บต่อไปเรื่อยๆ นะ ไม่มีลิมิต ชีวิตเกินร้อย+++ไง
อืม....เราก็ตอบว่า....ถ้าหมอแจ้งแล้วจะไม่สงสัยอยู่แบบนี้นะคะ!!
เงียบ---!!??-- ไม่เป็นไรค่ะนัดคราวหน้าจะขอคุยกับหมอเองค่ะ
พนักงาน...ได้ค่ะ เดียวจะมาร์คไว้ให้นะคะ
.... เราก็กลับด้วยความรู้สึก...!!!!?? งง...โกรธ...ไม่พอใจ...ถูกเอาเปรียบ...ไม่เคยตกลงนะ
...กุไม่เคยรับรู้ว่าครบแล้ว...เกินค่ารักษานานแล้ว...กุกลายเป็นแบบโนลิมิตแล้ว...กลายเป็นหมูให้คลีนิคเชียดไป 18 งวด ปีกว่า 18,000 บาท
ฟันไม่มีทีท่าจะจัดเสร็จ. ถามหมอ หมอก็บอกว่ากำหนดไม่ได้. ไม่มีกำหนด ....ใช่ซินะ
---กุ...แบบโนลิมิตนี่.... กลับมาบ้านแล้วทนไม่ไหวค่ะ.
ความคิดมันวนอยู่ในหัวว่า ถูกเอาเปรียบแบบนี้ได้ไง
วันรุ่งขึ้นโทรไปขอนัดหมอ...เพื่อเข้าไปคุย...
ขอคิวยากเย็นค่ะ
แจ้งพนักงานว่าจะขอนัดเข้าไปปรึกษาปัญหาเรื่องจัดฟันค่ะ
.--พนักงานตอบว่าคุณหมอไม่รับปรึกษาปัญหาเรื่องจัดฟันค่ะ
---เลยตอบกลับไปว่า เป็นคนไข้มา5 ปีจะเข้าไปคุยเรื่องจัดฟันไม่ได้เลยเหรอ? ต้องทำนัดแค่เข้าไปปรับเครื่องมือเท่านั้นเหรอ??!!!
---พนักงานเลย อ่อๆค่ะ เดี๋ยวเช็คหาคิวให้ค่ะ.
สรุปได้นัด วันที่ 22/06/60
รอค่ะ. 1 อาทิตย์ ถึงจะได้เข้าไปคุยกับหมอ ...
รอฟังคำตอบกันค่ะ ตอนนี้ความรู้สึกอยู่ในหัววนไป
จะไม่ยอมโดนเอาเปรียบอีกค่ะ. ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม......
ที่ให้ไปมากพอแล้ว
ถ้าคิดจะจัดฟัน
สำคัญเลยคือเรื่องค่าใช่จ่าย ***ก็คงต้องรอบคอบ จดบันทึกประวัติการไปรักษา การจ่ายเงินของตัวเองไว้นะคะ
หวังจะให้คลีนิคซื่อสัตย์มาแจ้งว่า ครบวงเงินแล้วเดือนหน้าไม่ต้องจ่ายแล้วนะคะ คงเป็นไปไม่ได้ค่ะ
อาศัยช่องว่าง สำหรับคนที่ไม่จู้จี้ ไม่ได้นับจำนวนครั้งไว้ ก็เก็บเงินยาวไปเรื่อยๆ....ก็แบบนี้ซินะ คลีนิคจัดฟัน.....