1. อาคารโชคชัย อินเตอร์เนชั่นแนล (2512 / 1969)
โดยโชคชัย บูลกุล เจ้าของฟาร์มโชคชัย ตอนนั้นเป็นอาคารที่สูงที่สุดในไทย ออกแบบโดย อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ เป็นอาคารกรุกระจกอาคารแรกๆ ของไทย แต่วางผังตามหลักสถาปัตยกรรมเขตร้อนเพื่อประหยัดพลังงาน
ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ระหว่างซอย 24 และ 26 ปัจจุบันเป็นธนาคาร UOB
2. โรงแรมดุสิตธานี (2511 / 1968)
ที่ดินแปลงนี้มีประวัติศาสตร์ โรงแรมดุสิตธานีก่อตั้งโดยท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ตั้งชื่อว่าดุสิตธานี ตามชื่อเมืองจำลองแม่แบบประชาธิปไตยของรัชการที่ 6 เพราะที่ดินแปลงนี้เคยเป็นที่ตั้งของบ้านศาลาแดง บ้านของเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ที่ได้รับพระราชทานมาจาก ร. 5 ซึ่งพระยายมราชต้องเสียสละบ้านหลังนี้เพื่อรักษาดินแดน
เรื่องย่อคือในสมัย ร.6 อังกฤษจะมาขอสัมปทานเหมืองแร่ในภาคใต้ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการเอาทหารเข้ามาอำนวยความสะดวก แต่จุดประสงค์จริงๆ คือจะยึดพื้นที่แถวนั้น ร.6 จึงมีกระแสรับสั่งให้เจ้าพระยายมราชไปสร้าง "เหมืองแร่รักษาดินแดน" กันไว้ก่อน จะได้มีข้ออ้างไม่ต้องให้สัมปทาน โดยให้ไปเอาเงินจากพระคลังข้างที่ไปก่อนเพราะเร่งด่วน แต่พอลงทุนไปแล้ว ร.6 สวรรคต เหมืองไม่มีกำไร พระยายมราชจึงต้องมอบที่แปลงนี้ให้พระคลังข้างที่เป็นการใช้หนี้ ต่อมาก็กลายมาเป็นโรงแรมดุสิตธานีในปัจจุบัน โรงแรมดุสิตธานีจะถูกรื้อในปี 2561
3. สถานทูตออสเตรเลีย (2516 / 1973)
ออกแบบโดย Ken Woolley สถาปนิกชาวออสเตรเลีย โดยมีหม่อมหลวงตรีทศยุทธ เทวกุลเป็นสถาปนิกที่ปรึกษา อาคารเป็นสถาปัตยกรรมแนว "New Brutalism" ซึ่งเป็นสไตล์เฉพาะของกลุ่มสถาปนิกชาวออสเตรเลียที่เรียกว่า "Sydney School" ถึงจะเป็นสถาปัตยกรรมสากล แต่อาคารหลังนี้ถูกออกแบบโดยแนวคิดให้อาคารมีเอกลักษณ์และองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมไทย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากวังสวนผักกาด จุดเด่นของอาคารคือใต้ถุนสูง มีน้ำล้อมรอบ บรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก ใช้วัสดุกระเบื้องสีเหลืองที่เป็นวัสดุท้องถิ่นในประเทศไทย ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของอาคารสถานทูตออสเตรเลีย ถนนสาทร ก่อนจะปิดทำการและถูกประมูลขาย
4. สถานทูตอังกฤษ (2465 / 1922)
เดิมสถานกงสุลอังกฤษอยู่ที่บางรัก บริเวณที่ปัจจุบันเป็นอาคารไปรษณีย์กลาง ซึ่งมีปัญหาโรงสีฝั่งตรงข้ามแม่น้ำปล่อยควันดำ และร้านเหล้าแถวนั้นทำเสียงดังชอบมีคนเมาอาละวาด พระยาภักดีนรเศรษฐ หรือ นายเลิศ ซึ่งมีที่ดินแถวเพลินจิตจำนวนมาก ต้องการให้บริเวณนั้นพัฒนา จึงมาเสนอขายที่ดินบริเวณเพลินจิตให้ และขอซื้อที่ดินสถานกงสุลเดิมที่บางรักด้วย สถานทูตอังกฤษจึงย้ายมาอยู่ที่เพลินจิต สถานทูตอังกฤษขายที่ดินส่วนแรก 9 ไร่ไปแล้วเมื่อปี 2549 ปัจจุบันเป็น Central Embassy และกำลังจะขายที่เหลือทั้งหมด 25 ไร่
Nuntadej Sutthideshanai
4 อาคารเก่าแก่ และสวยงามในกรุงเทพมหานคร ที่จะถูกรื้อเร็วๆ นี้
โดยโชคชัย บูลกุล เจ้าของฟาร์มโชคชัย ตอนนั้นเป็นอาคารที่สูงที่สุดในไทย ออกแบบโดย อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ เป็นอาคารกรุกระจกอาคารแรกๆ ของไทย แต่วางผังตามหลักสถาปัตยกรรมเขตร้อนเพื่อประหยัดพลังงาน
ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ระหว่างซอย 24 และ 26 ปัจจุบันเป็นธนาคาร UOB
2. โรงแรมดุสิตธานี (2511 / 1968)
ที่ดินแปลงนี้มีประวัติศาสตร์ โรงแรมดุสิตธานีก่อตั้งโดยท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ตั้งชื่อว่าดุสิตธานี ตามชื่อเมืองจำลองแม่แบบประชาธิปไตยของรัชการที่ 6 เพราะที่ดินแปลงนี้เคยเป็นที่ตั้งของบ้านศาลาแดง บ้านของเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ที่ได้รับพระราชทานมาจาก ร. 5 ซึ่งพระยายมราชต้องเสียสละบ้านหลังนี้เพื่อรักษาดินแดน
เรื่องย่อคือในสมัย ร.6 อังกฤษจะมาขอสัมปทานเหมืองแร่ในภาคใต้ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการเอาทหารเข้ามาอำนวยความสะดวก แต่จุดประสงค์จริงๆ คือจะยึดพื้นที่แถวนั้น ร.6 จึงมีกระแสรับสั่งให้เจ้าพระยายมราชไปสร้าง "เหมืองแร่รักษาดินแดน" กันไว้ก่อน จะได้มีข้ออ้างไม่ต้องให้สัมปทาน โดยให้ไปเอาเงินจากพระคลังข้างที่ไปก่อนเพราะเร่งด่วน แต่พอลงทุนไปแล้ว ร.6 สวรรคต เหมืองไม่มีกำไร พระยายมราชจึงต้องมอบที่แปลงนี้ให้พระคลังข้างที่เป็นการใช้หนี้ ต่อมาก็กลายมาเป็นโรงแรมดุสิตธานีในปัจจุบัน โรงแรมดุสิตธานีจะถูกรื้อในปี 2561
3. สถานทูตออสเตรเลีย (2516 / 1973)
ออกแบบโดย Ken Woolley สถาปนิกชาวออสเตรเลีย โดยมีหม่อมหลวงตรีทศยุทธ เทวกุลเป็นสถาปนิกที่ปรึกษา อาคารเป็นสถาปัตยกรรมแนว "New Brutalism" ซึ่งเป็นสไตล์เฉพาะของกลุ่มสถาปนิกชาวออสเตรเลียที่เรียกว่า "Sydney School" ถึงจะเป็นสถาปัตยกรรมสากล แต่อาคารหลังนี้ถูกออกแบบโดยแนวคิดให้อาคารมีเอกลักษณ์และองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมไทย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากวังสวนผักกาด จุดเด่นของอาคารคือใต้ถุนสูง มีน้ำล้อมรอบ บรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก ใช้วัสดุกระเบื้องสีเหลืองที่เป็นวัสดุท้องถิ่นในประเทศไทย ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของอาคารสถานทูตออสเตรเลีย ถนนสาทร ก่อนจะปิดทำการและถูกประมูลขาย
4. สถานทูตอังกฤษ (2465 / 1922)
เดิมสถานกงสุลอังกฤษอยู่ที่บางรัก บริเวณที่ปัจจุบันเป็นอาคารไปรษณีย์กลาง ซึ่งมีปัญหาโรงสีฝั่งตรงข้ามแม่น้ำปล่อยควันดำ และร้านเหล้าแถวนั้นทำเสียงดังชอบมีคนเมาอาละวาด พระยาภักดีนรเศรษฐ หรือ นายเลิศ ซึ่งมีที่ดินแถวเพลินจิตจำนวนมาก ต้องการให้บริเวณนั้นพัฒนา จึงมาเสนอขายที่ดินบริเวณเพลินจิตให้ และขอซื้อที่ดินสถานกงสุลเดิมที่บางรักด้วย สถานทูตอังกฤษจึงย้ายมาอยู่ที่เพลินจิต สถานทูตอังกฤษขายที่ดินส่วนแรก 9 ไร่ไปแล้วเมื่อปี 2549 ปัจจุบันเป็น Central Embassy และกำลังจะขายที่เหลือทั้งหมด 25 ไร่
Nuntadej Sutthideshanai